- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 21 November 2019 20:50
- Hits: 7869
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
"ลงนามเฟส1อาจเลื่อนไปปีหน้า แต่ราคาน้ำมันฟื้นตัว"
Fundamental Picks (4Q)
ADVANC,AOT,CPALL,DREIT,ERW,STEC,TASCO
DCA Stocks
AOT,BBL,CPALL,BDMS,PTT
High Div Yield in Coverage
KKP,TISCO,LH,DREIT,LALIN, AIMIRT,HREIT,DIF,JASIF,SC
Top-5 Short Sell
TMB 17.8%,THAI 17.7%,AMATA 17.4%,CENTEL 16.6%,AWC 16.5%
Technical View ลงเป็นหลัก แต่รีบาวด์สลับได้
Support Resistance Stop Loss
SET 1590-1580 1610-1620 ต่ำกว่า 1595
SET50 1070-1050 1085,1090 ต่ำกว่า 1075
Technical Picks - Today
TCAP,MTC,RATCH,PTG,CHG,MC,GFPT,BDMS
หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : --
ภาวะตลาดและปัจจัย : SET วานนี้ -10.42 จุด ปิดที่ 1596.83 จุด มูลค่าการซื้อขายเบาบางเป็น 48 พันล้านบาท ดัชนีปรับลงสอดคล้องกับเพื่อนบ้าน ดัชนีอยู่ในแดนลบตลอดวัน หลังการเจรจาการค้ากลับมาไม่แน่นอน ราคาน้ำมันดิ่ง และสถานการณ์ฮ่องกงที่ยังไม่ฟื้น และช่วงบ่ายศาลตัดสินให้คุณธนาธรพ้นตำแหน่ง ส.ส. มีแรงขายหุ้นกลุ่มพลังงาน สื่อสารและพาณิชย์ ขณะที่ซื้อสุทธิมากคือ รายย่อย ขายสุทธิมากเป็น สถาบัน ต้นเดือนถึงปัจจุบันต่างชาติขายสุทธิ 169 ล้านบาท ด้านแนวโน้มตลาดและกลยุทธ์คือ
# ปัจจัยสำคัญ: การลงนามเฟส 1 อาจไม่ทันปีนี้ น้ำมันฟื้น ติดตามการเมืองไทย ด้านลบคือ การเจรจาการค้าชะงักงันมากขึ้น ยิ่งสภาฯผ่านร่างสนับสนุนม็อบฮ่องกง ทำให้จีนยิ่งไม่พอใจ การเมืองไทยร้อนแรงขึ้น หลังคุณธนาธรพ้นตำแหน่ง ส.ส.ติดตามจะรุกลามไหม รายงานเฟดยังไม่ลดดอกเบี้ย ดาวโจนส์สป็อตและล่วงหน้าปรับลด ราคาน้ำมันล่วงหน้าลดลง ตลาดหุ้นเพื่อนบ้านเช้านี้ปรับลงถ้วนหน้า ด้านปัจจัยบวกคือ ราคาน้ำมันดิบกลับมาฟื้นตัว หลังสต็อกสหรัฐเพิ่มน้อยกว่าคาด มีความไม่สงบตะวันออกกลาง และก.คลังอาจมีกระตุ้นศก.เพิ่ม
# ระยะสั้นคาด SET- Sideways ทางลง หลังเจรจาการค้าลงนามเฟส 1 ล่าช้า ติดตามปัจจัยการเมืองรุกลามไหม หุ้นส่งออก โภคภัณฑ์ปิโตรเคมี ได้รับผลลบจากการเจรจาการค้าไม่คืบหน้า หุ้นพลังงานฟื้นตัวจากราคาน้ำมันดีขึ้น และกลุ่มโรงกลั่น ได้รับผลลบจากค่าการกลั่นช่วงนี้ติดลบหรือไม่ถึง 1 USD/บาร์เรลล์ แต่ผลกระทบทางพื้นฐานไม่มากเท่า คือไม่อิงตามค่าการกลั่นสิงคโปร์โดยตรง แต่ TASCO ได้ประโยชน์ ราคาวัตถุดิบน้ำมันซัลเฟอร์สูงต่ำลง ล่าสุด TRUE ปฏิเสธเพิ่มทุน เราคาดว่า SET ซื้อขายในกรอบ 1590-1620 จุด แนวต้านเป็น 1610-1620 จุด แนวรับอยู่ที่ 1590-1580 จุด Stop Loss ต่ำกว่า 1595 จุด การเข้าเก็งกำไรไม่ควรหวังผลตอบแทนสูง หาจังหวะขายทำกำไร กลยุทธ์ระยะกลาง-ยาว คือ เลือกลงทุนทยอยสะสม เป็นรายกลุ่มและรายตัว (Selective) ตาม Theme เนื่องจากราคาหุ้นปรับลงมามาก จนประเมินมูลค่าหุ้นถูกลง แนะนำ หุ้น Domestic Play หุ้นไม่ผันแปรตามเศรษฐกิจ หรือปันผลสูงแทน หุ้นกลุ่ม REITs และ IFFS น่าสนใจ จากดอกเบี้ยต่ำ ด้านหุ้นเข้า-ออก MSCI มีผล 26 พ.ย.62 หุ้นขนาดใหญ่ เข้า- BGRIM,GPSC,OSP,SAWAD หุ้นออก- ไม่มี หุ้น Small Cap: เข้า- CENTEL,DOHOME,JMT,SPRC,STPI,TPIPP,TQM หุ้นออก- CBG,SAWAD,TISCO
# Stock Pick Today : TCAP แนะนำ ซื้อเก็งกำไร ให้ราคาพื้นฐาน 59.50 บาท เทียบเท่ากับ P/BV ปีนี้ที่ 0.98 เท่า ข้อดีปันผลได้สูง คาดการณ์ Dividend yield ปกติประมาณ 4.5% ต่อปี แต่จะมีจ่ายปันผลพิเศษ 4 บาท/หุ้นในช่วง 1Q20 สำหรับ 3Q62 ที่ผ่านมา สินเชื่อขยายตัว +4.6%YoY, +0.2%QoQ และ +2.2%YTD หนุนโดยการเติบโตของสินเชื่อรายย่อย ทั้งสินเชื่อเช่าซื้อและสินเชื่อที่พักอาศัย NPL เพิ่ม +9.9%QoQ เป็น 22.3 พันล้านบาท ส่วน NPL ratio ขยับขึ้นเป็น 2.5% และมี Coverage ratio 104%
การวิเคราะห์ทางเทคนิค: ระยะสั้น สัญญาณ Candlestick & Indicators เป็นลบ {"ปิดลบ"ใต้"SMA10วัน"ต่อเนื่อง (โดยถูกกดดันจาก"โครงสร้างขาลง - ระยะกลาง")} ชี้ความน่าจะเป็นของตลาดฯวันนี้"แกว่งลง"เป็นหลัก แต่"ค่าบวก"{มี"Oversold ในกราฟรายนาที"(เดิม)หนุน} จะทำให้มีรีบาวด์ฯสั้นๆก่อน(แล้วจึงลงต่ำ,ตามมา)ได้ แนวต้าน 1610 (หรือ 1620) จุด {แนวตัดขาดทุน "ต่ำกว่า 1595" (แนวรับย่อย "1590 - 1580 (หรือ 1550)" จุด)}คาดหุ้น New High เข้ามาใหม่คือ TCAP,MTC,RATCH,PTG,CHG,MC,GFPT,BDMS ที่ยังอยู่ใน List คือ BDMS,HMPRO,TASCO,SPRC,STPI หุ้นหลุด List - หุ้นอยู่ในพื้นที่ Take Profit คือ TQM,TFG
Thailand Research Team : reseach-th.dbs.com
ปัจจัยต่างประเทศ
- สหรัฐ: สหรัฐและจีนอาจไม่สามารถบรรลุข้อตกลงการค้าเฟสแรกภายในสิ้นปีนี้
# สื่อต่างประเทศหลายแห่งรายงานโดยอ้างการเปิดเผยของสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า สหรัฐและจีนอาจไม่สามารถบรรลุข้อตกลงการค้าเฟสแรกภายในสิ้นปีนี้ โดยอาจมีการเลื่อนออกไปเป็นปีหน้า ขณะที่จีนต้องการให้สหรัฐยกเลิกภาษีมากขึ้น
# ขณะที่หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล รายงานโดยอ้างการเปิดเผยของอดีตเจ้าหน้าที่ในรัฐบาลของปธน.ทรัมป์ว่า การเจรจาการค้าในขณะนี้กำลังเผชิญภาวะชะงักงัน
- สหรัฐ: สภาผู้แทนราษฏรสหรัฐผ่านร่างกฎหมายสนับสนุนกลุ่มผู้ประท้วงฮ่องกง
# วุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติผ่านร่างกฎหมายสนับสนุนกลุ่มผู้ประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกงนั้น อาจจะส่งผลกระทบต่อบรรยากาศในการเจรจาการค้า โดยเมื่อวานนี้ สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีมติด้วยคะแนนเสียง 417 ต่อ 1 เสียง ผ่านร่างกฎหมายเพื่อให้การสนับสนุนกลุ่มผู้ประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกง หลังจากที่วุฒิสภาสหรัฐได้ลงมติสนับสนุนร่างกฎหมายดังกล่าวไปแล้วเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา
# ทั้งนี้ สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐจะส่งร่างกฎหมาย "Hong Kong Human Rights and Democracy Act" ไปยังทำเนียบขาว เพื่อให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามเป็นลำดับต่อไป โดยร่างกฎหมายดังกล่าวครอบคลุมถึงการกำหนดให้ทบทวนการให้สิทธิพิเศษทางการค้ากับฮ่องกง ภายใต้กฎหมายของสหรัฐ โดยการทบทวนดังกล่าวจะพิจารณาถึงประเด็นที่ว่า ฮ่องกงได้รับอำนาจในการปกครองตนเองอย่างเพียงพอจากจีนหรือไม่
- เฟด: รายงานการประชุมที่ผ่านมาระบุยังมองบวกเศรษฐกิจสหรัฐ ไม่เห็นด้วยกับการปรับดอกเบี้ยติดลบ
# คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 29-30 ต.ค.เมื่อวานนี้ โดยระบุว่า กรรมการเฟดส่วนใหญ่มีมุมมองเป็นบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ และยังมองว่า ความไม่แน่นอนต่างๆที่เป็นผลมาจากความตึงเครียดด้านการค้าและความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์นั้น เริ่มลดน้อยลงในระดับหนึ่ง
# รายงานการประชุมระบุว่า กรรมการเฟดมีมุมมองที่สอดคล้องกันว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีความยืดหยุ่นเพียงพอที่จะรับมือกับอุปสรรคในอนาคต ขณะเดียวกันก็ได้มีการหารือเกี่ยวกับเครื่องมือต่างๆที่ควรเตรียมไว้หากเศรษฐกิจเผชิญภาวะถดถอยในวันข้างหน้า อย่างไรก็ดี กรรมการเฟดทุกคนไม่เห็นด้วยกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยจนถึงระดับติดลบ เหมือนกับที่ธนาคารกลางยุโรปและญี่ปุ่นดำเนินการอยู่ในเวลานี้
- สหรัฐ: จำนวนผู้ยื่นขอสินเชื่อเพื่อการจำนองลดลง สัปดาห์ที่แล้ว
# สมาคมนายธนาคารเพื่อการจำนอง (MBA) ของสหรัฐ เปิดเผยว่า จำนวนผู้ยื่นขอสินเชื่อเพื่อการจำนองลดลง 2.2% ในสัปดาห์ที่แล้ว แม้ว่าอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองปรับตัวลง
สหรัฐ: ตัวเลขเศรษฐกิจที่จะประกาศต่อไป
# ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีการผลิตเดือนพ.ย.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย, ยอดขายบ้านมือสองเดือนต.ค., ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนต.ค.จาก Conference Board, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นต้นเดือนพ.ย., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้นเดือนพ.ย. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน
- ดัชนีหุ้นสหรัฐ: ดาวโจนส์ลง กังวลลงนามการค้าเฟส 1 อาจไม่ทันปีนี้ สภาฯสหรัฐผ่านร่างสนับสนุนม็อบฮ่องกง
# ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 27,821.09 จุด ลดลง 112.93 จุด หรือ -0.40% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,108.46 จุด ลดลง 11.72 จุด หรือ -0.38% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,526.73 จุด ลดลง 43.93 จุด หรือ -0.51%
# ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (20 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับทิศทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากสื่อรายงานว่า สหรัฐและจีนอาจไม่สามารถบรรลุข้อตกลงการค้าเฟสแรกภายในปีนี้ นอกจากนี้ นักลงทุนยังกังวลว่า การที่วุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติผ่านร่างกฎหมายสนับสนุนกลุ่มผู้ประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกงนั้น อาจส่งผลกระทบต่อความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนด้วย
+ น้ำมัน: ปรับขึ้น หลังสต็อกสหรัฐเพิ่มน้อยกว่าคาด และความไม่สงบตะวันออกกลาง
# สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. พุ่งขึ้น 1.90 ดอลลาร์ หรือ 3.4% ปิดที่ 57.11 ดอลลาร์/บาร์เรล
# สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 1.49 ดอลลาร์ หรือ 2.5% ปิดที่ 62.40 ดอลลาร์/บาร์เรล
# สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (20 พ.ย.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้แรงหนุนจากสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง หลังจากกลุ่มกบฎฮูตีในเยเมนกล่าวอ้างว่าสามารถยิงสกัดเครื่องบินขับไล่ของกองกำลังซาอุดีอาระเบีย ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และประเทศพันธมิตร ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 5-6 ธ.ค.
- ทองคำ: ปรับลงเล็กน้อย ก่อนเฟดเผยรายงานการประชุม 29-30 ต.ค.ที่ผ่านมา
# สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 10 เซนต์ หรือ 0.01% ปิดที่ 1,474.20 ดอลลาร์/ออนซ์
# สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดขยับลงเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (20 พ.ย.) ก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 29-30 ต.ค. โดยตลาดทองคำนิวยอร์กปิดทำการซื้อขายก่อนที่คณะกรรมการเฟดจะเปิดเผยรายงานดังกล่าว
ปัจจัยในประเทศและข่าวหลักทรัพย์
- รายงานการประชุมของ กนง.ระบุเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่ำกว่าที่ประเมินไว้
# ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยรายงานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ครั้งที่ 7/2562 เมื่อวันที่ 6 พ.ย.62 ซึ่งคณะกรรมการฯ ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่ำกว่าที่ประเมินไว้ และต่ำกว่าศักยภาพมากขึ้น จากการส่งออกที่ลดลงส่งผลไปสู่การจ้างงานและอุปสงค์ในประเทศ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปมีแนวโน้มต่ำกว่าขอบล่างของกรอบเป้าหมาย ภาวะการเงินโดยรวมยังผ่อนคลาย อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอยู่ในระดับต่ำ สภาพคล่องในระบบการเงินอยู่ในระดับสูง ขณะที่อัตราแลกเปลี่ยนแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง ด้านเสถียรภาพระบบการเงินได้รับการดูแลไปแล้วระดับหนึ่ง แต่ยังมีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตาม
- ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือนต.ค.62 ปรับตัวลดลง
# ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือนต.ค.62 อยู่ที่ระดับ 91.2 ปรับตัวลดลงจาก 92.1 ในเดือนก.ย.62 ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลงต่ำสุดในรอบ 17 เดือน นับตั้งแต่มิ.ย.61 โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ไม่มีแนวคิดการปรับคณะรัฐมนตรีหรือทีมเศรษฐกิจ
+ ก.คลังกำลังพิจารณาออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาเพิ่มเติม
# กระทรวงการคลังยังอยู่ระหว่างการพิจารณารูปแบบ ซึ่งจะมีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาเพิ่มเติม และจะกระจายไปหลากหลายกลุ่มจากที่ได้ออกมาตรการชิมช้อปใช้ และการช่วยเหลือภาคอสังหาริมทรัพย์ออกไปแล้ว โดยอยู่ระหว่างการพิจารณารูปแบบของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจแบบใดจะเหมาะสม ซึ่งเมื่อดำเนินการไปแล้วจะต้องเกิดผลดีต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจได้จริง เพื่อช่วยให้เศรษฐกิจในภาพรวมสามารถขับเคลื่อนไปได้ ซึ่งหากพิจารณาแล้วเหมาะสมก็จะนำเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาก่อนสิ้นปีนี้
-/ ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยว่านายธนาธรสิ้นสุดการเป็น ส.ส.
# ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยว่านายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ สิ้นสุดสมาชิกภาพสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ตั้งแต่วันที่ศาลฯ มีคำสั่งให้หยุดการปฏิบัติหน้าที่เมื่อวันที่ 23 พ.ค.62 เนื่องจากเห็นว่านายธนาธร ยังคงถือหุ้นในบริษัท วี-ลัค มีเดีย ซึ่งเป็นธุรกิจสื่อมวลชน ในวันที่พรรคอนาคตส่งรายชื่อผู้สมัคร ส.ส. แม้ว่านายธนาธรจะชี้แจงว่ามีการโอนหุ้นไปแล้ว แต่ปรากฎหลักฐานที่มีพิรุธหลายอย่างที่ผิดปกติ
+ AOT: บอร์ดเห็นชอบแผนขยายสุวรรณภูมิ ส่วต่อขยายด้านทิศเหนือ
# บอร์ด AOT เห็นชอบแผนแม่บทฯ สนามบินสุวรรณภูมิ-โครงการก่อสร้างส่วนต่อขยายด้านทิศเหนือ,ลดค่า Landing Fee 6 สนามบิน (Aspen)
ผลกระทบ: เป็นบวก คาดว่าจะเป็นประโยชน์กับ AOT ในด้านการประหยัดต้นทุน และเป็นส่วนหนึ่งตามแผนแม่บทคือ เพื่อให้สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 90 ล้านคนต่อปี และเที่ยวบินได้ 94 เที่ยวบินต่อชั่วโมง ยังคงคำแนะนำ ซื้อ ด้วยราคาพื้นฐาน 90 บาท ปัจจัยบวกที่เป็นแรงกระตุ้นราคาหุ้นได้เช่น งวด ต.ค.-ธ.ค. ได้ประโยชน์สู่ไฮซีซั่น การท่องเที่ยว การประมูลสัมปทานดิวตี้ ฟรีที่ดอนเมือง ราว ธ.ค.นี้ ได้รับส่วนแบ่งรายได้จากสัมปทานดิวตี้ฟรีใหม่ที่สุวรรณภูมิซึ่งผลตอบแทนสูงกว่าเก่า แอร์พอร์ตซิตี้ และกำลังหาพันธมิตรใหม่สำหรับธุรกิจคาร์โก้
นักวิเคราะห์&กลยุทธ์ : สมบัติ เอกวรรณพัฒนา : [email protected]