- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 26 November 2019 16:22
- Hits: 4102
บล.เออีซี : Daily Focus
AECS Daily Focus
--------------
Market Outlook
• วันนี้มอง SET Index ลุ้นรีบาวด์ต่อ คาดหวังแนวต้าน 1,620 และ 1,630 จุดตามลำดับ หลังตลาดได้ Sentiment บวกหนุนจาก Trade War ที่ใกล้บรรลุข้อตกลงเฟสแรก และจากทิศทางราคาน้ำมันหลังตลาดคาดกลุ่ม OPEC เตรียมขยายช่วงเวลาการปรับลดกำลังผลิต ขณะที่ปัจจัยในประเทศติดตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเตรียมเสนอต่อที่ประชุม ครม.วันนี้
• Market Factor
• (+) ผลการเลือกตั้งสภาเขตฮ่องกงฝ่ายประชาธิปไตยฮ่องกงมีที่นั่งถึง 85% บวกกับนางแคร์รี ลัม ผู้ว่าการเขตปกครองพิเศษฮ่องกงให้การยอมรับผลการเลือกตั้ง และว่าที่สมาชิกสภาเขตฮ่องกงเรียกร้องปล่อยตัวผู้ประท้วงในมหาวิทยาลัยทำให้สถานการณ์ในฮ่องกงคลี่คลายมากขึ้น
• (+) สัญญาน้ำมันดิบ WTI และ Brent วานนี้ปรับเพิ่ม 0.4%DoD หลังการเจรจาการค้ามีความคืบหน้าบวกกับการประชุม OPEC วันที่ 5-6 ธ.ค. 62 มีแนวโน้มขยายการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบไปจนถึงกลางปี 63 จากเดิมสิ้นสุดเดือน มี.ค. 63
• (+) รมว.การคลัง เผยเตีรยมเสนอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมต่อที่ประชุม ครม.เพื่อหนุนให้มีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจมากขึ้น (แนวหน้า)
• (+) รมว.พลังงาน เผยความคืบหน้านโยบายโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก เตรียมนำเสนอร่างหลักเกณฑ์ฯ ต่อที่ประชุมคณะอนุกรรมการฯ คาดแล้วเสร็จและเริ่มดำเนินการได้ในปี 63 ทั้งนี้มีเป้าหมายจะส่งเสริมโรงไฟฟ้าชุมชนรวมทั้งสิ้น 1,000 MW. ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากคิดเป็นเม็ดเงินลงทุนในภาพรวม ไม่ต่ำกว่า 1 แสนล้านบาท
• (-) สภาพัฒน์เผยรายงานภาวะสังคมไทย 3Q62 พบว่ายอดผู้มีงานทำลดลง 2.1% YoY(เดิมอยูที่ 38.7 ล้านคน มาอยู่ที่ 38 ล้านคน) ผลจากเศรษฐกิจชะลอตัว และปัญหาภัยธรรมชาติ การว่างงานเพิ่มขึ้นทั้งผู้ที่เคยทำงานและไม่เคยทำงานมาก่อน โดยผู้จบการศึกษาระดับอุดมศึกษาว่างงานสูงสุด 2.15% (แนวหน้า)
• ปรับลดประมาณการ EPS โดยข้อมูลจาก Bloomberg Consensus พบว่าเมื่อต้นปี EPSปี 62 ที่ 115.13 บ. ขณะที่ปัจจุบันเหลือเพียง 93.33 บ. หรือลดลง 18.94%YTD
• Update Flow เมื่อวานนี้ต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทย 1,521.84 ลบ.ส่งผลภาพรวม MTD.ต่างชาติพลิกเป็นซื้อสุทธิ 246.34 บ.ขณะที่นลท.สถาบันพลิกกลับซื้อสุทธิ MTD.อยู่ที่ 1,867.9 ลบ.
Investment Strategy
• สัปดาห์นี้ เรามอง SET Index มีโอกาสรีบาวด์โดยประเมินแนวต้าน 1,640 จุด หนุนด้วยความคืบหน้าเรื่อง Trade war สหรัฐฯ-จีน ที่รอการลงนามเฟส 1 ในเดือนธ.ค. ขณะที่ยังมีตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯต่างๆที่ทยอยประกาศออกมา ส่วนในประเทศยังคงรอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ออกมาเพิ่มเติมในช่วงเดือนธันวาคม เรามุ่งความสนใจไปที่การประชุมการตั้งกองทุนรวมใหม่ทดแทน LTF ช่วงนี้แนะนำถือหุ้นที่ทยอยเก็บมาก่อนหน้านี้และทยอยขายทำกำไรออกมา ส่วนท่านที่ยังไม่มีหุ้นให้รอตลาดย่ออีกครั้งและทยอยเก็บหุ้นคาดมีผลประกอบการดี รวมถึงเรายังคงแนะนำหุ้น 3 กลุ่มที่สามารถทยอยซื้อลงทุนได้ในระยะ 3-6 เดือน ดังนี้
• หุ้นกลุ่มที่จะได้ประโยชน์จากแผนกระตุ้น ศก.ของรัฐฯ ทั้งมาตรการท่องเที่ยว, ชิมช้อปใช้และงานประมูลภาครัฐฯ: แนะนำหุ้นที่ได้ประโยชน์และมี Upside ได้แก่ SEAFCO (แม้ช่วง 2H62 คาดรับรู้งานลดลง แต่ยังมี Backlog 2.3 พัน ลบ. คาด Secured Revenue 100% ในช่วงที่เหลือของปีนี้ บวกกับยังมี Upside Risk จากงานประมูลใหม่อีก 1.9 หมื่น ลบ.), ERW (ช่วง 3Q62 กำไรโตเล็กน้อย 3%YoY หลังรายได้จากโรงแรมเพิ่มขึ้น 5%YoY เรามองช่วงปลายปียังมีโอกาสฟื้นตัวจากการกลับมาเปิดโรงแรมใหม่ 9 แห่ง อีกทั้งมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวจาก ครม.และมีสัญญาณฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวชาวจีน หลังจำนวนนักท่องเที่ยวจีนยังคงฟื้นตัวต่อเนื่อง), CPALL (ช่วง 3Q62 กำไรโต 8.3%YoY จากยอดขายที่เพิ่มจาก 7-11 กว่า 11,640 สาขา(ก.ย.62) และ MAKRO โดยบริษัทยังคงเป้าขยายสาขาต่อเนื่องให้ถึง 13,000 สาขาในปี 64 , MINT (ช่วง 3Q62 กำไรโต 347%YoY ด้วยกำไรพิเศษจากการขายโรงแรมที่โปรตุเกส บวกกับ ช่วง 4Q62 เรามองฟื้นตัวต่อด้วยธุรกิจโรงแรมและอาหารหลังตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนยังคงฟื้นตัวต่อเนื่องจากฐานปีก่อนที่ลดลง)
• กลุ่มที่คาดผลดำเนินงานมีแนวโน้มดีต่อเนื่อง:เหมาะกับการทยอยซื้อสะสม โดยเน้นหุ้นที่กำไรช่วง 2Q62 คาดโต YoYและช่วง 2H62 โตต่อ แนะนำ SAWAD (คาดกำไรปี62 โต 30.8%YoY หนุนด้วยเป้าพอร์ตสินเชื่อโต20-30% และอีก 300 สาขา, Asset Yield ฟื้นตัวตามสัดส่วนการรับรู้รายได้ผ่านสัญญาเงินกู้ผ่าน BFIT ที่มากขึ้นโดยล่าสุด SAWAD รายงานการถือครองหุ้น BFIT หลัง Tender Offer ที่ 82.04% บวกกับต้นทุนทางการเงินที่ปรับลงหลังได้รับเงินเพิ่มทุนจากพันธมิตร), SELIC (ช่วง 3Q62 ทำAll time high ทั้งรายได้และกำไร คาดปี 62 เห็นการ Turnaround ของกำไรหลังเริ่มรวมงบการเงินกับ PMCT ซึ่งคาดเห็น Synergy ชัดเจนขึ้นจากการพัฒนาสินค้าใหม่และการขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มใหม่), SABINA ช่วง 3Q62 กำไรสุทธิโต 11%QoQ และ 6%YoY หลังอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็น 54% หลังได้อานิสงส์บาทแข็งค่าเมื่อเทียบหยวนจากการเพิ่มสัดส่วนจ้างโรงงานจีนผลิตสินค้า ขณะที่ 4Q62 คาดยอดขายจะเร่งตัวขึ้นผ่านการจัดโปรโมชั่น และการทำการตลาดส่งท้ายปี รวมถึงการรุกขยายช่องทางขายผ่าน Online มากขึ้น คาดเห็นการเติบโตต่อเนื่องใน 4Q62 ทั้ง QoQ, YoY
• หุ้นกลุ่ม ร.พ.ขนาดกลางที่คาดกำไรช่วง 2H62 โต เข้าสู่ High Season: PR9 (มองทั้งปี 62 โตต่อ หลังกำไร 9M62 โต 10.9%YoY) บ.ยังมีศักยภาพในการเติบโตหลังแนวโน้มการทำกำไรเร่งตัวขึ้นสะท้อนผ่านEBITDA Margin ช่วง 9M62 ปรับตัวเพิ่มขึ้นที่ 17.7% (จาก 17.2% ช่วง9M61) บ.มีแผนการเติบโตที่สดใส เนื่องจาก บ.ถือเป็น Cash Company มีเงินสดต่อหุ้นมากกว่า 2 บ.เตรียมเปิดตึกใหม่ต้นปี 63 เพื่อรองรับลูกค้าได้เพิ่มกว่าเท่าตัวหลังเกิด Over demand ในกลุ่มลูกค้า ICU-CCU (คิดเป็นกว่า 30% ของรายได้)และศูนย์บริการที่ถือเป็นไฮไลท์ใหม่อย่าง Pain Management and Wellness Center ขยายฐานลูกค้าต่างชาติครอบคลุมทั้งจีนและกลุ่มอาเซียน รวมถึงกลุ่มลูกค้าประกันองค์กรและผู้ประกันตนด้วย คาดหนุนบ.มีโอกาสคุ้มทุนได้เร็วกว่าที่ตลาดคาด นอกจากนี้ Consensus ให้ Valuation ที่ถูกสุดเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรม ทั้งในแง่ Forward PE เพียง 23.17X ,P/BV 1.78X และEV/EBITDA 10.23X (อุตสาหกรรมอยู่ที่ PE 31.40X,P/BV 4.49X และEV/EBITDA 20.32X)
• Trading Idea
• หุ้นฟื้นตัว 4Q62 ต่อเนื่องปี 63: BGC ลุ้นกำไรฟื้นตัวช่วง 4Q62 หลังแนวโน้ม Gross margin จะเร่งตัวขึ้นจาก Efficiency rate เตาหลอมแก้วที่ราชบุรีเริ่มดีขึ้น บวกกับเริ่มรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าเวียดนามกำลังผลิตรวมกว่า 100 MWตั้งแต่ช่วงต้นปี 63 เป็นต้นไป นอกจากนี้Consensus คาดปันผลปี 63 ให้Yield กว่า 5.4% ทางเทคนิค ประเมินแนวรับ12.90 บ. คาดหวังแนวต้าน 14.70 บ.(Stop loss ต่ำกว่า 12.60บ.)
• หุ้นที่มีกำไรช่วง 3Q62 โตดี และคาดโตต่อเนื่องช่วง 4Q62 บวกกับทั้งปี 62-63 โต YoY: MINT, CHG, BCH
25-Nov-19 Change (pts.) 22-Nov-19
SET Index 1,614.80 17.08 1,597.72
SET50 Index 1,089.67 12.16 1,077.51
SET100 Index 2,390.39 27.82 2,362.57
High 1,614.80 Gainers 1,109
Low 1,601.76 Unchanged 433
Value (Bt m) 47,419.83 Losers 590
Volume (*000) 16,835,031
Market Valuation
SET Data 2019F 2020F Long Term
Fwd PER (x) 17.3 15.5 15.5
EPS Growth (%) 13.9 9.3 -6.9
EV/EBITDA (x) 0.0 0.0 0.0
FWD PBV (x) 1.8 1.7 1.6
Dividend Yield (%) 2.9 3.2 3.5
ROE 9.9 10.3 10.4
Net Buy/Sell by Investor Types
Unit : M Bt 25-Nov-19 WTD MTD YTD
Institution 2,171.45 2,171.45 1,867.92 26,532.44
Proprietary 23.57 23.57 3,317.47 13,773.34
Foreign 1,521.84 1,521.84 246.35 (12,827.80)
Individual (3,716.86) (3,716.86) (5,431.74) (27,477.97)
AECS ( Fundamental and Strategic Team )
จิรภัทร โบสุวรรณ (ID. 040051) [email protected]
ภัทรพล จันทร์อินทร์ (ID. 089932) [email protected]
ธีรยุทธ ฤทธิเผ่าพันธุ์ ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์ Data Support / Secretary