- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 09 October 2014 18:34
- Hits: 1800
บล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
(+/-) ตลาดหุ้นต่างประเทศ : DJIA +274.83, NASDAQ +83.39, S&P +33.79, FTSE -13.34, CAC -41.02 และ DAX -90.88 โดยตลาดหุ้นสหรัฐฯ พุ่งขึ้น หลังจากธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ยืนยันกับนักลงทุนว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะไม่เกิดขึ้น จนกว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯจะสามารถรับมือกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวได้ ส่งผลให้นักลงทุนคลายความกังวล ในขณะที่ตลาดอยู่ระหว่างรอการประกาศ ผลประกอบการ – 3Q/57 ของบริษัทเอกชนของสหรัฐฯ
......ตลาดหุ้นยุโรป ส่วนใหญ่ปิดลดลง จากความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจยุโรป และความกังวลว่าไวรัสอีโบลาจะระบาดในยุโรปหลังจากมีชาวสเปนติดเชื้ออีโบลาเป็นรายแรกในยุโรป
…..ราคาปิดน้ำมันดิบ (NYMEX) ส่งมอบเดือน พ.ย. -US$1.54 อยู่ที่ US$87.31 ต่อบาร์เรล หลังจากสหรัฐฯ เปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ พุ่งขึ้นถึง 5 ล้านบาร์เรล สูงกว่าที่ตลาดคาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.5 ล้านบาร์เรล สะท้อนถึงความต้องการใช้ที่ยังคงอ่อนแอ
....ทางด้านราคาทองคำ ส่งมอบเดือน ธ.ค. -US$6.4 อยู่ที่ US$1,206.0 ต่อออนซ์ อย่างไรก็ตามราคาทองคำในตลาดสปอตพุ่งขึ้น หลังจากเฟดแถลงว่าอัตราดอกเบี้ยจะยังคงอยู่ในระดับต่ำ ทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนตัวลง
(-) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ –2,557 ล้านบาท สะสมตั้งแต่ต้นปี -6,568 ล้านบาท (สิ้นปี’56 มียอดขายสุทธิสะสม 193,911 ลบ)
ทิศทางตลาด
ทิศทางตลาด : มีโอกาสรีบาวน์หลังจากตลาดปรับลงแรงเกินไปในช่วงที่ผ่านมา? คาดว่าดัชนีมีโอกาสปรับเพิ่มขึ้น หลังจากดิ่งตัวลงแรงและเร็วเกินไปในช่วงที่ผ่านมา หลังจากสหรัฐฯ เปิดเผยรายงานการประชุมเฟดเมื่อวันที่ 16-17/9/57 กล่าวว่าจะยังไม่ขึ้นดอกเบี้ยนโยบายจนกว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯจะรับมือกับอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นได้ ส่งผลให้นักลงทุนคลายความกังวล ในขณะที่วงเงิน QE คาดว่าจะหมดลงในเดือนตุลาคม ซึ่งถ้อยแถลงดังกล่าวส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐมีแนวโน้มอ่อนค่าลง
....ทางด้านปัจจัยในประเทศ ยังไม่มีประเด็นใหม่ โดยตลาดยังคงรอดูแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ว่าจะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจให้เติบโตได้มากน้อยแค่ไหน หลังจากที่ผ่านมามีความกังวลเกี่ยวกับการเติบโตของแนวโน้มเศรษฐกิจไทย หลังจากหลายค่ายออกมาปรับลดคาดการณ์การเติบโตของ GDP ทั้งปี 57 และปี 58 ในขณะที่เริ่มเข้าสู่ช่วงประกาศผลการดำเนินงาน – 3Q/57 ที่คาดอาจมีแรงเก็งกำไร (+ / -) โดยเฉพาะกลุ่มธนาคารที่คาดทยอยประกาศในช่วงปลายสัปดาห์หน้า ประกอบกับการที่รัฐบาลและ คสช. ยังไม่ประกาศยกเลิกกฎอัยการศึก เริ่มส่งผลกระทบอาจทำให้ฤดูท่องเที่ยวในช่วง 4Q/57 ที่เป็นไฮซีซั่นอาจเกิดภาวะซบเซากว่าปีที่ผ่านมา
.....นอกจากนี้ยังมีประเด็นการเร่งรัดเปิดประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายต่างๆ หลังมีการยื่นซองประมูลโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว เส้นทางหมอชิต – คูคต เมื่อ 30/9/57 ซึ่งมีผู้ยื่นซองทั้งหมด 4 ราย (ITD, CK, STEC และ UNIQ) คาดใช้ระยะเวลา 1 – 3 เดือน ทราบผลการประมูล คาดอย่างเร็วคาดสามารถลงนามสัญญาและเริ่มก่อสร้างในช่วง 1H/58
.....ในขณะที่ราคาน้ำมันดิบที่ลดลงแรง โดยราคาน้ำมันดิบดูไบลดลงมาอยู่ที่ 90 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ส่งผลกระทบทางลบต่อ PTTEP และหุ้นในกลุ่มโรงกลั่นทั้ง TOP, PTTGC, IRPC, BCP และ ESSO จะมีขาดทุนจากสต็อกน้ำมันจำนวนมากในช่วง 3Q/57
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี -0.02 อยู่ที่ 2.33% (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54) และดัชนีความเสี่ยง (VIX) -2.09 อยู่ที่ 15.11
หุ้นแนะนำ : STEC
ประเด็นที่ต้องติดตาม (8 - 10 ตค.’57)
9/10/57 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน (2) สต็อกสินค้าและยอดค้าส่ง - สค.
10/10/57 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ราคานำเข้าและส่งออก - กย.
นักวิเคราะห์ : ศักดิ์นรินทร์ ศศานนท์ 02-684-8789