- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 13 October 2014 15:08
- Hits: 1980
บล.โกลเบล็ก : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market View : แนวรับ SMA 200วัน 1,537
Technical : แนวรับ : 1,537 / 1,521 แนวต้าน : 1,555 / 1.560
หุ้นแนะนำพิเศษ : SCB แนวรับ 176.50/172.50 แนวต้าน 182/185
หุ้นเด่นรายวัน : TPOLY AKR LH
วันศุกร์ตลาดหุ้นไทยปิดลบ ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,552.72 จุด ลดลง 7.89 จุด(-0.51%) มูลค่าการซื้อขาย 38,476.86 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติพลิกเป็นขายสุทธิ 1,059.87 ล้านบาท
แนวโน้มตลาดหุ้นไทย ทางฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็กฯ คาดมีแนวโน้มผันผวนในกรอบ 1,521-1,569 ตลาดขาดปัจจัยบวกกระตุ้นให้เกิดแรงซื้อต่อเนื่อง การปรับตัวลงเป็นการตอบรับความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจโลกและดัชนีตลาดต่างประเทศ มีโอกาสที่จะกลับตัวขึ้นทางเทคนิค(คาดจะไม่สร้างจุดต่ำใหม่กว่ารอบที่ผ่านมา) ในขณะที่ SET50 ทดสอบยืนแนวรับหลักSMA200วัน 1,030 และต่อจากนี้ไม่สร้างจุดต่ำกว่าลงมาแนวโน้มมีโอกาสทดสอบผ่านแนวต้าน แนวต้าน 1,043 / 1,050 GFV14 เก็งกำไรในกรอบ 18,870-19,180 GFZ14 เก็งกำไรในกรอบ 18,910-19,220
กลยุทธ์ ปริมาณการซื้อขายไม่เพิ่มอย่างมีนัยสำคัญ การกลับตัวขึ้นจะเกิดขึ้นในกรอบจำกัด กลุ่มพลังงานซื้อสะสม PTTEPและPTTGC กลุ่มธนาคารสัปดาห์นี้คาดจะเกิดแรงซื้อเก็งกำไรผลประกอบการกลับเข้ามา ซื้อระยะสั้นเพื่อเล่นรอบ TMB BAY SCB กลุ่มอาหาร CPF TUF กลุ่มสื่อสารแรงซื้อเก็งกำไรเข้ามาต่อเนื่อง แนวโน้มยังคงขึ้นต่อเนื่อง TRUE ADVANC SAMART หุ้นรายหลักทรัพย์ SPVI RCL TSTH RCI ระยะกลาง ปรับลงแรงซื้อเพิ่มเล็กน้อย
หุ้นแนะนำพิเศษ
SCB (ราคาปิด 177.50 ซื้อ เป้าหมาย 228) ปัจจัยพื้นฐาน ยังดีจากการเป็นแบงก์ขนาดใหญ่และกลยุทธ์การเพิ่มส่วนแบ่งตลาดในกลุ่มสินเชื่อผู้ประกอบการSME ที่สนับสนุนการเติบโตของสินเชื่อและเพิ่มความสามารถในการทำกำไร คาดกำไร 3Q57 ราว 13,636 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 7%yoy แต่ลดลง 7%qoq เนื่องจาก 2Q57 มีรายการพิเศษที่เป็นกำไรจากการขายหุ้น SCSMG จำนวน 2.2 พันล้านบาท ในช่วง 9M57 คาดกำไร 41,490 ล้านบาทสูงที่สุดในกลุ่มซึ่งเติบโต 8% คาดกำไรทั้งปี 57 ราว 5.4 หมื่นล้านบาทซึ่งเติบโต 7% จากปี 56 สำหรับกำไรปี 58 คาดการณ์ราว 5.6 หมื่นล้านบาทเติบโต 4%
หุ้นเด่นรายวัน
TPOLY (ปิด 3.84 ซื้อเก็งกำไร)แจ้งข่าวดีได้งานใหม่และไตรมาส 4/57 เตรียมนำบริษัทลูกเข้าตลาด TPOLY แจ้งข่าวดีเตรียมเซ็นสัญญางานก่อสร้างมูลค่าประมาณ 900 ล้านบาทแบ่งเป็นแบ่งเป็นงานก่อสร้างอาคารภายในกรุงเทพมหานคร มูลค่าโครงการประมาณ 420-430 ล้านบาท และโครงการคอนโดมิเนียมที่จังหวัดชลบุรี มูลค่าโครงการประมาณ 400-450 ล้านบาท หนุนงานในมือ (Backlog )เพิ่มขึ้นเป็น 4,000 ล้านบาทรองรับการเติบโตของรายได้อีก 1-2 ปี ขณะที่ไตรมาส 4/57 จะนำบริษัทลูก TPCH เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ช่วยเพิ่ม Sentiment เชิงบวกต่อการลงทุนใน TPOLY (ที่มา:ข่าวหุ้น)
AKR (ปิด 2.32 : ซื้อเก็งกำไร) เตรียมเซ็นสัญญางานจำหน่ายหม้อแปลงไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้านครหลวงมูลค่า 230 ล้านบาทในเดือนต.ค.57 ขณะที่ในอนาคตงานจำหน่ายหม้อแปลงยังมีโอกาสเติบโตสูงโดยเฉพาะในส่วนของโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มที่ยังค้างท่อ 576MW โซลาร์รูฟบนหลังคาบ้านเรือน 60 MW และโซลาร์ชุมชนอีก 800 MW ซึ่งคาดว่าจะมีความต้องการหม้อแปลงประมาณ 1,300 ลูกโดย AKR คาดว่าจะได้งาน 30-40% ขณะเดียวกันยังมีลุ้นได้งานโซลาร์ชุมชน 800MW โดยบริษัทคาดว่าจะได้งานเป็นผู้ผลิตประมาณ 20 MW (ที่มา:ทันหุ้น)
LH (ราคาปิด 9.90 ซื้อ เป้าหมาย 13.20 บาท) ยอดขาย Q3 ทำสถิตินิวไฮทะลุหมื่นล้านบาท เชื่อทั้งปีเกินเป้า 3.2 หมื่นล้านบาท หลัง 9 เดือน มียอดแล้วกว่า 2.6 หมื่นล้านบาท เล็งเปิดอีก 4 โครงการ มูลค่า 5,000 ล้านบาท มั่นใจรายได้โต 9% ตุน Backlog กว่า 1.7 หมื่นล้านบาท เตรียมบินไปโรดโชว์สิงคโปร์ปลายต.ค.นี้ ที่มา:ทันหุ้น)
รายชื่อหลักทรัพย์ที่ติดเกณฑ์บัญชี Cash Balance
* BKD / CSS / SUPER-W1 / TFI มีผลบังคับใช้ 8 ก.ย. - 17 ต.ค. 57
* ABC / BMCL / E / EE / KC / MAX / NUSA / RASA / RPC / SEAOIL / SPVI มีผลบังคับใช้ 15 ก.ย. - 24 ต.ค. 57
* CHUO / CKP / EIC / GUNKUL / MILL-W2 / MLINK / PAE / PF / TCC / XO มีผลบังคับใช้ 22 ก.ย. - 31 ต.ค. 57
* AQ / CYBER / IFEC / KTP / PRINC/ SLC / TGPRO / WIIK มีผลบังคับใช้ 29 ก.ย. - 7 พ.ย. 57
*AJD / BGT / CEI / CGD / DNA / MILL / PE / PRECHA / TH / THANA / TPOLY มีผลบังคับใช้ 6 ต.ค. - 14 พ.ย. 57
* COLOR / SMART / EVER / RICH / SUPER / SOLAR / CWT / TMI / FVC มีผลบังคับใช้ 13 ต.ค. - 21 พ.ย. 57
***เนื่องจากการลงทุนในหลักทรัพย์ ดังกล่าวมีการซื้อขายผิดไปจากสภาพปกติของตลาดดังนั้นผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ
ตลาดหุ้นดาวโจนส์ : ลดลง 115.15 จุด
ดัชนีตลาดหุ้นดาวโจนส์ปิดตลาดปรับตัวลดลง 115.15 จุด เนื่องจากนักลงทุนยังวิตกกังวลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจโลกหลังจากในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีหลายหน่วยงานที่เกี่ยวของกับเศรษฐกิจ อาทิ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปี 2557 ลงสู่ระดับ 3.3% และปี 2558 สู่ระดับ 3.8% ซึ่งลดลง 0.1% และ 0.2% จากที่คาดการณ์ไว้เมื่อเดือนก.ค. ตามลำดับ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยลบจากการที่นักลงทุนกระหน่ำขายหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยี โดยเฉพาะหุ้นในตลาด NASDAQ ที่ลดลงอย่างหนัก หลังจากบริษัทไมโครชิพ เทคโนโลยีได้ออกรายงานเตือนว่า อุตสาหกรรมเทคโนโลยีได้เข้าสู่ภาวะปรับฐานแล้ว และจะเข้าสู่ภาวะ "ปรับฐานลง" เป็นวงกว้างในระยะเวลาอันใกล้นี้ ทำให้ปิดตลาดดัชนีดาวโจนส์ลดลง 115.15 จุด หรือ -0.69% ปิดที่ 16,544.10 จุด ดัชนี NASDAQ ลดลง 102.10 จุด หรือ -2.33% ปิดที่ 4,276.24 จุดดัชนี S&P500 ลดลง 22.08 จุด หรือ -1.15%ปิดที่ 1,906.13 จุด
ตลาดน้ำมัน NYMEX : เพิ่มขึ้น 0.05ดอลลาร์/บาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบที่ตลาดล่วงหน้า NYMEX ส่งมอบเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้น 5 เซนต์ เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อเก็งกำไร หลังจากสัญญาน้ำมันดิบร่วงลงอย่างหนักในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาอย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายในตลาดเป็นไปอย่างซบเซา หลังจากมีรายงานว่าปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมัน (OPEC) ยังปรับตัวสูงขึ้นโดยกลุ่ม OPECรายงานว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของกลุ่มโอเปคโดยเฉลี่ยรายวันของเดือนก.ย.อยู่ที่ระดับ 30.47 ล้านบาร์เรล เพิ่มขึ้น 402,000 บาร์เรลจากเดือนที่ผ่านมา ทำให้ปิดตลาดราคาน้ำมันดิบที่ตลาดล่วงหน้า NYMEX ส่งมอบเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้นเพียง 5 เซนต์ ปิดที่ 85.82 ดอลลาร์/บาร์เรลส่วนน้ำมันดิบ BRENT ส่งมอบเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้น 16 เซนต์ ปิดที่ 90.21 ดอลลาร์/บาร์เรล
Analyst :
ธวัชชัย 02-6725993 [email protected]
วิลาสินี 02-6725937 [email protected]
อาทิตย์ [email protected]
Assistant : ณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์