- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 27 November 2019 16:10
- Hits: 937
บล.เออีซี : Daily Focus
AECS Daily Focus
-------------
Market Outlook
• วันนี้มอง SET Index ลุ้นรีบาวด์ แม้รายตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาค่อนข้างแย่ แต่คาดถูกชดเชยด้วยปัจจัยบวกจากความคืบหน้า Trade war ที่ใกล้บรรลุข้อตกลงเฟสแรก และราคาน้ำมันที่มีแนวโน้มฟื้นตัวหลังตลาดคาดกลุ่มโอเปกเตรียมขยายระยะเวลาที่ปรับลดกำลังผลิตออกไป ขณะที่ปัจจัยในประเทศมีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงท้ายปีหนุนบรรยากาศการลงทุนช่วงสั้น ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวที่ 1,605-1,620 จุด
• Market Factor
• (-) สหรัฐฯ รายงานตัวเลขเศรษฐกิจออกมาแย่กว่าที่ตลาดคาด โดยยอดขายบ้านใหม่ลดลง 0.7%MoM และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจาก CB ที่ระดับ 125.5 ต่ำกว่าที่ตลาดคาดที่ระดับ 127.0
• (+) การเจรจาการค้ามีความคืบหน้ามากขึ้น หลังรองนายกรัฐมนตรีจีน นายหลิว เหอ และรัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ นายสตีเวน มนูชิน และผู้แทนการค้าสหรัฐฯ นายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ได้เจรจากันทางโทรศัพท์โดยหารือทางด้านการแก้ไขปัญหาการค้าที่เหมาะสม
• (+) สัญญาน้ำมันดิบ WTI และ Brent วานนี้ปรับขึ้น 0.6%DoD และ 0.9%DoD ตามลำดับ หลังได้รับปัจจัยบวกจากการเจรจาการค้าที่มีความคืบหน้า บวกกับ OPEC และรัสเซียมีแนวโน้มขยายการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบไปจนถึงกลางปี 63
• (+) ครม.อนุมัติ 3 มาตรการหลักกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงท้ายปี ได้แก่ 1.โครงการเพิ่มความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก 2.มาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวผ่านโครงการช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพข้าว ปีการผลิต 62/63 และ 3.มาตรการลดภาระการซื้อที่อยู่อาศัยภายใต้โครงการบ้านดีมีดาวน์ (อินโฟเควสท์)
• (+) กกบ.เห็นชอบผ่อนผันให้กิจการที่ออกหุ้นกู้ที่มีลักษณะคล้ายทุนที่มีการเสนอขายและได้รับชำระค่าหุ้นกู้นั้นก่อน 31 ธ.ค.2562 จัดประเภทรายการหุ้นกู้ดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของส่วนของผู้ถือหุ้นในงบการเงินภายในระยะเวลาไม่เกิน 3 ปี นับจากวันที่ 1ม.ค.2563 (ข่าวหุ้น)
• ปรับลดประมาณการ EPS โดยข้อมูลจาก Bloomberg Consensus พบว่าเมื่อต้นปี EPSปี 62 ที่ 115.13 บ. ขณะที่ปัจจุบันเหลือเพียง 92.33 บ. หรือ ลดลง 19.02%YTD
• Update Flow เมื่อวานนี้ต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 2,027.31ลบ.ส่งผลภาพรวม MTD. ต่างชาติกลับเป็นขายสุทธิ 1,780.97 บ.ขณะที่นลท.สถาบันซื้อสุทธิ MTD.เพิ่มขึ้นเป็น 3,664.91 ลบ.
Investment Strategy
• สัปดาห์นี้ เรามอง SET Index มีโอกาสรีบาวด์โดยประเมินแนวต้าน 1,640 จุด หนุนด้วยความคืบหน้าเรื่อง Trade war สหรัฐฯ-จีน ที่รอการลงนามเฟส 1 ในเดือน ธ.ค. ขณะที่ยังมีตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ต่างๆ ที่ทยอยประกาศออกมา ส่วนในประเทศยังคงรอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ออกมาเพิ่มเติมในช่วงเดือน ธ.ค. เรามุ่งความสนใจไปที่การประชุมการตั้งกองทุนรวมใหม่ทดแทน LTF ช่วงนี้แนะนำถือหุ้นที่ทยอยเก็บมาก่อนหน้านี้และทยอยขายทำกำไรออกมา ส่วนท่านที่ยังไม่มีหุ้นให้รอตลาดย่ออีกครั้งและทยอยเก็บหุ้นคาดมีผลประกอบการดี รวมถึงเรายังคงแนะนำหุ้น 3 กลุ่มที่สามารถทยอยซื้อลงทุนได้ในระยะ 3-6 เดือน ดังนี้
• หุ้นกลุ่มที่จะได้ประโยชน์จากแผนกระตุ้น ศก.ของรัฐฯ ทั้งมาตรการท่องเที่ยว, ชิมช้อปใช้และงานประมูลภาครัฐฯ: แนะนำหุ้นที่ได้ประโยชน์และมี Upside ได้แก่ SEAFCO (แม้ช่วง 2H62 คาดรับรู้งานลดลง แต่ยังมี Backlog 2.3 พัน ลบ. คาด Secured Revenue 100% ในช่วงที่เหลือของปีนี้ บวกกับยังมี Upside Risk จากงานประมูลใหม่อีก 1.9 หมื่น ลบ.), ERW (ช่วง 3Q62 กำไรโตเล็กน้อย 3%YoY หลังรายได้จากโรงแรมเพิ่มขึ้น 5%YoY เรามองช่วงปลายปียังมีโอกาสฟื้นตัวจากการกลับมาเปิดโรงแรมใหม่ 9 แห่ง อีกทั้งมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวจาก ครม.และมีสัญญาณฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวชาวจีน หลังจำนวนนักท่องเที่ยวจีนยังคงฟื้นตัวต่อเนื่อง), CPALL (ช่วง 3Q62 กำไรโต 8.3%YoY จากยอดขายที่เพิ่มจาก 7-11 กว่า 11,640 สาขา(ก.ย.62) และ MAKRO โดยบริษัทยังคงเป้าขยายสาขาต่อเนื่องให้ถึง 13,000 สาขาในปี 64 , MINT (ช่วง 3Q62 กำไรโต 347%YoY ด้วยกำไรพิเศษจากการขายโรงแรมที่โปรตุเกส บวกกับช่วง 4Q62 เรามองฟื้นตัวต่อด้วยธุรกิจโรงแรมและอาหารหลังตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนยังคงฟื้นตัวต่อเนื่องจากฐานปีก่อนที่ลดลง)
• กลุ่มที่คาดผลดำเนินงานมีแนวโน้มดีต่อเนื่อง: เหมาะกับการทยอยซื้อสะสม โดยเน้นหุ้นที่กำไรช่วง 2Q62 คาดโต YoYและช่วง 2H62 โตต่อ แนะนำ SAWAD (คาดกำไรปี 62 โต 30.8%YoY หนุนด้วยเป้าพอร์ตสินเชื่อโต 20-30% และอีก 300 สาขา, Asset Yield ฟื้นตัวตามสัดส่วนการรับรู้รายได้ผ่านสัญญาเงินกู้ผ่าน BFIT ที่มากขึ้นโดยล่าสุด SAWAD รายงานการถือครองหุ้น BFIT หลัง Tender Offer ที่ 82.04% บวกกับต้นทุนทางการเงินที่ปรับลงหลังได้รับเงินเพิ่มทุนจากพันธมิตร), SELIC (ช่วง 3Q62 ทำ All time high ทั้งรายได้และกำไร คาดปี 62 เห็นการ Turnaround ของกำไรหลังเริ่มรวมงบการเงินกับ PMCT ซึ่งคาดเห็น Synergy ชัดเจนขึ้นจากการพัฒนาสินค้าใหม่และการขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มใหม่), SABINA ช่วง 3Q62 กำไรสุทธิโต 11%QoQ และ 6%YoY หลังอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็น 54% หลังได้อานิสงส์บาทแข็งค่าเมื่อเทียบหยวนจากการเพิ่มสัดส่วนจ้างโรงงานจีนผลิตสินค้า ขณะที่ 4Q62 คาดยอดขายจะเร่งตัวขึ้นผ่านการจัดโปรโมชั่น และการทำการตลาดส่งท้ายปี รวมถึงการรุกขยายช่องทางขายผ่าน Online มากขึ้น คาดเห็นการเติบโตต่อเนื่องใน 4Q62 ทั้ง QoQ,YoY
• หุ้นกลุ่ม ร.พ.ขนาดกลางที่คาดกำไรช่วง 2H62 โต เข้าสู่ High Season: PR9 (มองทั้งปี 62 โตต่อ หลังกำไร 9M62 โต 10.9%YoY) บ.ยังมีศักยภาพในการเติบโตหลังแนวโน้มการทำกำไรเร่งตัวขึ้นสะท้อนผ่านEBITDA Margin ช่วง 9M62 ปรับตัวเพิ่มขึ้นที่ 17.7% (จาก 17.2% ช่วง9M61) บ.มีแผนการเติบโตที่สดใส เนื่องจาก บ.ถือเป็น Cash Company มีเงินสดต่อหุ้นมากกว่า 2 บ.เตรียมเปิดตึกใหม่ต้นปี 63 เพื่อรองรับลูกค้าได้เพิ่มกว่าเท่าตัวหลังเกิด Over demand ในกลุ่มลูกค้า ICU-CCU (คิดเป็นกว่า 30% ของรายได้) และศูนย์บริการที่ถือเป็นไฮไลท์ใหม่อย่าง Pain Management and Wellness Center ขยายฐานลูกค้าต่างชาติครอบคลุมทั้งจีนและกลุ่มอาเซียน รวมถึงกลุ่มลูกค้าประกันองค์กรและผู้ประกันตนด้วย คาดหนุน บ.มีโอกาสคุ้มทุนได้เร็วกว่าที่ตลาดคาด นอกจากนี้ Consensus ให้ Valuation ที่ถูกสุดเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรม ทั้งในแง่ Forward PE เพียง 23.17X ,P/BV 1.78X และEV/EBITDA 10.23X (อุตสาหกรรมอยู่ที่ PE 31.40X,P/BV 4.49X และEV/EBITDA 20.32X)
• Trading Idea
• หุ้นฟื้นตัว 4Q62 ต่อเนื่องปี 63: BGC ลุ้นกำไรฟื้นตัวช่วง 4Q62 หลังแนวโน้ม Gross margin จะเร่งตัวขึ้นจาก Efficiency rateเตาหลอมแก้วที่ราชบุรีเริ่มดีขึ้น บวกกับเริ่มรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าเวียดนามกำลังผลิตรวมกว่า 100 MW ตั้งแต่ช่วงต้นปี 63 เป็นต้นไป นอกจากนี้ Consensus คาดปันผลปี 63 ให้ Yield กว่า 5.4%
• หุ้นที่มีกำไรช่วง 3Q62 โตดี และคาดโตต่อเนื่องช่วง 4Q62 บวกกับทั้งปี 62-63 โต YoY: MINT, CHG, BCH
26-Nov-19 Change (pts.) 25-Nov-19
SET Index 1,609.38 -5.42 1,614.80
SET50 Index 1,083.70 -5.97 1,089.67
SET100 Index 2,379.61 -10.78 2,390.39
High 1,620.60 Gainers 709
Low 1,608.64 Unchanged 532
Value (Bt m) 87,951.52 Losers 870
Volume (*000) 20,303,667
Market Valuation
SET Data 2019F 2020F Long Term
Fwd PER (x) 17.3 15.5 15.5
EPS Growth (%) 13.9 9.3 -6.9
EV/EBITDA (x) 0.0 0.0 0.0
FWD PBV (x) 1.8 1.7 1.6
Dividend Yield (%) 3.0 3.2 3.5
ROE 9.9 10.2 10.4
Net Buy/Sell by Investor Types
Unit : M Bt 26-Nov-19 WTD MTD YTD
Institution 1,797.01 3,968.47 3,664.93 28,329.45
Proprietary 871.88 895.44 4,189.35 14,645.21
Foreign (2,027.31) (505.46) (1,780.96) (14,855.11)
Individual (641.58) (4,358.45) (6,073.32) (28,119.56)
AECS ( Fundamental and Strategic Team )
จิรภัทร โบสุวรรณ (ID. 040051) [email protected]
ภัทรพล จันทร์อินทร์ (ID. 089932) [email protected]
ธีรยุทธ ฤทธิเผ่าพันธุ์ ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์ Data Support / Secretary