- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 18 November 2019 22:44
- Hits: 8229
บล.บัวหลวง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
รอบด้านตลาดหุ้น
ภาพตลาดและแนวโน้ม
Market wrap & Outlook
MS มองตลาดหุ้นเกิดใหม่ EM มีลุ้นฟืนตัวปีหน้า เนื่องจาก Trade tension จะเริ่มคลี่คลาย นอกจากนี้นโยบายธนาคารกลางเกือบทุกประเทศพยายยามช่วยพยุงเศรษฐกิจ เช่น ลดอกเบี้ย ออก QE กรุตุ้นเศรษฐกิจ ขณะที่ Valuation ตลาดหุ้นเอเชียไม่ได้แพงมากเมื่อเทียบเทียบกับ US นอกจากนี้เศรษฐกิจ Q1/20 มีโอกาสลุ้นฟืนตัวขึ้นได้
วันนี้คาดดัชนีฯ ดัชนีฯรีบาวด์มองแนวต้าน 1610-1615 จุด / แนวรับ 1590 จุด
What to watch
แรงหนุนจากความเชื่อมั่นกี่ยวกับการทำข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน
สรุปกำไร Q3/19 กำไรลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับ Q2/19 แต่กำไรหลักต่ำกว่าคาด 8% กลุ่มอุตสาหกรรมกำไรโตได้แก่ อาหาร สื่อสาร ไฟแนนซ์และประกัน
หุ้นแนะนำวันนี้
BGRIM แนวโน้มการเติบโตของผลประกอบการและโอกาสลงทุนใหม่ๆ ในอนาคต
PLANB รักษาระดับการเติบโตได้อย่างต่อเนื่องจากการขยายสื่อใหม่ และอัตราการใช้สื่อที่เพิ่มมากขึ้น
TQM การขายเบี้ยประกันภัยและประกันชีวิตมากขึ้น+รายได้คอมมิชชั่นจากการคำนวณสินเชื่อ
รายงานวันนี้
Thai Market Strategy สรุปกำไร 3Q19
ใน 3Q19 หุ้นในตลาด รายงานกำไร ลดลง 16%YoY (flat QoQ) โดยรวมแล้วรายงานกำไรต่ำกว่าที่ตลาดคาดเล้กน้อยราว 1% จากทั้งหมด 26 sectors มี 11 sectors ที่รายงานกำไรเติบโต YoY เช่น อาหาร สื่อสาร การเงิน ประกัน เป็นต้น สัดส่วนของบริษัทที่รายงานกำไรดีกว่าคาดมี 31% เพิ่มขึ้นจาก 28% ใน 2Q19 และ 34% ของบริษัทรายงานกำไรแย่กว่าคาด ซึ่งลดลงจาก 39% ใน 2Q19
เราปรับลดประมาณการ SET EPS ลงเป็น 92 และ 102 ในปี 2019 -20 ตามลำดับ (จากเดิมที่ 99 และ 108) ส่งผลให้เปาหมาย SET index ปรับลงเป็น 1546 ปลายปีนี้ และ 1683 ปลายปีหน้า
PTT ธุรกิจก๊าซฟืนตัวดีขึ้น มีอัพไซด์ในระยะยาว
ผลการดำเนินงานของธุรกิจก๊าซในปี 2020 มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น YoY หนุนโดยอัตรากำไรที่เพิ่มขึ้นจากต้นทุนก๊าซที่ลดลง และปริมาณขายที่เพิ่มขึ้น การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานจะเป็นปัจจัยหนุนการเติบโตในระยะยาว โดยสำหรับความคืบหน้าของโครงการมาบตาพุดเฟส 3 (PTT ถือหุ้น 30%) ซึ่งได้ลงนามสัญญาไปเมื่อเดือน ต.ค. ที่ผ่านมา คาดว่าจะเริ่มถมทะเลประมาณกลางปี 2020 (COD ระยะที่ 1: ปี 2025) ในส่วนของโครงการแหลมฉบังเฟส 3 (PTT ถือหุ้น 30%) อยู่ระหว่างรอผลการประมูล ซึ่งน่าจะทราบผลอีกไม่นานจากนี้ นอกจากนั้นยังมีโครงการใน EEC ที่ PTT น่าจะมีโอกาสเข้าร่วมลงทุนเพิ่มเติมอีก โครงการต่างๆดังกล่าวจะเป็นอัพไซด์ต่อการเติบโตของบริษัทในระยะยาว จากสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งและเงินสดในมือจำนวนมาก ผู้บริหารกล่าวว่าจะพยายามรักษาระดับการจ่ายเงินปันผลไม่ให้น้อยกว่าเดิม
มุมมองกลยุทธ์ Action (ระยะสั้น 5-10 วันทำการ): แม้ราคาน้ำมันดิบจะปรับตัวขึ้น แต่เนื่องจากความกังวลของตลาดว่าราคาขายก๊าซของ PTT ในปีหน้าจะต้องปรับลง ตามราคา fuel oil ที่ยังถูกกดดันจากมาตรการ IMO2020 ดังนั้นกลยุทธ์แนะ ยังไม่เข้ารับหุ้น PTT เนื่องจากความกังวลของตลาดจะยังคงกดดันหุ้นในระยะสั้น
Fundamental: เราคงคำแนะนำ ซื้อ ที่ราคาเปาหมาย 60 บาท
AOT สารสำคัญจากงานแถลงการณ์ "ทำไมสุวรรณภูมิไม่ขยายตาม master plan เดิม?
ทำไม AOT จึงไม่ปฏิบัติตามแผนเดิม?
ตอบ: AOT ยังคงปฏิบัติตามหลักการของแผนแม่บทเดิม แต่ปัจจุบันบริบทที่เปลี่ยนแปลงไปคือสนามบินสุวรรณภูมิแออัดมาก
ส่วนต่อขยายทิศเหนือ แก้ปัญหาตรงจุดหรือไม่?
ตอบ: AOT ทำตามคำแนะนำของ ICAO ซึ่งมุ่งแก้ปัญหา pain point ของผู้ใช้งานเป็นที่ตั้ง ดังนั้นบริษัทจึงมั่นใจว่าแก้ปัญหาได้ตรงจุด
AOT ไม่ได้เมินหน่วยงานรัฐ: ยืนยันดำเนินงานตามกระบวนการซึ่งมีบอกไว้ชัดเจน
What is next step? นำเสนอบอร์ดของ AOT และส่งข้อมูลให้กระทรวงคมนาคม สภาพัฒน์ และครม. พิจารณาอนุมัติในลำดับถัดไป คาดเสร็จปี 2024 และเพิ่ม capacity รองรับผู้โดยสารได้เพิ่ม 40 ล้านคน เป็น 100 ล้านคน
COM7 ประเด็นสำคัญจากงาน Opportunity Day
การเข้าสู่ตลาด Traditional trade ซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่สามารถทำได้ดีขึ้น การปรับรูปแบบร้านค้าเดิมของบริษัทให้มีความทันสมัยขึ้นส่งผลให้เห็นผ่านยอดขายปรับตัวดีขึ้น ทั้งนี้บริษัทจะเปิดร้านค้าที่มุ่ง specialty มากขึ้นโดยปัจจุบันมีดีมานด์เข้ามาจำนวนมาก สำหรับธุรกิจ Service เห็นแนวโน้มที่ดีขึ้นเรื่อยๆ และธุรกิจ iCare ได้อานิสงจากโปรแกรม AppleCare+ ซึ่งจะทำให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริหาร iCare มากขึ้น
มุมมองกลยุทธ์ Action (ระยะสั้น 5-10 วันทำการ): ทยอยสะสมในช่วงที่ตลาดย่อตัว แนวรับ 27 บาท (stop loss 26 บ.)
Fundamental: เราคงคำแนะ "ซื้อ / Let profit run" แม้ว่าราคาหุ้นจะขึ้นมาจนใกล้ราคาเปาหมายของเราแล้ว แต่จากอัพไซด์ที่จะปรับกำไรขึ้น และ Valuation ที่ PE เพียง 27 ไม่ได้สูงเมื่อเทียบกับกลุ่มค้าปลีกที่ PE เกิน 30 เท่า
ORI ประเด็นสำคัญจากงาน Opportunity Day
เปาเปิดตัวโครงการใหม่ 2.8 หมื่นล้านบาท ซึ่ง 9 เดือนทำไปได้แล้ว 1.6 หมื่นล้านบาท เรามองว่า ORI จะสามารถบริหารจัดการยอดจองซื้อได้ สำหรับยอดโอน ใน 4Q19 บริษัทต้องมียอดโอน 8 พันล้านบาท เพื่อให้ถึงเปาหมายรายได้ที่ 1.7 หมื่นล้านบาท ซึ่งน่าจะทำได้เช่นกัน เพราะบริษัทมี backlog รอโอนแล้ว 5.6 พันล้านบาท ถึงแม้เราจะมีความเชื่อมั่นในการส่งมอบผลประกอบการที่แข็งแกร่งของ ORI แต่จากภาพอุตสาหกรรม
มุมมองกลยุทธ์ Action (ระยะสั้น 5-10 วันทำการ): เรายังคงมีมุมมองที่ระมัดระวังต่อกลุ่มบ้าน แนะอยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ ไปก่อน
Fundamental: เรายังคงยืนยันมุมมองเดิมว่า ให้ "wait and see" ยังไม่กลับเข้าไปซื้อ
หุ้นมีข่าว
เศรษฐกิจ
+ (+) ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นทำนิวไฮเมื่อวันศุกร์ (15 พ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากความเชื่อมั่นครั้งใหม่เกี่ยวกับการทำข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน และตลาดขานรับยอดค้าปลีกของสหรัฐที่เพิ่มขึ้นเกินคาด (ที่มา อินโฟเควสท์)
AOT
0 ประกาศชัดเปาปี 2563 รายได้โต 7-8% ระบุนักท่องเที่ยวโต 5-6% แต่พร้อมเร่งเครื่องธุรกิจ Non-Aero และเมืองการบิน ก่อนที่รอบปี 2564 จะก้าวกระโดดจากดิวตี้ฟรีสัญญาใหม่ ส่วนผลงานปีนี้ทรงตัว หลังนักท่องเที่ยวจีนลดลง พร้อมตั้งสำรองพนักงานในไตรมาส 4/2562 อีก 730 ล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)
ORI
+ ตั้งเปายอดขายปี 2563 ไม่ต่ำกว่า 3 หมื่นล้านบาท จากปีนี้คาดทำได้เกินเปา หลังโครงการขายดี เล็งเปิดโครงการใหม่ปี 2563 รวมมูลค่าราว 2.9 หมื่นล้านบาท จัดงบ 1 หมื่นล้านบาท ลงทุนซื้อที่ดิน-ก่อสร้าง "พีระพงศ์ จรูญเอก" ย้ำรายได้ปีนี้ทำได้ 1.9 หมื่นล้านบาท ระบุมี Backlog ในมือ 4 หมื่นล้านบาท รับรู้เป็นรายได้ยาว 3 ปีข้างหน้า เตรียมดันบริษัทย่อย "พรีโมเซอร์วิส โซลูชั่น" เข้าตลาด mai ปลายปีหน้า (ที่มา ทันหุ้น)
PTTGC
+ มองบวกปีหน้า "ปิโตรเคมี-โรงกลั่นน้ำมัน" ยังเติบโต มั่นใจมาตรการ IMO หนุนความต้องการใช้กลุ่มดีเซลเพิ่มขึ้น แถมการปิดซ่อมปีหน้าลดลง หนุนอัตรากำลังการผลิตเพิ่ม คาดราคาน้ำมันดิบปีหน้าอยู่ที่ 58-65 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล (ที่มา ข่าวหุ้น)
CENTEL
0 รับผลงานปีนี้ทรุด เหตุเศรษฐกิจชะลอ-ปิดปรับปรุงโรงแรม ลุ้นปี 63 หนุนรายได้ฟืน แย้มมีดีล M&A ธุรกิจอาหารและ JV รวม 3 ดีล คาดสรุปในปีนี้ พร้อมตั้งงบ 3 ปี ลงทุน 2.1 หมื่นล้านบาท ขยายธุรกิจโรงแรมอาหาร (ที่มา ข่าวหุ้น)
Trend Forecasting
SET Index ปิด 1,602.23 (-0.45%) มูลค่าการซื้อขาย 4.4 หมื่นล้านบาท
แนวโน้มระยะสั้นมอง
SET Index แนวรับ 1,590 แนวต้าน 1,610/ SET100 รับ 2,355 ต้าน 2,375 BSET100 รับ 10.28 ต้าน 10.38 / BMSCITH รับ 11.70 ต้าน 11.80
หัวข้อ: จุดเปลี่ยนที่แท้จริงเกิดขึ้นเมื่อสัปดห์ที่แล้ว!!
กลยุทธ์เทคนิค:
ถ้าถามว่ารอบนี้ตลาดเกิดจุดเปลี่ยนตอนไหน.....เฉลยคำตอบเกิดเมื่อสัปดาห์ที่แล้วนั่นเอง หากย้อนกลับไปก่อนเหตุการณ์จะพบว่าเครื่องมือทำนายโครงสร้างตลาดจะกลับตัวเป็นขาขึ้น อาจวิ่งฉลุยได้ถึง 1660 จุดเป็นอย่างน้อย ขณะที่ RSI ขึ้นมาที่ระดับ 50 หากผ่านได้จะแสดงความแข็งแกร่ง สุดท้าย! ความหวังจบสิ้น กราฟแท่งเทียนล่าสุดเขียนคำว่า " Fail"ผิดพลาด ขณะที่ RSI ลงต่ำกว่า 50 นอกจากนี้ยังจะตัดเส้น Signal line ลงอีก แบบนี้ดูไม่ดีเลยจริงๆ ส่วนแนวรับมองไว้ 2 โซน รับแรก 1580 เอาไม่อยู่รับถัดไป 1550 จุด นอกจากนี้ยังมีกลุ่มอุตสหกรรมใดบ้างที่ต้องระวัง....ตลาดลงทุกวันความเสี่ยงลดลงหรือไม่.... ติดตามมุมมองทางเทคนิคต่อได้เลยครับ
มุมมองทางเทคนิค:
เจาะโครงสร้างกลุ่มไฟแนนซ์ ปีนี้มาดีจริงๆ ผลตอบแทนบวกถึง 20% เห้นชัด SAWAD และ MTC ราคาขึ้นลอยอยู่ด้านบน แต่สัปดาห์นี้อาจเห็นการปรับฐานเนื่องจากรูปแบบ " Double Top" พร้อมกับ RSI ส่งสัญญาณเตือนการอ่อนแรง ส่วนจะถึงขั้นเลิกเปลี่ยนเป็นขาลง คิดว่าไม่ถึงขนาดนั้น มองเป็นการปรับฐานระยะกลาง 1 สัปดาห์นี้มากกว่า downside risk มองไว้ 5% ตามรูป...Update BLA Market Monitor ชี้ว่าตลาดยังมีความเสี่ยงอยู่เหมือนเดิม......
วิธีการเลือกหุ้น:
โครงสร้างตลาดเปลี่ยนเป็นลง แนะกระชับพอร์ต วิธีเลือกหุ้น เลือกการเทรดขาลง เช่น การ Short หุ้น หรือ Put DW ในส่วนเครื่องมือทางเทคนิคที่ใช้ได้เหมาะกับถาวะตลาดขาลง ได้แก่ EMA, Stochastic, MACD และ Price pattern
*Sector 1-week low* Media, Construction, Finance, Property,
โมเดลพอร์ตทางเทคนิค:
สรุปผลตอบแทนการลงทุน Year to date +5.64% สูงกว่าตลาดที่ +2.92%
*Addition(หุ้นเพิ่ม): --ไม่มี--
*Deletion(หุ้นออก): NER
คงเหลือ: TQM, KKP, TFG, BPP, CBG, ILM, ADVANC, JMT
ธนรัตน์ อิศรกุลนักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์และปัจจัยทางเทคนิค
[email protected] +662-618-1334
Track with Technical: "เปิดโผหุนน Short เล่นขาลง"
MTC (MTC01P2003A)
แนวโน้ม Signal alert!
รับ 55.00
ต้าน 61.00
เหตุผล ความเสี่ยงราคาไม่ทะลุ High เกิดภาพ Double top นอกจากนี้ RSI เตือนSupport การปรับฐานอาจลงทดสอบแนวรับเส้นประ 55 บ.
DTAC (DTAC01P2001A)
แนวโน้ม Bear signal
รับ 56.00
ต้าน 62.00
เหตุผล สัญญาณลบ Bearish เกิดขึ้นหลายชนิด บ่งชี้ความเสี่ยงการปรับตัวลง New low หรือลงแรง
KTC (KTC01P2001A)
แนวโน้มโอกาสหลุดแนวรับ
รับ 40.00/30.00
ต้าน 43.00
เหตุผล ความเสี่ยงหากหลุดแนวรับสำคัญ 40 บ.จะส่งผลให้ราคาลงมาเทรดกรอบล่างซึ่งมีช่องว่างการปรับตัวลง Downside risk มากกว่า 5%