- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 10 October 2014 16:31
- Hits: 1957
บล.กรุงศรี : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
แนวโน้มและปัจจัยการลงทุนวันนี้
เหนือ 1554 จุดเก็งกำไร – ต่ำกว่า ขาย
SET เปิดตลาดรีบาวด์ +10.3 จุดและทำจุดสูงสุดที่ 1561.79 จุด ปิดตลาดที่ 1560.61 จุด (+17.22 จุด, +1.12%) ขึ้นตามทิศทางตลาดหุ้นภูมิภาคและดาวน์โจนส์ SET50 และ SET100 ขึ้นนำตลาด หรือมีแรงซื้อกลับในหุ้นขนาดใหญ่ขึ้นนำโดยสื่อสาร (+2.5%) ท่องเที่ยว (+2.45%) อสังหาฯ (+2.2%) มีเพียง 4 กลุ่มปรับตัวลดลงสวนตลาดได้แก่ ปิโตรฯ อิเล็ก ทรอนิกส์ อาหาร และยานยนต์ มูลค่าการซื้อเพิ่มขึ้นเป็น 44,703 ล้านบาท ต่างชาติสลับซื้อสุทธิ 1,477 ล้านบาท และกองทุนในประเทศซื้อสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 อีก 2,694 ล้านบาท
ปัจจัยการลงทุนวันนี้
ปลัดก.คลังกล่าวถึงการพิจารณาเรื่องภาษี
การปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) อาจจำเป็นเพียงแต่ต้องรอบคอบเพื่อไม่ให้กระทบประชาชน แต่หากรัฐมีรายได้ไม่พอก็คงต้องปรับขึ้น เพราะจะต้องตั้งงบประมาณขาดดุลทุกปีและหนี้สา ธารณะเพิ่มขึ้น ประเมินว่าการปรับขึ้น VAT 1% จะทำให้มีรายได้เพิ่ม 5-6 หมื่นล้านบาทหากขึ้น 2% จะมีรายได้เพิ่ม 1 แสนล้านบาทหรือเพิ่ม 3% เป็น 10% จะมีรายได้เพิ่ม 1.5-1.6 แสนล้านบาท
อัตราภาษีนิติบุคคลที่ปัจจุบันอยู่ที่ 20% ว่ามีความเหมาะสมหรือไม่ รัฐบาลก่อนได้ต่ออายุไปเพียง 1 ปีในปีหน้าจะต้องกลับมาพิจารณาอีกรอบขึ้นอยู่กับนโยบายรัฐบาลซึ่งจะต้องดูให้แข่งขันกับประเทศในกลุ่มอาเซียนได้ด้วย
กรณีภาษีมรดกจะจัดเก็บแน่นอนโดยจะจัด เก็บจากผู้รับในอัตราคงที่อัตราเดียวและจัดเก็บจากทรัพย์สินที่จดทะเบียนเท่านั้นและจะเก็บจากส่วนที่เกินกว่า 50 ล้านบาทขึ้นไปที่ 10% และยกเว้นสำหรับมรดกมูลค่าไม่เกิน 50 ล้านบาท
ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง กรมธนารักษ์จะต้องประเมินที่ดินให้เรียบร้อยก่อนในระยะแรกจะจัดเก็บอัตราต่ำมากเพื่อไม่ให้กระทบ
ก.คลังปรับลดคาดการณ์ GDP ไทยในปีนี้ที่ 1.7% จากเดิม 2% โดยรัฐบาลได้เร่งออกมาตรการกระตุ้นด้วยการอัดฉีดเม็ดเงินให้เกิดการจ้างงานกว่า 3.24 แสนล้านบาท และอนุมัติส่งเสริมการลงทุนคิดเป็นวงเงิน 3-4 แสนล้านบาทให้เร่งรัด การเบิกจ่ายงบประมาณในไตรมาสแรกของปีงบ ประมาณ 58 (ต.ค.-ธ.ค.57)อย่างต่ำ 50%จากเป้า
ตลาดหุ้นทั่วโลกเช้านี้ปรับตัวลงทุกกระดาน ตรงข้ามจากวานนี้ เงินบาทผันผวนสูง น้ำมันเบรนท์ลดลงต่ำกว่า US$90 ระยะสั้นยังมีความเสี่ยง เราประเมินว่า วันนี้ถ้า SET ยืนเหนือ 1,554 จุดเชื่อว่าจะรักษาแรงซื้อเก็งกำไรในหุ้นรายตัว แนะนำเลือกซื้อหุ้นเก็งกำไร แต่ต้องมีจุดขายตัดขาดทุนสั้น หากตลาดปรับลดลงต่ำกว่าระดับ 1,554 จุดให้ระวังจะเกิดแรงขายใหม่ แนะ นำขาย (ขายเชิงเทคนิค: TMB, BLAND, ITD, QH)
แนวโน้มการลงทุนสำหรับระยะกลาง
ลดพอร์ตถือครองเหลือ 20%
เราได้ลดพอร์ตถือครองหุ้นเหลือ 20% และสัดส่วนการถือครองเงินสด 80% โดยจำนวนหุ้นที่ถือครองอยู่ 4 บริษัทคือ PTTEP, HMPRO, CPALL, และ ADVANC
Accumulate : -- รอสะสมหุ้น
Trading : เลือกซื้อหุ้นเก็งกำไรเหนือ 1554 จุด ต่ำกว่า รอ
เปรียบเทียบดัชนี
สถานะพอร์ตจำลอง (เริ่มวันที่ 25 พ.ย. 56)
พอร์ตหุ้น 20% ถือเงินสด 80%
ผลตอบแทนพอร์ตจำลอง (30%) = +1.1%
ผลตอบแทนถือเงินสด (70%) = +1.6%
ผลตอบแทนรวม (100%) = +2.7%
ผลตอบแทนตลาด SET = +15.4%
พอร์ตลงทุน KSS ได้รับรู้กำไรจากการลดพอร์ต 4 ครั้งในวันที่ 2 ก.ย. ลดจาก 70% เหลือ 60% (ส่วนต่างขาดทุนเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก -0.7%)
วันที่ 5 ก.ย. จาก 60% เหลือ 50% (ส่วนต่างกำไรเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก +3.3%)
วันที่ 16 ก.ย. ขายหุ้นลดพอร์ตจาก 50% เหลือ 30% (ส่วนต่างกำไรเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก +5.9%)
วันที่ 24 ก.ย. ขายหุ้นลดพอร์ตจาก 30% เหลือ 20% (ส่วนต่างกำไรเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก +1.7%)
รวมการรับรู้ส่วนต่างกำไรเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักจากการลดพอร์ต 4 ครั้งคิดเป็น +10.2%
Analysts :
Kasamapon Hamnilrat Registration No. 17622
Apisak Limthumrongkul Registration No. 13130