- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 21 November 2019 20:31
- Hits: 3906
บล.เออีซี : Daily Focus
AECS Daily Focus
--------------------
Market Outlook
• วันนี้คาดดัชนี SET Index แกว่งซึมลงต่อ ระมัดระวังการปิดต่ำกว่า 1,595 จุด Downside เปิดแนวรับถัดไป 1,580 จุด โดยแม้ราคาน้ำมันดีดตัวจากตัวเลขสต็อกน้ำมันต่ำกว่าคาด แต่ยังถูกกลบจากประเด็นข้อตกลงเฟส1 ของ Trade war ที่อาจยืดเยื้อ หลังคู่พิพาทสหรัฐฯผ่านร่างกม.หนุนการประท้วงฮ่องกงกดดันให้การเจรจามีความยากยิ่งขึ้น นอกจากนี้รายงานตัวเลขส่งออกรถยนต์จากไทยยังชะลอตัวสอดคล้องกับภาพแนวโน้มส่งออกปีนี้ที่หดตัวสร้าง sentiment ลบต่อตลาดวันนี้
• Market Factor
• (-) ตลาดยังคงได้รับปัจจัยกดดันจากมติการผ่านร่างกฎหมายสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตยในฮ่องกงซึ่งเป็นปัจจัยกดดันการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน บวกกับแหล่งข่าวระบุสหรัฐฯ-จีนอาจไม่บรรลุข้อตกลงการค้าเฟสแรกภายในปีนี้
• (+) สัญญาน้ำมันดิบ WTI และ Brent วานนี้ปรับขึ้น 3.4%DoD และ 2.5%DoD ตามลำดับ หลัง EIA ประกาศสต็อกน้ำมันดิบที่ระดับ 1.38 ล้านบาร์เรล ต่ำกว่าที่ตลาดคาดที่ระดับ 1.54 ล้านบาร์เรล
• (-) ส.อ.ท.เผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการ เดือนต.ค.อยู่ที่ระดับ 91.2 ต่ำสุดในรอบ 17 เดือน สะท้อนความกังวลกำลังซื้อส่วนภูมิภาคยังชะลอ และผู้ประกอบการขนาดกลางและ SME ประสบปัญหาด้านการเงิน(ข่าวสด)
• (-) ส.อ.ท.เผยยอดส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปในเดือนต.ค.62 อยู่ที่ 85,552 คัน ลดลง 8.34%YoY คิดเป็นมูลค่าการส่งออกราว 46,065 ลบ. ลดลงจ 4.99%YoY โดยยอดช่วง 1M62 อยู่ที่ 906,653 คัน ลดลง 4.78%YoY มูลค่าส่งออก 469,002 ลบ. ลดลง 6.08%YoY (อินโฟเควสท์)
• ปรับลดประมาณการ EPS โดยข้อมูลจาก Bloomberg Consensus พบว่าเมื่อต้นปี EPSปี 62 ที่ 115.13 บ. ขณะที่ปัจจุบันเหลือเพียง 93.43 บ. หรือลดลง 18.85%YTD
• Update Flow เมื่อวานนี้ต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทย 531.77 ลบ.ส่งผลภาพรวม MTD.ต่างชาติขายสุทธิลดลงเหลือ 169.3 บ.ขณะที่ นลท.สถาบันซื้อสุทธิ MTD. ลดลงเหลือ 629.1 ลบ.
Investment Strategy
• สัปดาห์นี้ เรามอง SET Index ผันผวนในกรอบ 1,580-1,620 จุด โดยมีแรงกดดันหลักจากการปรับลดประมาณการกำไรในปี 62-63 ของบริษัทจดทะเบียนที่มีผลประกอบการช่วง 3Q62 ออกมาไม่ดี บวกกับปัจจัยต่างประเทศประเด็นข้อตกลง Trade war เฟสแรกเรายังไม่เห็นความคืบหน้ามาก ในช่วงเราแนะนำนักลงทุนระมัดระวังในการลงทุน และเลือก Selective Buy หุ้นที่ผลประกอบการดี รวมถึงเรายังคงแนะนำหุ้น 4 กลุ่มเดิมที่สามารถทยอยซื้อลงทุนได้ในระยะ 3-6 เดือน ดังนี้
• หุ้นกลุ่มที่จะได้ประโยชน์จากแผนกระตุ้นศก.ของรัฐฯทั้งมาตรการท่องเที่ยว, ชิมช้อปใช้และงานประมูลภาครัฐฯ: แนะนำหุ้นที่ได้ประโยชน์และมี Upside ได้แก่ SEAFCO (แม้ช่วง 2H62 คาดรับรู้งานลดลง แต่ยังมี Backlog 2.3 พัน ลบ. คาด Secured Revenue 100% ในช่วงที่เหลือของปีนี้ บวกกับยังมี Upside Risk จากงานประมูลใหม่อีก 1.9 หมื่น ลบ.), ERW (ช่วง 3Q62 กำไรโตเล็กน้อย 3%YoY หลังรายได้จากโรงแรมเพิ่มขึ้น 5%YoY เรามองช่วงปลายปียังมีโอกาสฟื้นตัวจากการกลับมาเปิดโรงแรมใหม่ 9 แห่ง อีกทั้งมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวจาก ครม.และมีสัญญาณฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวชาวจีน หลังจำนวนนักท่องเที่ยวจีนยังคงฟื้นตัวต่อเนื่อง), CPALL (ช่วง 3Q62 กำไรโต 8.3%YoY จากยอดขายที่เพิ่มจาก 7-11 กว่า 11,640 สาขา(ก.ย.62) และ MAKRO โดยบริษัทยังคงเป้าขยายสาขาต่อเนื่องให้ถึง 13,000 สาขาในปี 64 , MINT (ช่วง 3Q62 กำไรโต 347%YoY ด้วยกำไรพิเศษจากการขายโรงแรมที่โปรตุเกส บวกกับ ช่วง 4Q62 เรามองฟื้นตัวต่อด้วยธุรกิจโรงแรมและอาหารหลังตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนยังคงฟื้นตัวต่อเนื่องจากฐานปีก่อนที่ลดลง)
• กลุ่มที่คาดผลดำเนินงานมีแนวโน้มดีต่อเนื่อง: เหมาะกับการทยอยซื้อสะสม โดยเน้นหุ้นที่กำไรช่วง 2Q62 คาดโต YoY และช่วง 2H62 โตต่อ แนะนำ SAWAD (คาดกำไรปี62 โต 30.8%YoY หนุนด้วยเป้าพอร์ตสินเชื่อโต 20-30% และอีก 300 สาขา, Asset Yieldฟื้นตัวตามสัดส่วนการรับรู้รายได้ผ่านสัญญาเงินกู้ผ่าน BFIT ที่มากขึ้นโดยล่าสุด SAWAD รายงานการถือครองหุ้นBFIT หลัง Tender Offer ที่ 82.04% บวกกับต้นทุนทางการเงินที่ปรับลงหลังได้รับเงินเพิ่มทุนจากพันธมิตร), SELIC (ช่วง 3Q62 ทำ All time high ทั้งรายได้และกำไร คาดปี 62 เห็นการ Turnaround ของกำไรหลังเริ่มรวมงบการเงินกับ PMCT ซึ่งคาดเห็น Synergy ชัดเจนขึ้นจากการพัฒนาสินค้าใหม่และการขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มใหม่), SABINA ช่วง 3Q62 กำไรสุทธิโต 11%QoQ และ 6%YoY หลังอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็น 54% หลังได้อานิสงส์บาทแข็งค่าเมื่อเทียบหยวนจากการเพิ่มสัดส่วนจ้างโรงงานจีนผลิตสินค้า ขณะที่ 4Q62 คาดยอดขายจะเร่งตัวขึ้นผ่านการจัดโปรโมชั่น และการทำการตลาดส่งท้ายปี รวมถึงการรุกขยายช่องทางขายผ่าน online มากขึ้น คาดเห็นการเติบโตต่อเนื่องใน 4Q62 ทั้ง QoQ และ YoY
• หุ้นกลุ่ม ร.พ.ขนาดกลางที่คาดกำไรช่วง 2H62 โต เข้าสู่ High Season: PR9 (มองทั้งปี 62 โตต่อ หลังกำไร9M62 โต 10.9%YoY) บ.ยังมีศักยภาพในการเติบโตหลังแนวโน้มการทำกำไรเร่งตัวขึ้นสะท้อนผ่านEBITDA Margin ช่วง 9M62 ปรับตัวเพิ่มขึ้นที่ 17.7% (จาก 17.2% ช่วง9M61) บ.มีแผนการเติบโตที่สดใส เนื่องจาก บ.ถือเป็น Cash Company มีเงินสดต่อหุ้นมากกว่า 2 บ.เตรียมเปิดตึกใหม่ต้นปี 63 เพื่อรองรับลูกค้าได้เพิ่มกว่าเท่าตัวหลังเกิด Over demand ในกลุ่มลูกค้า ICU-CCU (คิดเป็นกว่า 30% ของรายได้) และศูนย์บริการที่ถือเป็นไฮไลท์ใหม่อย่าง Pain Management and Wellness Center ขยายฐานลูกค้าต่างชาติครอบคลุมทั้งจีนและกลุ่มอาเซียน รวมถึงกลุ่มลูกค้าประกันองค์กรและผู้ประกันตนด้วย คาดหนุนบ.มีโอกาสคุ้มทุนได้เร็วกว่าที่ตลาดคาด นอกจากนี้ Consensus ให้ Valuation ที่ถูกสุดเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรม ทั้งในแง่ Forward PE เพียง 23.17X ,P/BV 1.78X และEV/EBITDA 10.23X (อุตสาหกรรมอยู่ที่ PE 31.40X,P/BV 4.49X และEV/EBITDA 20.32X)
• Trading Idea
• หุ้นฟื้นตัว 4Q62 ต่อเนื่องปี 63: BGC ลุ้นกำไรฟื้นตัวช่วง 4Q62 หลังแนวโน้ม Gross margin จะเร่งตัวขึ้นจาก Efficiency rateเตาหลอมแก้วที่ราชบุรีเริ่มดีขึ้น บวกกับเริ่มรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าเวียดนามกำลังผลิตรวมกว่า 100 MWตั้งแต่ช่วงต้นปี 63 เป็นต้นไป นอกจากนี้Consensus คาดปันผลปี 63 ให้Yield กว่า 5.4% ทางเทคนิค ประเมินแนวรับ12.90 บ. คาดหวังแนวต้าน 14.70 บ.(Stop loss ต่ำกว่า 12.60บ.)
• หุ้นที่มีกำไรช่วง 3Q62 โตดี และคาดโตต่อเนื่องช่วง 4Q62 บวกกับทั้งปี 62-63 โต YoY: AU, MINT, PLANB, CHG, AEONTS
20-Nov-19 Change (pts.) 19-Nov-19
SET Index 1,596.83 -10.42 1,607.25
SET50 Index 1,075.77 -8.50 1,084.27
SET100 Index 2,359.15 -18.03 2,377.18
High 1,603.57 Gainers 574
Low 1,595.01 Unchanged 433
Value (Bt m) 47,777.85 Losers 1,018
Volume (*000) 16,067,822
Market Valuation
SET Data 2019F 2020F Long Term
Fwd PER (x) 17.1 15.3 15.3
EPS Growth (%) 13.9 9.3 -6.8
EV/EBITDA (x) 0.0 0.0 0.0
FWD PBV (x) 1.8 1.7 1.6
Dividend Yield (%) 3.0 3.3 3.5
ROE 9.9 10.3 10.4
Net Buy/Sell by Investor Types
Unit : M Bt 20-Nov-19 WTD MTD YTD
Institution (1,709.60) (2,135.79) 629.11 25,293.63
Proprietary (469.39) 198.72 2,847.71 13,303.58
Foreign 531.77 60.54 (169.30) (13,243.45)
Individual 1,647.23 1,876.53 (3,307.52) (25,353.76)
AECS ( Fundamental and Strategic Team )
จิรภัทร โบสุวรรณ (ID. 040051) [email protected]
ภัทรพล จันทร์อินทร์ (ID. 089932) [email protected]
ธีรยุทธ ฤทธิเผ่าพันธุ์ ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์ Data Support / Secretary