- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 09 October 2014 18:13
- Hits: 1799
บล.เคเคเทรด : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
SET รีบาวน์ช่วงสั้น
SET View
แนวโน้มวันนี้คาด SET มีโอกาสรีบาวน์ในกรอบจำกัดบริเวณ 1535-1555 จุดจากจิตวิทยาการลงทุนทั้งลบและบวก ด้านปัจจัยลบ ต่างชาติขายคงขายสุทธิ 2.5 พันล้านบาทขณะที่กลุ่มธนาคารยังมีโอกาสถูกปรับลดคาดการณ์อัตราเติบโตของสินเชื่อหลังประกาศงบราวกลางเดือนนี้ แต่ปัจจัยบวกได้แก่ (1)มีโอกาสเปิดบวกตามตลาดหุ้นภูมิภาคที่เปิดบวก หลังดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 274 จุดเมื่อคืนนี้ (2)ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐวัดโดย US Dollar Index เริ่มอ่อนตัวลง อาจเห็นการรีบาวน์ของสินค้าโภคภัณฑ์โดยเฉพาะราคาน้ำมันดิบรวมถึงหุ้นกลุ่มพลังงานในระยะสั้น (3) อัตราดอกเบี้ยพันธบัตรอายุ 10 ปีของสหรัฐปรับลงมาที่ 2.33%ต่ำสุดในรอบ 16เดือน บ่งบอกถึงสภาพคล่องส่วนเกินในตลาดการเงินยังมีอยู่สูง
ทางเทคนิค หาก SET สามารถปิดเหนือ 1530 จุดจะมีโอกาสรีบาวน์ไปที่ 1575-1585 จุด (61.8%-76.4% Fibonacci)ในระดับสัปดาห์ หากปิดต่ำกว่าจะจบรอบการรีบาวน์ โดยมีแนวรับถัดไปบริเวณ 1500 จุดหรือต่ำกว่า
กลยุทธ์การลงทุน ระยะ 1-2 วันถือครองหุ้นหรือทยอยสะสมเมื่อราคาอ่อนตัวลงและไม่ไล่ราคาเพื่อไปรอไปขายช่วงรีบาวน์ แต่หาก SET ปิดต่ำกว่า 1530 จุดเน้นถือครองเงินสด
(1)Top Daily Pick :AP(ราคาหุ้น laggard กลุ่มสร้างบ้านระยะสั้นมีปัจจัยสนับสนุนจาการจ่ายหุ้นปันผลอัตราส่วน 10:1 ขึ้น XD 20 ต.ค.นี้)SST (การขายธุรกิจน้ำมันพืชที่ไม่ทำกำไรออกไปช่วยลดภาระขาดทุนได้ปีละ 70 ล้านบาท ขณะที่ 3Q57 จะรับรู้กำไรจากการขายสินทรัพย์กว่า 332 ล้านบาท และ4Q57 จะเริ่มรับรู้กำไรจาก Greyhound ทำให้ผลประกอบการพลิกกลับมาเป็นกำไรในปีนี้)
(2)Technical Pick :PTT TRT AQUA GENCO CPF
(3)Theme Play : กลุ่มสื่อสารนำตลาดที่คาดผลประกอบการ 3Q57 ออกมาดี (ADVANC DTAC INTUCH THCOM) หุ้นที่เราแนะนำ “เก็งกำไร” และมี upside มากกว่ามูลค่าเหมาะสมเกิน 15% (EFORL LH AP TOP QH AOT PS SF)
Fundamental Talk
นักลงทุนระยะกลาง แนะนำขาย TRUE มาเข้า JAS
1.JAS (ซื้อ /มูลค่าเหมาะสม 8.15 บาท) วันที่ 27 ต.ค. จะมีนัดประชุมผู้ถือหุ้นอนุมัติการจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน โดยเราให้น้ำหนักที่ JAS จะสามารถจัดตั้งได้สำเร็จโดยล่าสุดได้ปรับรายละเอียดโดยสินทรัพย์ที่จะนำเข้ากองทุนเหลือแต่เส้นใยแก้วนำแสงเส้นหลักโดยตัดช่วง cable ที่เชื่อมเข้าไปถึงลูกค้าออกไป,ไม่มีการนำหุ้นของบ.ลูกที่ติดปัญหาเรื่องคดีความอยู่ เป็นหลักประกันแก่กองทุน และปรับเงื่อนไขการเช่าให้สอดคล้องกับเงื่อนไขของ กสทช. ที่จะต้องให้มีผู้เช่ารายอื่นมาร่วมเช่าได้การปรับเปลี่ยนเงื่อนไขนี้แม้จะทำให้ขนาดทรัพย์สินของกองทุนลดลงเล็กน้อยแต่ที่ปรึกษาทางการเงินอิสระของ JAS ประเมินมูลค่ากองออกมาใกล้เคียงกับแบบเดิมจาก (1)ประเมินอายุสินทรัพย์ยาวขึ้นเป็น 20-25 ปี จากเดิม 15-20 ปี (2)ปรับลดประมานค่าใช้จ่ายลง 30% (3)มี EBITDA เพิ่มขึ้น 10%
•เราคาดจะเปิดขายกองทุนภายใน 1Q57 และJAS จะได้มูลค่าเพิ่มต่อหุ้นราว 1.1 บาทและมีโอกาสจ่ายปันผลพิเศษได้
•ในวันเดียวกันนี้ JAS ยังมีนัดส่งงบการเงินที่ถูกให้แก้ไขเพิ่มประมานการหนี้ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากคำพิพากษา โดยเราคาดว่าจะบันทึกไม่เกิน 1.3 พันล้านบาทคิดเป็นมูลค่าแค่ 0.19 บาทต่อหุ้น แม้เป็นรายการที่ไม่เกี่ยวข้องกับเงินสดแต่อาจทำให้กำไรทางบัญชีลดลงและมีผลต่อการจ่ายเงินปันผลปีนี้
2.TRUE (ขาย /มูลค่าเหมาะสม 9.4 บาท) การเพิ่มทุนของ TRUE จะนำเงินไปชำระคืนหนี้ซึ่งทำให้ลดภาระดอกเบี้ยจ่ายและฟื้นโครงสร้างเงินทุนให้ดีขึ้นได้แต่เราประเมินว่าแม้ลดภาระดอกเบี้ยไปแล้ว TRUE จะยังคงมีผลขาดทุนจากธุรกิจปกติ 3Q57 ราว 2.2 พันล้านบาท แย่ลงจากขาดทุน 1.1 พันล้านบาทใน 2Q57 ก่อนที่จะกลับมามีกำไร ราว 690 ล้านบาทใน 4Q57 จากดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลง และการส่งมอบเสาให้ TRUEGIF เพิ่มขึ้น และจะมีกำไรในปี 58 เพียง 1.6 พันล้านบาท ขณะที่ตลาดให้มูลค่ากับการเข้ามาถือหุ้นของ China mobile มากเกินไปจนราคาหุ้นไม่มี upside จากมูลค่าเหมาะสม ทั้งที่เป็นปัจจัยบวกที่ยังไม่ชัดเจน
เราแนะนำให้ “ขาย”TRUE ไป “ซื้อ”JAS แม้ทั้งคู่จะมีกำไรพิเศษจากการออกกองทุนโครงสร้างพื้นฐานเหมือนกันแต่แนวโน้มการเติบโตของTRUE ยังไม่ชัดเจน การซื้อขายที่สูงถึง 165xP/E’57 และไม่จ่ายปันผลขณะที่ตลาดกลับตอบสนองเชิงบวกต่อการเพิ่มทุนไปแล้ว ในขณะที่ JAS ยังมีกำไรที่แข็งแกร่งจากธุรกิจปกติและซื้อขายเพียง 12xP/E’57 ถูกสุดในบรรดาหุ้นกลุ่มสื่อสารขนาดใหญ่แต่ตลาดตอบสนองต่อข่าวร้ายเกินกว่าผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจริงโดยเฉพาะวันนี้เป็นวันสุดท้ายที่ครบกำหนดหนึ่งเดือนที่ TT&T มีสิทธิยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลที่ยกคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราวคดีพิพาทเรื่องสัดส่วนการถือหุ้นใน TTTBB หากราคาหุ้นตอบสนองในเชิงลบจากปัจจัยดังกล่าว จะเป็นโอกาสเข้าทยอยสะสมเพื่อลงทุนระยะกลาง (มากกว่า 6 เดือน) ขึ้นไป
Smart Port Note
TOG วานนี้บวก 3.48% เรามองที่ผ่านมา 2 ปี TOG ให้ผลตอบแทนจากปันผลกว่า 7% ต่อปี แม้ว่าปีนี้คาดอัตราการจ่ายปันผลจะลดลง แต่มองเป็นปัจจัยบวกต่อแนวโน้มการเติบโตของยอดขายในอนาคต เพราะบริษัทเตรียมเงินลงทุนไว้สำหรับการขยายกำลังการผลิต
Beta ของพอร์ตลงทุนแสดงถึงความเสี่ยงของหุ้นในพอร์ตเทียบกับ ตลาด SET หากค่า Beta สูงกว่าหนึ่งเท่า แสดงถึงความเสี่ยงของ พอร์ตลงทุนที่สูงกว่า SET
Growth Port มีค่า Beta เท่ากับ 1.36
Trading Port มีค่า Beta เท่ากับ 0.98
Dividend Port มีค่า Beta เท่ากับ 0.87
Quant Port มีค่า Beta เท่ากับ 0.40