- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 13 November 2019 16:26
- Hits: 2135
บล.เออีซี : Daily Focus
AECS Daily Focus
--------------
Market Outlook
• วันนี้คาดดัชนี SET Index แกว่ง Sideway ในกรอบ 1,620-1,630 จุด โดยมองแม้ท่าทีการเจรจาข้อตกลงร่วม Tradewar เฟส1 มีความชัดเจนขึ้น บวกกับปัจจัยในประเทศที่ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่อง จะสร้าง Sentiment บวกกับตลาดวันนี้ แต่อย่างไรก็ดี ยังมีปัจจัยกดดันจากผลประกอบการของบริษัทฯ ไทยช่วง 3Q62 หลัง Consensus ปรับลดคาดการณ์กำไรสุทธิต่อหุ้นปี 62 ลงต่อเนื่อง
• Market Factor
• (+) ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวสุนทรพจน์ในการประชุม Economic Club of New York วานนี้ว่า สหรัฐฯ และจีนใกล้จะบรรลุข้อตกลงการค้าเฟสแรก
• (+) ดัชนีความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดย่อมปรับตัวขึ้น 0.6 จุด สู่ระดับ 102.4 ในเดือน ต.ค
• (watch) ติดตามถ้อยแถลงของประธานFed ในงาน The Congressional Joint Economic Committee วันที่ 13 พ.ย. 62 เพื่อหาสัญญาณทิศทางอัตราดอกเบี้ยเงินเฟ้อและภาวะเศรษฐกิจ
• (-) Moody’s ปรับลดแนวโน้มความน่าเชื่อถือทั่วโลกปี 63 ลงสู่เชิงลบ จากเดิมที่ระดับมีเสถียรภาพ หลังมีปัจจัยเสี่ยงจากการเมืองโลก และประเด็นสงครามการค้าที่กดดันการขยายตัวเศรษฐกิจและเพิ่มความผันผวนด้านเงินมากขึ้น (อินโฟเควสท์)
• (+) ครม.มีมติเห็นชอบ มาตรการ “ชิมช้อปใช้” เฟส 3 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยให้สิทธิเพิ่มอีก 2 ล้านรายเริ่มลงทะเบียน 14 พ.ย.นี้ พร้อมขยายเวลามาตรการจากเดิมสิ้นสุดในวันที่ 31 ธ.ค.62 ออกเป็น 31 ม.ค.63 เพื่อให้รองรับการใช้จ่ายช่วงเทศกาลตรุษจีน (กรุงเทพธุรกิจ)
• (+) สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เผยภาวะเศรษฐกิจการเกษตรช่วง 3Q62 ขยายตัว 1.1%YoY หลังผลผลิตพืชเศรษฐกิจสำคัญเพิ่มขึ้น ได้แก่ ยางพารา ปาล์มน้ำมัน ทุเรียน มังคุด เงาะ และมันสำปะหลัง เป็นต้น (ฐานเศรษฐกิจ)
• ปรับลดประมาณการ EPS โดยข้อมูลจาก Bloomberg Consensus พบว่าเมื่อต้นปี EPSปี 62 ที่ 115.13 บ. ขณะที่ปัจจุบันเหลือเพียง 95.18 บ. หรือลดลง 17.33%YTD
• Update Flow เมื่อวานนี้ ต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทย 2,035.66 ลบ.ส่งผลภาพรวม MTD.ต่างชาติขายสุทธิลดลงเหลือ 461.25 ลบ. ขณะที่ นลท.สถาบันซื้อสุทธิ MTD. 7,544.65 ลบ.
Investment Strategy
• สัปดาห์นี้เรามอง SET Index ผันผวนในกรอบ 1,605-1,640 จุด โดยตลาดจะมุ่งโฟกัสไปที่การประกาศผลประกอบการช่วง 3Q62 ซึ่งอาจทำให้ตลาดแกว่งตัวไร้ทิศทาง ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศ เรามองว่า แม้ประเด็น Trade war จะมีสัญญาณที่ดีขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ตลาดยังคงติดตามถ้อยแถลงของทั้งประธานเฟด (13 พ.ย.) รวมถึงการประกาศตัวเลขทางเศรษฐกิจหลายตัวของสหรัฐฯ อย่างไรก็ดี สัปดาห์นี้เราเลือก Selective Buy หุ้นที่ผลประกอบการดี รวมถึงเรายังคงแนะนำหุ้น 5 กลุ่มเดิมที่สามารถทยอยซื้อลงทุนได้ในระยะ 3-6 เดือน ดังนี้
• หุ้นกลุ่มที่จะได้ประโยชน์จากแผนกระตุ้น ศก.ของรัฐฯทั้งมาตรการท่องเที่ยว, ชิมช้อปใช้และงานประมูลภาครัฐฯ: แนะนำหุ้นที่ได้ประโยชน์และมี Upside ได้แก่ BJC (ช่วง 2H62 คาดเห็นการฟื้นตัว HoH จากการขยายสาขา BigC มากขึ้นจากสาขาทั้งในประเทศ 7 สาขาและสาขาที่กัมพูชา 1 สาขา BigC Food Place 1 สาขาและ Mini BigC ราว 200 สาขา), SEAFCO (แม้ช่วง 2H62 คาดรับรู้งานลดลง แต่ยังมี Backlog 2.3 พัน ลบ. คาด Secured Revenue 100% ในช่วงที่เหลือของปีนี้ บวกกับยังมี Upside Risk จากงานประมูลใหม่อีก 1.9 หมื่น ลบ.), ERW (ช่วง 3Q62 กำไรโตเล็กน้อย 3%YoY หลังรายได้จากโรงแรมเพิ่มขึ้น 5%YoY เรามองช่วงปลายปียังมีโอกาสฟื้นตัวจากการกลับมาเปิดโรงแรมใหม่ 9 แห่ง อีกทั้งมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวจาก ครม.และมีสัญญาณฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวชาวจีน หลังจำนวนนักท่องเที่ยวจีนยังคงฟื้นตัวต่อเนื่อง), CPALL (ช่วง 3Q62 กำไรโต 8.3%YoY จากยอดขายที่เพิ่มจาก 7-11 กว่า 11,640 สาขา (ก.ย.62) และ Makro โดยบริษัทยังคงเป้าขยายสาขาต่อเนื่องให้ถึง 13,000 สาขาในปี 64 , MINT (ช่วง 3Q62 กำไรโต 347%YoY ด้วยกำไรพิเศษจากการขายโรงแรมที่โปรตุเกส บวกกับ ช่วง 4Q62 เรามองผลประกอบการยังคงฟื้นตัวต่อเนื่อง ด้วยธุรกิจโรงแรมและอาหารหลังตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนยังคงฟื้นตัวต่อเนื่องจากฐานปีก่อนที่ลดลง)
• กลุ่ม Defensive Stock: เราเลือกหุ้นที่มีอัตราจ่ายปันผลน่าดึงดูดบวกกับกำไรช่วง 2H62 มีแนวโน้มโตดี แนะนำ ASK (ช่วง 2H62 คาดกำไรสุทธิมีแนวโน้มโตต่อ หนุนด้วยสินเชื่อรถพาณิชย์ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามงานก่อสร้างภาครัฐฯที่จะทยอยเร่งตัวขึ้นบวกกับคาดได้ประโยชน์จากการทยอยเปลี่ยนรถตู้เป็นรถมินิบัสของผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะตามมาตรการของ ขสมก.
• กลุ่มที่คาดผลดำเนินงานมีแนวโน้มดีต่อเนื่อง: เหมาะกับการทยอยซื้อสะสม โดยเน้นหุ้นที่กำไรช่วง 2Q62 คาดโต YoY และช่วง 2H62 โตต่อ แนะนำ SAWAD (คาดกำไรปี 62 โต 30.8%YoY หนุนด้วยเป้าพอร์ตสินเชื่อโต 20-30% และอีก 300 สาขา, Asset Yield ฟื้นตัวตามสัดส่วนการรับรู้รายได้ผ่านสัญญาเงินกู้ผ่าน BFIT ที่มากขึ้นโดยล่าสุด SAWAD รายงานการถือครองหุ้น BFIT หลัง Tender Offer ที่ 82.04% บวกกับต้นทุนทางการเงินที่ปรับลงหลังได้รับเงินเพิ่มทุนจากพันธมิตร), SELIC (คาดปี 62 เห็นการ Turnaroundของกำไรหลังเริ่มรวมงบการเงินกับ PMCT ซึ่งคาดเห็น Synergy ชัดเจนขึ้นจากการพัฒนาสินค้าใหม่และการขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มใหม่)
• หุ้นกลุ่ม ร.พ.ขนาดกลางที่คาดกำไรช่วง 2H62 โต เข้าสู่ High Season: PR9 (มองทั้งปี 62 โตต่อ หลังกำไร 9M62 โต 10.9%YoY) บ.ยังมีศักยภาพในการเติบโตหลังแนวโน้มการทำกำไรเร่งตัวขึ้นสะท้อนผ่านEBITDA Margin ช่วง 9M62 ปรับตัวเพิ่มขึ้นที่ 17.7% (จาก 17.2% ช่วง9M61) สวนทางกับคู่แข่งในอุตสาหกรรมที่มีความสามารถในการทำกำไรชะลอตัวลง ขณะที่บ.มีแผนการเติบโตที่สดใส เนื่องจาก บ.ถือเป็น Cash Company มีเงินสดต่อหุ้นมากกว่า 2 บ.เตรียมเปิดตึกใหม่ต้นปี 63 เพื่อรองรับลูกค้าได้เพิ่มกว่าเท่าตัวหลังเกิด Over demand ในกลุ่มลูกค้า ICU-CCU (คิดเป็นกว่า 30% ของรายได้)และศูนย์บริการที่ถือเป็นไฮไลท์ใหม่อย่าง Pain Management and Wellness Center ขยายฐานลูกค้าต่างชาติครอบคลุมทั้งจีนและกลุ่มอาเซียน รวมถึงกลุ่มลูกค้าประกันองค์กรและผู้ประกันตนด้วย คาดหนุนบ.มีโอกาสคุ้มทุนได้เร็วกว่าที่ตลาดคาด นอกจากนี้ Consensus ให้ valuation ที่ถูกสุดเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรม ทั้งในแง่ Forward PE เพียง 23.17X ,P/BV 1.78X และEV/EBITDA 10.23X (อุตสาหกรรมอยู่ที่ PE 31.40X,P/BV 4.49X และEV/EBITDA 20.32X)
• หุ้นที่คาดกำไรช่วง 3Q62 โต YoY, QoQ และทั้งปี 62 ยังโตเด่น: SSP, AMATA, PLANB, PRM
12-Nov-19 Change (pts.) 11-Nov-19
SET Index 1,626.20 4.08 1,622.12
SET50 Index 1,095.68 2.99 1,092.69
SET100 Index 2,404.57 5.14 2,399.43
High 1,632.82 Gainers 636
Low 1,622.18 Unchanged 515
Value (Bt m) 45,404.97 Losers 852
Volume (*000) 18,620,963
Market Valuation
SET Data 2019F 2020F Long Term
Fwd PER (x) 17.1 15.4 15.4
EPS Growth (%) 13.9 9.3 -5.5
EV/EBITDA (x) 0.0 0.0 0.0
FWD PBV (x) 1.8 1.7 1.6
Dividend Yield (%) 2.9 3.2 3.6
ROE 10.0 10.4 10.5
Net Buy/Sell by Investor Types
Unit : M Bt 12-Nov-19 WTD MTD YTD
Institution (730.31) (5,229.86) 7,544.66 32,209.19
Proprietary 265.08 1,156.20 1,998.05 12,453.91
Foreign 2,035.66 2,921.84 (461.25) (13,535.41)
Individual (1,570.43) 1,151.81 (9,081.45) (31,127.69)
AECS ( Fundamental and Strategic Team )
จิรภัทร โบสุวรรณ (ID. 040051) [email protected]
ภัทรพล จันทร์อินทร์ (ID. 089932) [email protected]
ธีรยุทธ ฤทธิเผ่าพันธุ์ ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์ Data Support / Secretary