- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 09 October 2014 18:39
- Hits: 1791
บล.คันทรี่ กรุ๊ป : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ตลาดหุ้นไทยวานนี้'รีบาวด์ จิ๊บจิ๊บ'
SET ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น จากแรงหนุนจากปัจจัยเฉพาะตัวของหุ้นกลุ่มอาหารและมุมมองบวกของนักลงทุนต่อรายงานการประชุม Fed ในช่วงเช้าวันพฤหัสบดี โดยมีแรงซื้อกลับจากฝั่งนักลงทุนสถาบันสวนกับแรงขายของนักลงทุนต่างชาติ ส่งผลให้ SET ปิดที่ 1,543.39 จุด (+4.00 จุด) vol 4.0 หมื่นล้านบาท
ปัจจัยที่คาดว่าจะมีผลกับตลาดหุ้นวันนี้
(+)เนื้อหาในบันทึกการประชุม FOMC เป็นบวกต่อมุมมองการคง Federal fund rate ในระดับต่ำ โดยมีการปรึกษาถึงมุมมองของเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง และความกังวลต่อการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐ นอกจากนี้ยังมีการพูดถึงแนวทางการชี้นำเรื่องอัตราดอกเบี้ยกับตลาดว่าจะไม่ยึดติดกับเวลา
(+)ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนพลังงานเผยคาดว่าจะเสนอ PDP2015 ได้ในกลางเดือนธ.ค.57เป็นบวกกับกลุ่มโรงไฟฟ้าและกลุ่มพลังงานทดแทน
(+) ตลาดฯ เผย CEO Survey 66% คาดเศรษฐกิจจะขยายตัวมากกว่า 1.5%
(+) อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า กรมบัญชีกลางจะเร่งรัดให้ส่วนราชการเบิกจ่ายงบประมาณปี 58 ที่จะเริ่มต้นตั้งแต่ 1 ตุลาคมนี้ ให้เร็วขึ้น
(-) World Bank ประเมินผลกระทบทางเศรษฐกิจของการระบาดของโรคอีโบล่าต่อประเทศในทวีปแอฟริกาที่ระดับ 3.26 หมื่นล้านดอลลาร์
(-) ความกังวลต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก ทั้งจากจีนและฝั่งทวีปยุโรป
(-) ราคาน้ำมันดิบยังต่ำกว่าระดับ 90$/BBL กดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน
(-) Fund Flow ต่างชาติ มี Net Sell เป็นวันที่ 2 ที่ 2.5 พันล้านบาท มียอด Net Sell สะสม 2 วันที่ระดับ 2.7 พันล้านบาท
(+/-) OECD มองเศรษฐกิจโลกยังเติบโตด้วยอัตราค่อนข้างคงที่ ขณะที่ประเทศเยอรมันและอิตาลีไม่สามารถรักษาโมเมน ตัมของการเติบโตได้
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
* ทิศทาง Fund Flow ฝั่งกองทุนจาก LTF/RMF,Trigger Fund เปิดใหม่
* การ Road Show ในสหรัฐ ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
กลยุทธ์การลงทุน “FED ช่วยหนุน”
วันนี้เราคาดว่าตลาดมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังจากที่วานนี้ลงไปทดสอบแนวต้านที่ระดับ 1,530 จุด แต่สามารถกลับมาปิด High ทำให้เรามีมุมมองที่ดีขึ้นจากสัญญาณเทคนิค และได้อิทธิพลของโมเมนตัมของตลาดทุนโลกซึ่งได้ผลบวกจากบันทึกประชุม FOMC สำหรับระยะกลางเชื่อว่าปัจจัยหลักในการกลับทิศจะมาจากเม็ดเงินของกองทุนเป็นหลัก เน้นลงทุนในหุ้นรายตัว โดยเฉพาะหุ้นในธุรกิจที่หุ้น Defensive ที่มีการจ่ายปันผลในระดับดี
หุ้นเด่นประเด็นร้อน
SAMART ราคาปิด 21.00 บาท ราคาเหมาะสม 36 บาท
* คาดกำไรไตรมาส 4/57 จะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปีนี้ จากผลของ Seasonal และรายได้เพิ่มจากการขาย Set top box
* คาดกำไรสุทธิปี 57 เติบโต 21% YoY และอัตราปันผลที่ 3% ต่อปี
* ปี 58 เติบโตเด่นจากนโยบาย Digital Economy เราคาดกำไรปี 58 ที่ระดับ 2,009 ล้านบาท (EPS 2 บาท)
CPALL ราคาปิด 43.50 บาท ราคาพื้นฐาน 49 บาท
* คาดกำไรปี 2557 ที่ 1.1 หมื่นลบ. (+17%YoY) จากการขยายสาขาอีก 600 สาขาเป็น 9,000 สาขา และเป็น 10,000 สาขาในปี 2561
* ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ
* ตั้งแต่ Q357 ต้นทุนการเงินจะปรับตัวลงจากการ refinance หนี้
* การเข้าซื้อ MAKRO เป็นการเสริมศักยภาพและกำไรในระยะยาว
ฝ่ายวิเคราะห์ฯ