Trading Range Sideways 1580 -1600

          

ตลาดหุ้นวันนี้

          ผันผวนในกรอบ: คาดตลาดหุ้นไทยยังให้น้ำหนักกับปัจจัยภายนอกเป็นหลัก โดยเฉพาะประเด็นการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐ-จีนที่ยังคงมีความไม่แน่นอนสูง แม้ล่าสุดจะมีข่าวดีจากการที่รองปธน.จีนเชิญผู้แทนการค้าและรัฐมนตรีคลังสหรัฐมาเจรจารายละเอียดข้อตกลงเพิ่มเติมที่ปักกิ่งเร็วๆ นี้ แต่เวลาเดียวกันทางรัฐสภาสหรัฐกลับมีการผ่านร่างกฏหมายสนับสนุนผู้ประท้วงในฮ่องกง ซึ่งส่งผลลบต่อบรรยากาศการลงนามข้อตกลงการค้าฯ ในเฟสแรก รายละเอียดบวกสลับลบดังกล่าวจะทำให้นักลงทุนบางส่วนอาจมีการชะลอการลงทุนบางส่วนออกไปเพื่อรอความชัดเจน ขณะที่ประเด็นลบอื่นๆ อย่างความไม่สงบในฮ่องกงและการยื่นถอดถอนปธน.ทรัมป์ คาดจะถูกหักล้างไปกับราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก (WTI) ที่ปรับตัวขึ้นแรงช่วยพยุงหุ้นกลุ่มพลังงานและดัชนีหุ้นไทย โดยรวมคาดดัชนีวันนี้จะผันผวนในกรอบเป็นหลักไปก่อนระหว่าง 1580 -1600 จุด

          ราคาน้ำมันโลกพุ่งแรงต่อเนื่อง: ราคาน้ำมันดิบ WTI ของสหรัฐพุ่งแรงต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 โดยวานนี้ปิดบวก 2.8% สู่ 58.58 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล บนความคาดหวังแนวโน้มการขยายเวลามาตรการลดการผลิตจนถึงกลางปี 2563 จากเดิมจะสิ้นสุด มี.ค. 63 จึงน่าจับตาการประชุมโอเปก+ ในวันที่ 5 ธ.ค. นี้ รวมถึงความคืบหน้าการเจรจาการค้าสหรัฐ-จีนอย่างใกล้ชิด

          

ประเด็นน่าติดตาม: Theme เด่นน่าสนใจ

          - หุ้นรับประโยชน์จากมาตรการภาครัฐ: AOT, SPA, AAV, ERW, BJC, CPALL

          - หุ้นปันผลเด่น: KKP, INTUCH, MAJOR, AP, TVO

          

Portfolio Model

          ปรับพอร์ตวันนี้:

          ถือ MINT ที่ 36.50 บ. (เป้า 38.50 บ.) บนมุมมองบวกต่อการเข้าซื้อ Bonchon และการกระตุ้นการท่องเที่ยวในช่วงปลายปี อีกทั้งคาดงบฯ 4Q จะดี

          ถือ MAJOR (เป้า 26.00 บ.) บนแนวโน้มผลกำไรปกติดี จากจำนวนหนังดังเข้าต่อเนื่อง

          ถือ CPALL (เป้า 89.00 บ.) ได้ประโยชน์จากการกระตุ้นการบริโภคของมาตรการภาครัฐ

          *สำหรับการลงทุนระยะเวลา 2 สัปดาห์ -1 เดือน

          Upside Momentum* : AMATA AWC BCH

          *สำหรับการลงทุนระยะเวลา 1 เดือน โดยใช้การวิเคราะห์เชิงปริมาณ (Quantitative Analysis เป็นเกณฑ์ในการคัดเลือกเท่านั้น)

          

          ทีมกลยุทธ์ 02 635 1700 ต่อ 487