- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 29 November 2019 16:19
- Hits: 5354
บล.เคจีไอ : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ (รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
แกว่งลงต่อ รอปัจจัยเศรษฐกิจโลกเพิ่มเติมสัปดาห์หน้า
KGI ประเมิน SET Index วันศุกร์ (และวันทำการสุดท้ายของ พ.ย.) ปรับลงต่อ... หลังจากเมื่อวานนี้ดัชนีฯ ปรับลงหลุดระดับสำคัญทางจิตวิทยาที่ 1,600 จุด (ใกล้เคียงที่ประเมิน) ตามปัจจัยต่างประเทศที่เป็นลบมากขึ้น... ส่วนในวันนี้คาดว่าความกังวลต่อประเด็นสหรัฐฯ และจีนยังคงอยู่ หลังจากโดนัลด์ ทรัมป์ลงนามกฎหมายติดตามความเป็นอิสระของฮ่องกง ส่งผลให้ทางการจีนแถลงประณามสหรัฐฯ และขู่จะตอบโต้ทางการฑูต ซึ่งปัจจัยดังกล่าวผนวกกับการที่ตลาดการเงินสหรัฐฯ ปิดทำการเมื่อคืนในวันขอบคุณพระเจ้า น่าจะกดดันตลาดหุ้นเอเชียและหุ้นไทยในวันนี้ ขณะที่ในช่วงบ่ายวันนี้ ธปท. จะรายงานตัวเลขเศรษฐกิจเดือน ต.ค. ซึ่งจะเป็นข้อมูลเบื้องต้นเพื่อประเมิน GDP ไตรมาส 4/2562... สำหรับสัปดาห์หน้า (2-6 ธ.ค.) ปัจจัยที่น่าจะมีผลต่อตลาดได้แก่ i) ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญเช่น ISM ภาคการผลิต ISM ภาคบริการ รวมทั้งตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร ii) ข่าวสารการเจรจาการค้าสหรัฐฯ และจีน ซึ่งฝ่ายวิจัยฯ ยังคงมุมมองว่า เพื่อประโยชน์ทางเศรษฐกิจของทั้งสองฝั่ง ทั้งสหรัฐฯ และจีนจะบรรลุข้อตกลงการค้าก่อนเส้นตายวันที่ 15 ธ.ค. และ iii) ความชัดเจนของรายละเอียดกองทุน LTF ตัวใหม่ที่จะเริ่มใช้ในปี 2563
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน (สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
เก็งกำไร BCPG*, RS*, KBANK*
BCPG* (เป้าพื้นฐาน 21 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 16.9 บาท / แนวต้าน 17.5 - 18.0 บาท (Stop loss 16.5 บาท) 2) ฝ่ายวิจัยฯมีมมุมองบวก หลังการเยี่ยมชมโรงไฟฟ้าพลังความร้อนใต้พิภพที่อินโดนีเซียและได้ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับการลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำที่ลาวจากผู้บริหาร โดยประเมิน i) การเจรจาเปลี่ยนสัญญาขายไฟให้กับการไฟฟ้าลาวเป็นขายตรงให้กับการไฟฟ้าเวียดนาม เป็นบวกต่อผลการดำเนินงานของโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ (69MW) ที่ลงทุน (อยู่ระหว่างเจรจาปรับสัญญาขายไฟ) ii) ประเมินการเข้าซื้อโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำจะทำให้ BCPG* มีโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนครบทุกรูปแบบในหลายประเทศ ลดความเสี่ยงปัญหาภัยธรรมชาติ 3) ฝ่ายวิจัยฯเลือก BCPG* เป็น Top pick ของกลุ่มฯ โดยประเมินปีหน้ากำไรโต +26% YoY, PE 14.7 เท่า, Dividend yield 5.5%
RS* (เป้าพื้นฐาน 14.3 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 13.5 บาท / แนวต้าน 14.0 - 14.5 บาท (Trailing stop 13.2 บาท) 2) ราคาหุ้นปรับลงแรงสะท้อนผลการดำเนินงานที่ต่ำคาดใน 3Q62 แล้ว และฝ่ายวิจัยฯคาดผลการดำเนินงาน 4Q62 จะฟื้นตัว QoQ 3) ประเมินมี Downside จำกัด ขณะที่มี Upside จากความร่วมมือเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับ บ.ต่างๆ อาทิ BTS*, WORK* เป็นต้น ซึ่งคาดจะเริ่มเห็นผลบวกต่อผลการดำเนินงานในปี 2563 โดยฝ่ายวิจัยฯยังไม่รวมโอกาสดังกล่าวในประมาณการฯและราคาเป้าหมาย
KBANK* (เป้าพื้นฐาน 194 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 155 บาท / แนวต้าน 158 - 163 บาท (Trailing stop 153 บาท) 2) ประเมินมีโอกาสเป็นเป้าหมายการซื้อคืนของนักลงทุน เนื่องจาก i) Valuation ถูก โดย PBV ปี 2563 = 0.87 เท่า ขณะที่คาด ROAE 10.9% และ ii) ประเมินราคาหุ้นที่ปรับลงสะท้อนความกังวลการใช้มาตรฐานบัญชีใหม่ไปแล้ว
หุ้นเชิงปริมาณ & พื้นฐาน "Quantamental"
Pair trade แนะนำ เปิด Long HMPRO* + Short GLOBAL* (ขาดทุน -4.2%) ... แนะนำปิดสถานะตัดขาดทุนกรณีขาดทุนรวมเกิน -5%
หุ้นมีข่าว
(+) TMB* ซื้อขายเสร็จ 3 ธ.ค.นี้ ได้เงิน "TSR" 3.8 หมื่นล้าน TCAP*-โนวาสโกเทีย ใช้สิทธิซื้อราคา 2.10 บาท (ข่าวหุ้น) แบงก์ทีเอ็มบี (TMB*) ย้ำกระบวนการซื้อขายหุ้นธนาคารธนชาต (TBANK) จะแล้วเสร็จทั้งหมดในวันที่ 3 ธ.ค.นี้ ส่วนการใช้สิทธิซื้อหุ้นเพิ่มทุน (TSR) คิดเป็น 90% วงเงิน 3.8 หมื่นล้านบาท เผยแม้จะต่ำกว่าเป้า 4.25 หมื่นล้านบาท แต่ยืนยันไร้ปัญหา ส่วน TCAP* กับ โนวาสโกเทีย คาดราคาใช้สิทธิอยู่ที่ 2.10 บาท ขณะที่ต้นปี 63 เตรียมตั้งบอร์ดของแบงก์ใหม่ และการควบรวมจะแล้วเสร็จทั้งหมดภายใน 18 เดือน
(+) EA* หวังธุรกิจใหม่ดันรายได้ทะลุ 2 หมื่นล. (กรุงเทพธุรกิจ) "พลังงานบริสุทธิ์" คาดรายได้ปีหน้าทะลุ 2 หมื่นล้าน โต 61% จากปีนี้ เหตุรับรู้รายได้ธุรกิจใหม่ "ขายรถยนต์ไฟฟ้า-กรีนดีเซล-พีซีเอ็ม" ส่วนโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนปรับตัวสูงขึ้น หลังรับรู้รายได้เต็มปี 644 เมกะวัตต์ สร้างกระแสเงินสด ปีละ 1.1 หมื่นล้าน พร้อมทุ่มงบลงทุนปีหน้า 7.38 พันล้าน
(+) บอร์ด JAS* อนุมัติ ปันผลระหว่างกาล หุ้นละ 0.30 บาท (ทันหุ้น) บอร์ด JAS* อนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในอัตราหุ้นละ 0.30 บาท โดยจะขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 11 ธันวาคมนี้ ขณะที่ราคาหุ้นพักเที่ยง -0.40%
(+) SGP* ทุ่ม 3.8 พันล้านซื้อ TPP รีโนเวตคลังก๊าซปั๊มยอดปี 63 (ทันหุ้น) SGP* ทุ่มงบ 3.7-3.8 พันล้านบาท ซื้อหุ้น TPP เพิ่มอีก 30% - ปรับปรุงคลังก๊าซ พร้อมออกหุ้นกู้ชุดใหม่กว่า 2 พันล้านบาท คาดชัดเจนเดือนธันวาคมนี้ "จินตนา กิ่งแก้ว" วางเป้ายอดขายปี 2563 เติบโต 10% ขานรับออเดอร์ LPG ในประเทศ-ต่างประเทศขยายตัว
หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
SPA (เป้า Consensus 15.8 บาท) แนะนำ "Let profit run" โดยกำหนด Trailing stop ล๊อกกำไร 15.6 บาท
PSH* (เป้า Consensus 17.1 บาท) ประเมินแนวรับ 15.5 บาท / แนวต้าน 16.2 - 16.6 บาท (Stop loss 15 บาท)
JMART (เป้า Consensus 12.3 บาท) ประเมินแนวรับ 9.4 บาท / แนวต้าน 10.0 - 10.4 บาท (Stop loss 9.35 บาท)
DELTA* (เป้าพื้นฐาน 57 บาท) ประเมินแนวรับ 46 บาท / แนวต้าน 48 - 49.5 บาท (Stop loss 44 บาท)
GULF* (เป้าพื้นฐาน 198.5 บาท) ประเมินแนวรับ 170 บาท / แนวต้าน 176.5 บาท (Stop loss 170 บาท)
MEGA* (เป้าพื้นฐาน 39 บาท) ประเมินแนวรับ 30.5 บาท / แนวต้าน 31.5 - 32.75 บาท (Stop loss 29.5 บาท)
PLANB* (เป้าพื้นฐาน 11.4 บาท) ประเมินแนวรับ 8.0 บาท / แนวต้าน 8.5 บาท (Stop loss 8.0 บาท)
TPCH (เป้า Consensus 15.2 บาท) ประเมินแนวรับ 12.3 บาท / แนวต้าน 12.6 - 13.0 บาท (Stop loss 11.8 บาท)
TCAP* (เป้าพื้นฐาน 61 บาท) ประเมินแนวรับ 55 บาท / แนวต้าน 56 - 58 บาท (Trailing stop 54 บาท)
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
กลุ่มสื่อสาร น้ำหนักลงทุน "เท่ากับตลาดฯ" ฝ่ายวิจัยฯปรับน้ำหนักการลงทุนในกลุ่มสื่อสารลงเป็น "เท่ากับตลาดฯ" จาก i) มุมมองที่เป็นลบในเรื่องของสงครามราคาในอุตสาหกรรมฯ ฝ่ายวิจัยฯจึงปรับลดประมาณการฯหุ้นในกลุ่มฯลง ii) Downside จากการประมูล 5G ในต้นปีหน้า เลือก ADVANC* และ INTUCH* เป็น Top pick จากปันผลที่ยังน่าสนใจ และยังมี Upside จากราคาพื้นฐาน ... อ่านรายละเอียดการปรับประมาณการฯหุ้นรายตัวของกลุ่มฯในบทวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานวันนี้เพิ่มเติม
อดิศักดิ์ คำมูล
66.2658.8888 ต่อ 8843