- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 11 November 2019 18:03
- Hits: 937
บล.บัวหลวง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
รอบด้านตลาดหุ้น
ภาพตลาดและแนวโน้ม
Market wrap & Outlook
เมื่อวานศุกร์ดัชนีไม่สามารถยืนบวก ได้อย่างที่คาด : ปิดตลาด ดัชนีลบไปบางๆ 3 จุด จากแรงขายก่อนวันหยุด (เหมือนทุกวันศุกร์ที่ตลาดหุ้นมักจะปรับตัวลง) จากแรงขายหุ้นบูลชิพใหญ่ เช่น PTTGC PTT BBL GULF ฯลฯ ส่วนหุ้นเข้า MSCI รอบใหม่ ส่วนใหญ่บวกดีกว่าตลาด เช่น GPSC BGRIM SAWAD เป็นต้น
วันนี้คาดดัชนีฯ Sideways : คาดสร้างฐานบริเวณ 1,630 จุด และยังไม่ผ่านแนวต้านสั้นวันนี้ที่ 1,640 จุด แต่คาดเป็นการพักเพื่อเล่นขึ้นต่อ ภายใต้สมมุติฐาน ช่วงนี้จะยังไม่มีข่าวลบใหม่ๆเกี่ยวกับ การเจรจาการค้า สหรัฐฯ-จีน ก่อนจะมีการพบกันระหว่าง ปธน.ทรัมป์-สี จิ้นผิง ประชุม APEC สุดสัปดาห์นี้ (แม้ว่าเมื่อวานศุกร์ ปธน.ทรัมป์ จะให้ความเห็นคัดค้าน แต่เรามองว่าเป็นเรื่องปกติของ ปธน.ทรัมป์)
กรอบระยะสัปดาห์ มอง 1625/1630 ถึง 1650 ส่วน Upside ที่เกินกว่านั้นจะมาจาก ค่าบาทที่อ่อนค่า ซึ่งจะหนุนราคา หุ้นปิโตรฯ โรงกลั่น และ หุ้นอื่น ที่อิงรายได้เป็น USD
What to watch
(+) ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ความคืบหน้า เจรจาการค้าเพื่อยุติการจัดเก็บภาษีเพิ่มเติมระหว่าง สหรัฐฯ-จีน และกระแสข่าว การทยอยยกเลิกกำแพงภาษีที่จัดเก็บกันไปก่อนหน้านี้ เมื่อมีการเซ็นสัญญาข้อตกลง เฟสแรกแล้วเสร็จ ช่วงกลางเดือนนี้ กลายเป็นประเด็นบวกสำคัญหนุนให้หุ้นไทย-โลก ปรับสูงขึ้น นำโดยหุ้น Global play อาทิ ปิโตรฯ โรงกลั่น ฯลฯ เราแนะนำ เลือกเล่นรอบหุ้น โรงกลั่น ปิโตรฯ (IRPC PTTGC) เพื่อไปรอขายทำกำไร เมื่อราคาหุ้นขึ้น รับข่าว การจรดปากกาเซ็นสัญญา การค้า สหรัฐฯ-จีน เฟสแรก คาดภายในเดือนนี้
(+) งบ บจ.ที่เราศึกษา ประกาศถึงเมื่อวันศุกร์ 8 พย. พบว่า จากจำนวน 34 บจ. มีเพียง DTAC ที่ได้รับการปรับกำไรขึ้น ส่วน บจ.ถูกปรับกำไรลงมีจำนวนถึง 17 บจ. คิดเป็นถึง 50% และกำไรแย่กว่าคาดมีจำนวน 13 บจ. คิดเป็น 38% (เทียบกับ 2Q19 ปรับลง 26% และ แย่กว่าคาด 38%) แต่เป็นที่น่าสังเกตว่าราคาหุ้นส่วนมากปรับลงแรงมารองบ ล่วงหน้าไปค่อนข้างมาก เมื่อรายงานงบจึงเริ่มเห็นแรงซื้อกลับในหุ้น ปิโตรฯ และ โรงกลั่น ในรอบนี้
หุ้นแนะนำวันนี้
PTTGC หุ้น Pet-Chem ที่อิงรายได้ USD term เก็ง Upside จากทิศทางค่าเงินบาทที่ คาดว่าจะเริ่มอ่อนค่าอย่างมีนัยยะจากนี้ไป ขณะที่ Valuation หุ้น PBV ตอนนี้ -2SD แล้ว คาด Downside ด้านล่างมีจำกัด (สุดๆ)
CBG กำไรดีกว่าคาดมาก มาพร้อมกับการปรับกำไรขึ้น ราคาเหมาะสมพื้นฐานใหม่ 97 บ.
Weekly port
เพิ่ม PTTGC
วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค
ธนัท พจน์เกษมสิน,นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน
นภนต์ ใจแสน, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน
รายงานวันนี้
KBANK KBANK ประกาศลดดอกเบี้ย MLR 0.25% ตามคาด
ประกาศลดอัตราดอกเบี้ย MLR มีผลวันที่ 11 พ.ย. 2019 และลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากนิติบุคคลเช่นกัน โดยผลดังกล่าวเป็นตามประมาณการเราและเปาธนาคารดังนั้นเราคงกำไรปีนี้และปีหน้า ไม่เปลี่ยนแปลง ราคาหุ้น KBANK ที่ปรับตัวขึ้นดีและเรามองเป็นโอกาสในการขายเพื่อเปลี่ยนตัวเล่น เนื่องจากกำไรธนาคารในปี 2020 อยู่ในแนวโน้มขาลงจากปีนี้อันเป็นผลจาก NIM ที่ปรับตัวลดลงเยอะ และ รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยยังลดลงต่อเนื่องเป็นปีที่สองหลังจากลดลง ปี 2019 เราคงแนะนำ TISCO KKP และ BBL เป็นหุ้น Top Pick จากราคาถูกปันผลสูงและ ความเสี่ยงลดประมาณการกำไรต่ำกว่าธนาคารอื่นๆ
ANAN ประเด็นสำคัญจากการพูดคุยกับบริษัทล่าสุด
ข่าวร้ายสำหรับคอนโด คือ "ความเสี่ยงเรื่องกฎระเบียบ" ที่จะส่งผลให้การโอนคอนโด ต้องใช้เวลาเพิ่มกว่าที่ผ่านมาอีก 30 วัน เนื่องจากกรมธนารักษ์มีกระบวนการออกราคาประเมินที่นานขึ้น โดยหลังงบ 3Q19 ประกาศ คาดจะเป็นการปรับลดแผนธุรกิจลงเช่นกัน คาดว่าราว 20% ส่งผลต่อการปรับลดประมาณการกำไรจากตลาดซึ่งจะมิได้สร้างความประหลาดใจต่อเรา อย่างไรก็ตาม เรามองว่า ANAN จะสามารถ rebound ขึ้นไปยืนหนือ 3 บาทได้เนื่องจาก 1) กำไรผ่านจุดต่ำสุดคือ 2Q19 และเติบโต QoQ ใน 3Q19, 2) เร็วๆ นี้ ข่าวหุ้นกู้ตลอดชีพปลดล็อคความกังวล และ 3) หุ้นซื้อขายต่ำ BV สิ้น มิ.ย 2019
PTTGC ประเด็นสำคัญจากการประชุมนักวิเคราะห์
ค่าการกลั่นคาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นใน 4Q19 ต่อเนื่องถึงปี 2020 หนุนโดยกฎ IMO2020 สำหรับตลาดปิโตรเคมี บริษัทยังคงมองว่าสงครามการค้าอาจส่งผลให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัวและส่งผลกระทบเชิงลบต่ออุปสงค์ภาพรวม ในขณะที่โครงการขยายกำลังการผลิตต่างๆ มีความคืบหน้าตามแผน สำหรับกลยุทธ์การเติบโตในระยะยาว บริษัทมีเปาหมายในการต่อยอดสายผลิตภัณฑ์ลงไปยังปลายน้ำให้ครบถ้วน คาดการณ์กำไร 4Q19 ที่อ่อนแอ อาจจะส่งผลให้ตลาดปรับลดประมาณการกำไร นอกจากนั้นแนวโน้มอุปสงค์ยังมีความไม่แน่นนอนต่อเนื่องไปถึง 4Q19 อย่างไรก็ตามด้วยมูลค่าหุ้นและเงินปันผลปี 2020 ที่ 3.7% เราจึงคงคำแนะนำ "ถือ"
หุ้นมีข่าว
MARKET
+ หุ้นเข้า MSCI Standard index BGRIM GPSC OSP SAWAD / MSCI Small Cap CENTEL + DOHOME JMT SPRC STPI TPIPP TQM ออก CBG SAWAD TISCO (ที่มา MSCI)
NEX
+ "อเนก ปิ่นวนิชย์กุล" เก็บหุ้นบมจ. เน็กซ์ พอยท์ (NEX) ขยับถือหุ้นเป็น 6.28% "อินทิรา ช่วยสนิท กลุ่มสมาร์ทบัส เข้าถือหุ้น 13.89% (ที่มา กลต.)
PTTGC
+ มั่นใจผลงานปีหน้าดีกว่าปีนี้ ทั้งรายได้และกำไร ลั่นเปารายได้ปีหน้าโต 15% จากปีนี้ อานิสงส์ปริมาณการกลั่นเพิ่มขึ้น เหตุไม่มีปิดซ่อมบำรุง บวกมาร์จิ้นปิโตรเคมีสูงขึ้น ขณะที่กางแผน 5 ปี ทุ่มเงินลงทุนกว่า 1.5-+ 2 แสนล้านบาท เดินหน้าลงทุนปีหน้ากว่า 3 หมื่นล้านบาท พร้อมลุยลงทุนโครงการปิโตรคอมเพล็กซ์ในสหรัฐฯ (ที่มา ข่าวหุ้น)
BGRIM
+ เต็งจ๋าคว้าโซลาร์ลอยน้ำเขื่อนสิรินธร 45 เมกะวัตต์ หลังเสนอราคาที่ดีที่สุด ลั่นมีความพร้อมในการเริ่ม+ พัฒนาและก่อสร้างโครงการทันที (ที่มา ข่าวหุ้น)
CBG
+ กำไร Q3/2562 ทุบสถิติเป็นประวัติการณ์ต่ออีก 732 ล้านบาท พุ่ง 186% ตลาดต่างประเทศเติบโตดี แถม+ โรงงานกระป๋องเดินเครื่องผลิตถึง 86% ดันมาร์จิ้นกระฉูด ส่งซิกมาร์จิ้นดีต่อเนื่อง (ที่มา ทันหุ้น)
ADVANC
+ โชว์กระแสเงินสดในมือ 6.2 หมื่นล้านบาท ยันเพียงพอต่อการทยอยชำระค่าใบอนุญาตคลื่น 700, 900 และ 1800 MHz ไปจนถึงปี 2572 มูลค่ารวม 8.3 หมื่นล้านบาท ครองผู้นำตลาด และเตรียมความพร้อมรองรับ+ เทคโนโลยี 5G ในอนาคต จับตาโมเดลธุรกิจใหม่ "โบรกเกอร์ประกันภัยออนไลน์" เสริมรายได้หลักแข็งแกร่ง (ที่มา ทันหุ้น)
Trend Forecasting
SET Index ปิด 1,637.85 (-0.18%) มูลค่าการซื้อขาย 5 หมื่นล้านบาท
แนวโน้มระยะสั้นมอง
SET Index แนวรับ 1,633 แนวต้าน 1,643/ SET100 รับ 2,417 ต้าน 2,433 BSET100 รับ 10.55 ต้าน 10.64 / BMSCITH รับ 11.95 ต้าน 12.05
หัวข้อ: แนวโน้มตลด+ค่าเงินบาทจะเป็นอย่างไร....แถมท้ายหุ้น Hot "ปิโตร" ไปต่อหรือไม่ !!
กลยุทธ์เทคนิค:
สัปดาห์ที่แล้วดัชนีขึ้นได้ใจทะลุเส้นแนวโน้มเปลี่ยนโครงสร้างเป็นขาขึ้น สัปดาห์นี้อาจลดความร้อนแรงลงมานิดนึง เนื่องจากดัชนีขึ้นมาใกล้ต้านแรก %DVH FDVH จุด ขณะที่เปาหมายสิ้นปี %XOO FDVH ยังมีลุ้นที่ 1670 จุด ส่วนแนวรับอยู่ที่ 1620 จุด (จุดต้านเปลี่ยนเป็นรับ) นอกจากนี้ขอ Update ค่าเงินบาทภายหลังกนง.ลดดอกเบี้ยลง แนวโน้มจะเป็นอย่างไร.. แถมท้ายหุ้น Hot ประจำสัปดาห์ปิโตรเคมีสัปดาห์นี้จะยัง Hot ไม่เลิกหรือไม่.....ติดตามต่อมุมมองทางเทคนิคได้เลยครับ
มุมมองทางเทคนิค:
ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน ค่าเงินบาทเป็นสกลุเงินที่แข็งค่ามากที่สุดในภูมิภาคเอเชีย ตลาดหุ้นยังต้องยอมแพ้ แต่สัปดาห์ที่ผ่านมาหลังจากมีนโยบายลดดอกเบี้ย ส่งผลให้บาทอ่อนค่าทันที เครื่องมือ Bollinger band ชี้ว่ามีโอกาสอ่อนค่าลงไปแตะระดับ 30.6 บาท/ดอลลาร์ ดังนั้นหุ้นที่ได้ประโยนช์จากบาทอ่อนเช่น กลุ่มส่งออกและอิเล็กทรอนิกส์ GFPT, TFG, KCE สัปดาห์นี้ถือลุ้นต่อ หุ้น Hot ปิโตรเคมี บวกกระจาย 10% ภายใน 1 สัปดาห์ หากมองจากแนวต้านเส้นค่าเฉลี่ย -GD V (0$ และ 0$&' ประกอบ ยังมีช่องว่างให้ขึ้นได้อีก
หุ้นแนะนำ PTTGC และ IRPC ถือลุ้นต่อเช่นเดียวกันครับ..
วิธีการเลือกหุ้น:
โครงสร้างตลาดเปลี่ยนเป็นขาขึ้นแนะใช้เครื่องมือที่เหมาะสมกับภาวะตลาดในปัจจุบัน ได้แก่ EMA, Stochastic, MACD, Price pattern
*Bull EMA&Bull MACD* Petrochemical, Transport, Food, Media, Finance, Energy sectors
โมเดลพอร์ตทางเทคนิค:
สรุปผลตอบแทนการลงทุน Year to date +9.18% สูงกว่าตลาดที่ +4.73%
*Addition(หุ้นเพิ่ม): PTTGC, KCE, IRPC
*Deletion(หุ้นออก): GUNKUL, TPIPP (ทยอยล๊อคกำไร)
คงเหลือ: TQM, BBL, KKP, KTC, PLANB, PRM, WORK ,SCB, GFPT, TFG, PTTGC, KCE, IRPC
ธนรัตน์ อิศรกุลนักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์และปัจจัยทางเทคนิค
[email protected] +662-618-1334
Track with Technical: "Bull Signal"
TFG
แนวโน้ม กลับมาแล้ว
รับ 3.96
ต้าน 4.20 / 4.50
เหตุผล ดีดกลับบนแนวรับสำคัญ 4 บ. Low ยกขึ้น Stochastic หนุนสัญญาณกลับตัว
BPP
แนวโน้ม ได้เวลาขึ้น
รับ 18.30
ต้าน 20.00-20.50
เหตุผล สัญญาณกลับตัวจาก Stochastic รายสัปดาห์ ปิด High นอกจากนี้เงินปันผลสูงสุดในกลุ่มโรงไฟฟ้า
NER
แนวโน้มรูปแบบขาขึ้น
รับ 2.54
ต้าน 2.90-3.00
เหตุผล สู้บนแนวรับสำคัญ 2.5 บ. ยืนยันโครงสร้างขาขึ้นระยะยาว นอกจากนี้ MACD ชี้สัญญาณกลับตัว