- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 28 November 2019 15:56
- Hits: 1130
บล.เออีซี : Daily Focus
AECS Daily Focus
--------------
Market Outlook
• วันนี้คาด SET Index ปรับตัวลง โดยแม้รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ GDP ช่วง 3Q62 ของสหรัฐฯ ออกมาดีกว่าคาด แต่ต้องระมัดระวังประเด็นการเมืองหลังประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทรัมป์ลงนามบังคับใช้กฎหมายสนับสนุนประชาธิปไตยในฮ่องกง คาดเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อ Trade war ที่ใกล้บรรลุข้อตกลงเฟสแรก ขณะที่ปัจจัยในประเทศรายงานตัวเลขผลผลิตอุตสาหกรรมหดตัว สะท้อนภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่ยังชะลอตัว ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวที่ 1,595-1,610 จุด
• Market Factor
• (+) ประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวกับสื่อว่าการเจรจาการค้าเฟส 1 ใกล้บรรลุข้อตกลงแล้ว บวกกับกำลังอยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของการทำข้อตกลง และการเจรจาผ่านทางโทรศัพท์ของเจ้าหน้าที่ระดับสูงในช่วงที่ผ่านมายังส่งผลเชิงบวกต่อการเจรจาการค้า
• (+) สหรัฐฯ รายงานตัวเลขเศรษฐกิจออกมาดี หลังประมาณการ GDP 3Q62 ออกมาที่ระดับ 2.1% มากกว่าที่ตลาดคาดที่ระดับ 1.9% และยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนออกมาที่ระดับ 0.6% มากกว่าที่ตลาดคาดที่ระดับ 0.2%
• (0) ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) รายงาน Beige Book โดยรายงานกล่าวถึงเศรษฐกิจขยายตัวปานกลางในช่วงเดือน ต.ค. และกลางเดือน พ.ย. บวกกับภาคแรงงานยังคงตึงตัวโดยคาดการประชุม Fed ครั้งถัดไปในวันที่ 10-11 ธ.ค. 62 จะยังคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 1.50-1.75%
• (watch) ติดตามประเด็นความเสี่ยงทางการเมือง หลังประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามบังคับใช้กฏหมายสนับสนุนประชาธิปไตยในฮ่องกง อาจส่งผลต่อ sentiment เชิงลบในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีนเฟส 1
• (-) สศอ. เผยดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือน ต.ค.62 อยู่ที่ระดับ 95.70 หดตัว 8.45%YoY ลดลงต่ำกว่าคาด โดยเป็นผลจากการหยุดซ่อมบำรุงงโรงกลั่นน้ำมัน และผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง คาดทั้งปี 62 หดตัว 3.8%YoY (ไทยโพสต์)
• ปรับลดประมาณการ EPS โดยข้อมูลจาก Bloomberg Consensus พบว่าเมื่อต้นปี EPSปี 62 ที่ 115.13 บ. ขณะที่ปัจจุบันเหลือเพียง 92.21 บ. หรือลดลง 19.04%YTD
• Update Flow เมื่อวานนี้ต่างชาติขายสุทธิต่อในตลาดหุ้นไทย 1,072.78 ลบ.ส่งผลภาพรวม MTD.ต่างชาติขายสุทธิเพิ่มเป็น 2,853.75 บ.ขณะที่นลท.สถาบันซื้อสุทธิ MTD.เพิ่มขึ้นเป็น 3,809.13 ลบ.
Investment Strategy
• วันพฤหัสบดีถึงวันศุกร์นี้ เรามอง SET Index มีความเสี่ยงจากแรงเทขายทำกำไรจากหุ้นที่รีบาวด์กลับขึ้นมา โดยแม้จะมีประเด็นหนุนจาก Trade war ที่มีความคืบหน้ามากขึ้น และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของไทยที่ออกมา แต่ประเด็น Trade war ดังกล่าว อาจพลิกกลับเป็นลบได้ หลังมี Sentiment เชิงลบจากการที่ทรัมป์เซ็นสัญญากฎหมายสนับสนุนประชาธิปไตยในฮ่องกง ช่วงนี้เราแนะนำทยอยขายทำกำไรหุ้นที่ปรับขึ้นมา ส่วนท่านที่ยังไม่มีหุ้นให้รอตลาดย่ออีกครั้งและทยอยเก็บหุ้นคาดมีผลประกอบการดี รวมถึงเรายังคงแนะนำหุ้น 3 กลุ่มที่สามารถทยอยซื้อลงทุนได้ในระยะ 3-6 เดือน ดังนี้
• หุ้นกลุ่มที่จะได้ประโยชน์จากแผนกระตุ้น ศก.ของรัฐฯ ทั้งมาตรการท่องเที่ยว, ชิมช้อปใช้และงานประมูลภาครัฐฯ: แนะนำหุ้นที่ได้ประโยชน์และมี Upside ได้แก่ SEAFCO (แม้ช่วง 2H62 คาดรับรู้งานลดลง แต่ยังมี Backlog 2.3 พัน ลบ. คาด Secured Revenue 100% ในช่วงที่เหลือของปีนี้ บวกกับยังมี Upside Risk จากงานประมูลใหม่อีก 1.9 หมื่น ลบ.), ERW (ช่วง 3Q62 กำไรโตเล็กน้อย 3%YoY หลังรายได้จากโรงแรมเพิ่มขึ้น 5%YoY เรามองช่วงปลายปียังมีโอกาสฟื้นตัวจากการกลับมาเปิดโรงแรมใหม่ 9 แห่ง อีกทั้งมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวจาก ครม.และมีสัญญาณฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวชาวจีน หลังจำนวนนักท่องเที่ยวจีนยังคงฟื้นตัวต่อเนื่อง), CPALL (ช่วง 3Q62 กำไรโต 8.3%YoY จากยอดขายที่เพิ่มจาก 7-11 กว่า 11,640 สาขา (ก.ย.62) และ MAKRO โดยบริษัทยังคงเป้าขยายสาขาต่อเนื่องให้ถึง 13,000 สาขาในปี 64 , MINT (ช่วง 3Q62 กำไรโต 347%YoY ด้วยกำไรพิเศษจากการขายโรงแรมที่โปรตุเกส บวกกับช่วง 4Q62 เรามองฟื้นตัวต่อด้วยธุรกิจโรงแรมและอาหารหลังตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนยังคงฟื้นตัวต่อเนื่องจากฐานปีก่อนที่ลดลง)
• กลุ่มที่คาดผลดำเนินงานมีแนวโน้มดีต่อเนื่อง: เหมาะกับการทยอยซื้อสะสม โดยเน้นหุ้นที่กำไรช่วง 2Q62 คาดโต YoY และช่วง 2H62 โตต่อ แนะนำ SAWAD (คาดกำไรปี 62 โต 30.8%YoY หนุนด้วยเป้าพอร์ตสินเชื่อโต 20-30% และอีก 300 สาขา, Asset Yield ฟื้นตัวตามสัดส่วนการรับรู้รายได้ผ่านสัญญาเงินกู้ผ่าน BFIT ที่มากขึ้นโดยล่าสุด SAWAD รายงานการถือครองหุ้น BFIT หลัง Tender Offer ที่ 82.04% บวกกับต้นทุนทางการเงินที่ปรับลงหลังได้รับเงินเพิ่มทุนจากพันธมิตร), SELIC (ช่วง 3Q62 ทำAll time high ทั้งรายได้และกำไร คาดปี 62 เห็นการ Turnaroundของกำไรหลังเริ่มรวมงบการเงินกับ PMCT ซึ่งคาดเห็น Synergy ชัดเจนขึ้นจากการพัฒนาสินค้าใหม่และการขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มใหม่), SABINAช่วง 3Q62 กำไรสุทธิโต 11%QoQและ 6%YoY หลังอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็น 54% หลังได้อานิสงส์บาทแข็งค่าเมื่อเทียบหยวนจากการเพิ่มสัดส่วนจ้างโรงงานจีนผลิตสินค้า ขณะที่ 4Q62 คาดยอดขายจะเร่งตัวขึ้นผ่านการจัดโปรโมชั่น และการทำการตลาดส่งท้ายปี รวมถึงการรุกขยายช่องทางขายผ่าน Online มากขึ้น คาดเห็นการเติบโตต่อเนื่องใน 4Q62 ทั้ง QoQ,YoY
• หุ้นกลุ่มร.พ.ขนาดกลางที่คาดกำไรช่วง 2H62โต เข้าสู่ High Season:PR9(มองทั้งปี 62 โตต่อ หลังกำไร 9M62 โต 10.9%YoY) บ.ยังมีศักยภาพในการเติบโตหลังแนวโน้มการทำกำไรเร่งตัวขึ้นสะท้อนผ่าน EBITDA Margin ช่วง 9M62 ปรับตัวเพิ่มขึ้นที่ 17.7% (จาก 17.2% ช่วง9M61) บ.มีแผนการเติบโตที่สดใส เนื่องจาก บ.ถือเป็น Cash Company มีเงินสดต่อหุ้นมากกว่า 2 บ.เตรียมเปิดตึกใหม่ต้นปี 63 เพื่อรองรับลูกค้าได้เพิ่มกว่าเท่าตัวหลังเกิด Over demand ในกลุ่มลูกค้า ICU-CCU (คิดเป็นกว่า 30% ของรายได้)และศูนย์บริการที่ถือเป็นไฮไลท์ใหม่อย่าง Pain Management and Wellness Center ขยายฐานลูกค้าต่างชาติครอบคลุมทั้งจีนและกลุ่มอาเซียน รวมถึงกลุ่มลูกค้าประกันองค์กรและผู้ประกันตนด้วย คาดหนุน บ.มีโอกาส คุ้มทุนได้เร็วกว่าที่ตลาดคาด นอกจากนี้ Consensus ให้ Valuation ที่ถูกสุดเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรม ทั้งในแง่ Forward PE เพียง 23.17X ,P/BV 1.78X และEV/EBITDA 10.23X (อุตสาหกรรมอยู่ที่ PE 31.40X,P/BV 4.49X และEV/EBITDA 20.32X)
• Trading Idea
• หุ้นฟื้นตัว 4Q62 ต่อเนื่องปี 63: BGC ลุ้นกำไรฟื้นตัวช่วง 4Q62 หลังแนวโน้ม Gross margin จะเร่งตัวขึ้นจาก Efficiency rate เตาหลอมแก้วที่ราชบุรีเริ่มดีขึ้น บวกกับเริ่มรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าเวียดนามกำลังผลิตรวมกว่า 100 MW ตั้งแต่ช่วงต้นปี 63 เป็นต้นไป นอกจากนี้ Consensus คาดปันผลปี 63 ให้ Yield กว่า 5.4%
• หุ้นที่มีกำไรช่วง 3Q62 โตดี และคาดโตต่อเนื่องช่วง 4Q62 บวกกับทั้งปี 62-63 โต YoY: MINT, CHG, BCH, RJH, TFG
• CPF ช่วง 4Q62 คาดกำไรโต 8%YoY จากราคาไก่และหมูทั้งไทยและต่างประเทศที่เริ่มฟื้นตัว โดยหลักมาจากทั้งเวียดนามและจีนที่เผชิญกับโรค ASF และคาดราคาหมูยังคงทรงตัวต่อเนื่องในปีหน้าจากความเสี่ยงโรคระบาด คาดหนุนกำไรปี 63 โต 15%YoY
27-Nov-19 Change (pts.) 26-Nov-19
SET Index 1,607.27 -2.11 1,609.38
SET50 Index 1,084.13 0.43 1,083.70
SET100 Index 2,378.94 -0.67 2,379.61
High 1,613.81 Gainers 593
Low 1,604.34 Unchanged 578
Value (Bt m) 51,261.85 Losers 977
Volume (*000) 17,956,457
Market Valuation
SET Data 2019F 2020F Long Term
Fwd PER (x) 17.2 15.5 15.5
EPS Growth (%) 13.9 9.3 -7.1
EV/EBITDA (x) 0.0 0.0 0.0
FWD PBV (x) 1.8 1.7 1.6
Dividend Yield (%) 3.0 3.3 3.5
ROE 9.9 10.2 10.4
Net Buy/Sell by Investor Types
Unit : M Bt 27-Nov-19 WTD MTD YTD
Institution 144.22 4,112.68 3,809.14 28,473.67
Proprietary 916.09 1,811.53 5,105.43 15,561.30
Foreign (1,072.78) (1,578.25) (2,853.74) (15,927.89)
Individual 12.48 (4,345.96) (6,060.84) (28,107.08)
AECS ( Fundamental and Strategic Team )
จิรภัทร โบสุวรรณ (ID. 040051) [email protected]
ภัทรพล จันทร์อินทร์ (ID. 089932) [email protected]
ธีรยุทธ ฤทธิเผ่าพันธุ์ ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์ Data Support / Secretary