บล.ไทยพาณิชย์ :บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 8-4-20

Details: Category: บทวิเคราะห์; Published: Wednesday, 08 April 2020 13:40; Hits: 2548

บล.ไทยพาณิชย์ :บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 8-4-20

AAHVO7B แกว่งในกรอบ 1200-1230 จุด และระหว่างวันจะมีความผันผวน

กลยุทธ์การลงทุน:

SET คาดวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 1200-1230 จุด หลังเมื่อวานปรับตัวขึ้นมาแรง ทำให้วันนี้คาดพักตัวเพื่อลดความร้อนแรง ด้านตลาดหุ้นต่างประเทศพักตัวเช่นกัน หลังปรับขึ้นมาโดดเด่นก่อนหน้านี้ด้วยสถานการณ์ COVID-19 ที่มีผู้ติดเชื้อ และเสียชีวิตลดลง เป็นอีกเหตุผลที่มองว่าดัชนีจะเคลื่อนไหวพักตัวในวันนี้ อย่างไรก็ตาม ดัชนียังเต็มไปด้วยความผันผวน โดยติดตาม 2 ปัจจัย ได้แก่ ผลการประชุมกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันในวันพรุ่งนี้ ซึ่งตลาดยังเต็มไปด้วยความไม่แน่ใจ และการรายงานผู้ติดเชื้อ COVID-19 ต่อวัน ด้านกรอบล่างอยู่ที่แนวรับ 1187 จุด หากต่ำกว่า จะเป็นสัญญาณลบ นักเก็งกำไร ยังให้เล่นสั้นจบในวัน

ล็อคเป้าลงทุน:

ทยอยเข้าลงทุนแบบ Selective Buy ในลักษณะ DCA โดยเลือกลงทุนผสมผสานทั้งใน “5 หุ้นธุรกิจผู้นำ” ที่กำไรมีเสถียรภาพ ฟื้นตัวจาก COVID-19 ได้เร็ว มีความสามารถในการแข่งขันสูง ราคาต่ำกว่ามูลค่าเหมาะสม คือ BDMS BEM BTS CPF MINT และใน “5 Value Stocks ที่ราคาถูกกว่ามูลค่าทรัพย์สิน” ซึ่งที่ผ่านมาราคาหุ้นปรับลงจน PBV ต่ำสุดในรอบหลายปี แต่ยังมีแนวโน้มผลการดำเนินงานที่ฟื้นตัวได้ในระยะถัดไป คือ AMATA, DIF, PTTGC, SCC, WHAUP

ส่วนหุ้นน้ำมัน-โรงกลั่น แนะนำทยอยทำกำไร เนื่องจากการประชุม OPEC+ ในวันพรุ่งนี้ ตลาดมีความคาดหวังสูงและสะท้อนประเด็นนี้ไปมาก อีกทั้งต้องระมัดระวังผลการประชุมที่อาจผิดคาดได้ ซึ่งจะทำให้ราคาน้ำมันผันผวนแรง

ประเด็นสำคัญ# ตลาดหุ้นสหรัฐผันผวน ซึมซับปัจจัยบวกไปมากแล้ว

โดยวานนี้ปรับตัวลดลงหลังจากในระหว่างวันขึ้นไปทำจุดสูงสุดกว่า 3-4% ขณะที่ผู้ป่วยใหม่ของสหรัฐเพิ่มขึ้นในอัตราลดลง เช่นเดียวกับอิตาลีและสเปน ด้านตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ลดลง

# ราคาน้ำมันร่วงหนักต่อจากความกังวลอุปทานล้นตลาด

ตลาดจับตารัสเซีย-ซาอุดิฯ ว่าจะลดกำลังการผลิตหรือไม่ ส่วน EIA คาดกำลังผลิตในสหรัฐจะลดลงเพียง 9.5%

# ครม.อนุมัติมาตรการระยะ 3 วงเงิน 1.9 ล้านลบ.

โดยออก พ.ร.ก. เงินกู้ฯ วงเงิน 1 ล้าน ลบ. (ใช้เยียวยา 6 แสน ลบ. และฟื้นฟูเศรษฐกิจ 4 แสน ลบ.) และให้อำนาจ ธปท. ออก พ.ร.ก. 2 ฉบับ ในการออก soft loan ช่วยเหลือ SMEs 5 แสน ลบ. และดูแลเสถียรภาพภาคการเงิน 4 แสน ลบ. นอกจากนี้ยังโอนงบรายจ่ายประจำปี 63 ที่ยังไม่ใช้เร่งด่วนมาเติมในงบกลางอีก 8 หมื่น-1 แสนลบ. เราคาดน่าจะช่วยให้ธุรกิจอยู่ได้ ป้องกันความเสี่ยงเกิดวิกฤติการเงินซึ่งจะลามเป็นวิกฤติเศรษฐกิจได้