WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

DBSบล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
“จีนรอลงนาม-กนง.จะปรับลดดอกเบี้ยพรุ่งนี้หรือไม่”
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : IRPC (จากถือเป็นซื้อ)
ภาวะตลาดและปัจจัย : SET วานนี้ +29.73 จุด ปิดที่ 1622.25 จุด มูลค่าการซื้อขายหนาแน่นขึ้นเป็น 64.5 พันล้านบาท ดัชนีปรับขึ้นดีกว่าภูมิภาค มีปัจจัยบวกจากตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร การผลิตจีน-สหรัฐดีเกินคาด เจรจาการค้าเฟส 1 ออกมาในทางที่ดี อาจจะลงนามในเดือนนี้ หุ้นปรับขึ้นดี JAS,GULF,AOT,CPALL ซื้อสุทธิมากคือ สถาบัน ขายสุทธิมากเป็นต่างชาติ ตั้งแต่ต้นเดือนถึงปัจจุบัน ต่างชาติขายสุทธิ 1.4 พันล้านบาท ด้านแนวโน้มตลาดและกลยุทธ์คือ
# ปัจจัยสำคัญ: เจรจาการค้าคืบหน้ามากขนาดจีนกำลังเลือกสถานที่ลงนาม น้ำมันปรับตัวขึ้นต่อ มีหุ้นขนาดใหญ่ อรามโคเข้า IPO ด้านผลประกอบการสหรัฐสดใสดาวโจนส์สป็อตและล่วงหน้าปรับเพิ่ม ตลาดหุ้นเพื่อนบ้านบวกส่วนใหญ่ ทองคำและพันธบัตรปรับลง เข้าหาสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น ดัชนีกังวลอยู่ระดับต่ำ ผลประกอบการไทย ช่วงนี้เป็นพลังงาน แม้ไม่สดใสจากขาดทุนสต็อก แต่ 4Q62 มีโอกาสดีขึ้น เช่น IPPC ด้านปัจจัยลบอินเดียไม่ร่วมแถลงการณ์ งานประชุมอาร์เซ็ม ที่จบลงไปแล้ว และIMF เห็นว่าไทยต้องดูแลเศรษฐกิจที่ช่วงนี้จะต้องผ่านไปให้ได้ ติดตาม กนง.ประชุมพรุ่งนี้ จะลดดอกเบี้ยไหม
# ระยะสั้นคาด SET- ปัจจัยต่างประเทศแกร่ง หุ้นมีโมเม็นตัมดีต่อ มีการเก็งกำไรหุ้นส่งออก และ SYNEX ที่เกี่ยวกับหัวเว่ย หลังสหรัฐมีทีท่าผ่อนปรน หุ้นกลุ่มแบงค์ที่ซื้อขายต่ำกว่า Book Value หาก กนง.ปรับลดดอกเบี้ยส่งผลดีกับ กลุ่มเช่าซื้อ อสังหาฯ คาด SET ซื้อขายในกรอบ 1590-1640 จุด แนวต้านเป็น 1630-1640 จุด แนวรับอยู่ที่ 1590-1580 จุด Stop Loss ต่ำกว่า 1610 จุด การเข้าเก็งกำไรควรเข้าไว-ออกไว กลยุทธ์ คือ เลือกลงทุนทยอยสะสม เป็นรายกลุ่มและรายตัว (Selective) ตามTheme เป้าหมายดัชนีปีนี้ 1680 ปีหน้า 1725 จุด วันนี้มีหุ้นเข้าใหม่ตลาด MAI คือ “IP” แนะนำเลือกซื้อ หุ้นได้ประโยชน์มาตรการรัฐ-CPALL,BJC,AMATA, WHA, CK,STEC ดอกเบี้ยขาลง-DIF,CRYSTAL,TPRIME,WHART,MTC,SAWAD ปันผลสูง- KKP,TISCO,AP,ORI หุ้น DEFENSIVE- ADVANC,BTS,BEM ได้ประโยชน์ IMO2020- TOP ตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนฟื้นตัว รัฐกระตุ้นท่องเที่ยว- AOT,ERW,MINT กลุ่มการแพทย์ 3Q ฤดูกาลดีที่สุดในรอบปี อากาศผันผวนสูง - CHG,RJH,RPH
# Stock Pick Today : BBL กำไรสุทธิ 3Q19 ออกมาดีกว่าคาดเท่ากับ 9.4 พันล้านบาท (+4.5%YoY, +1.0%QoQ) จากรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยสูงกว่าคาด โดยเฉพาะรายได้ค่า Fee รวมทั้งค่าใช้จ่ายดำเนินงานลดลงสินเชื่อ ณ สิ้นก.ย.19 หดตัว -4.0%YTD เนื่องจากสินเชื่อภาคธุรกิจและสินเชื่อต่างประเทศหดตัว NPL เพิ่ม 5.0%QoQ เป็น86.2 พันล้านบาท ส่วน NPL ratio ขยับขึ้นเป็น 3.6% โดยมี Coverage ratio 183% แนะนำซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 250 บาท เทียบเท่ากับ P/BV ปี 2019 ที่ 1.1 เท่า คาดการณ์Dividend yield ประมาณ 3.8% ต่อปี
การวิเคราะห์ทางเทคนิค: ระยะสั้น สัญญาณ Candlestick & Indicators เปลี่ยนเป็นบวกเล็กๆอีกครั้ง {“ปิดบวกแรง”เหนือ“SMA10วัน”อีกครั้ง (แต่ยังถูกกดดันจาก“โครงสร้างขาลง–ระยะกลาง”)} ชี้ความน่าจะเป็นของตลาดฯวันนี้“แกว่ง”แบบให้น้ำหนักกับการลง แต่“ค่าบวก”(มี“Oversold”ในกราฟรายนาที + SMA10 “หนุน”) จะทำให้มีรีบาวด์ฯสั้นๆก่อน(แล้วจึงลงต่ำ,ตามมา)ได้ แนวต้าน 1630 (หรือ 1640) จุด {แนวตัดขาดทุน “ต่ำกว่า 1610” (แนวรับย่อย “1590 – 1580 / 1550” จุด)} หุ้นที่มีสัญญาณทางเทคนิคทำ New High เข้ามาใหม่คือ BBL,TOA,OSP,TQM,PRM ที่ยังอยู่ใน List คือ DIF,CHG,JMT,BCH,SISB,PTT หุ้นหลุด List คือ HMPRO,BDMS หุ้นอยู่ในพื้นที่Take Profit คือ RPH,ESSO,KTC
Thailand Research Team : reseach-th.dbs.com
Inside Story
Key Drivers TODAY : ปัจจัยต่างประเทศ / ปัจจัยในประเทศ
Company Guide : BDMS (ถือ -ราคาพื้นฐาน 26.00)
IRPC (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 4.20)
Flash Note : CRYSTAL (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 10.80)
MINT (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 46.00)
New Listing : IP
Key Drivers TODAY
ปัจจัยต่างประเทศ
+ เจรจาการค้า: รัฐมนตรีพาณิชย์ของสหรัฐเชื่อลงนามเฟสแรกในเดือนนี้แล้ว
# นายวิลเบอร์ รอสส์ รัฐมนตรีพาณิชย์ของสหรัฐ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวในระหว่างการเข้าร่วมประชุมสุดยอดอาเซียนซึ่งจัดขึ้นที่กรุงเทพฯ ว่า เขาเชื่อว่าสหรัฐจะบรรลุข้อตกลงการค้าเฟสแรกกับจีนในเดือนนี้ และคาดว่าบริษัทสหรัฐจะได้รับใบอนุญาตให้จำหน่ายสินค้าให้กับบริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ของจีนในเร็วนี้
# ทางด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวว่า การเจรจาเกี่ยวกับข้อตกลงการค้าเฟสแรกกำลังดำเนินไปด้วยดี และเขาหวังที่จะลงนามข้อตกลงดังกล่าวกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนในสหรัฐเมื่อการทำข้อตกลงเสร็จสมบูรณ์ นอกจากนี้ปธน.ทรัมป์ส่งสัญญาณว่า เขาอาจลงนามข้อตกลงการค้ากับจีนที่รัฐไอโอวา ซึ่งเป็นรัฐที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากการทำสงครามการค้าระยะเวลาเกือบ 16 เดือนระหว่างสหรัฐและจีน
+ ผลประกอบการ: หลักทรัพย์ใน ดัชนี S&P 500 เปิดเผยผลประกอบการดีเกินคาด
# ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากการเปิดเผยผลประกอบการที่สดใส โดยบริษัทจำนวนมากในดัชนี S&P 500 ได้รายงานผลประกอบการประจำไตรมาส 3 ขณะที่ 75% จากจำนวนดังกล่าวได้รายงานตัวเลขกำไรดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
- สหรัฐ: คำสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐลดลง 0.6% ในเดือนก.ย.เทียบรายเดือน
# สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า คำสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐลดลง 0.6% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบรายเดือน ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 0.5% หลังจากลดลง 0.1% ในเดือนส.ค.
+ ดัชนีหุ้นสหรัฐ: ปรับขึ้น ตอบรับเจรจาการค้าคืบหน้า
# ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 27,462.11 จุด พุ่งขึ้น 114.75 จุด หรือ +0.42% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่3,078.27 จุด เพิ่มขึ้น 11.36 จุด, +0.37% ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดวันทำการล่าสุดที่ 8,433.20 จุด เพิ่มขึ้น46.80 จุด, +0.56%
# ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นทำนิวไฮเมื่อคืนนี้ (4 พ.ย.) ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ทำสถิติปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เช่นกัน ขานรับสัญญาณบ่งชี้ถึงความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐ หลังจากนายวิลเบอร์ รอสส์ รัฐมนตรีพาณิชย์ของสหรัฐได้แสดงความเชื่อมั่นว่า สหรัฐและจีนจะบรรลุข้อตกลงการค้าเฟสแรกในเดือนนี้
+ น้ำมัน: WTI ปรับขึ้น เพราะแท่นขุดเจาะลด และตัวเลขจ้างงานแกร่ง
# สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 34 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 56.54 ดอลลาร์/บาร์เรล
# สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 44 เซนต์ หรือ 0.7% ปิดที่ 62.13 ดอลลาร์/บาร์เรล
# สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (4 พ.ย.) ขานรับความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน รวมทั้งตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐที่ขยายตัวแข็งแกร่งเกินคาดในเดือนต.ค. นอกจากนี้บรรยากาศการซื้อขายในตลาดน้ำมันยังได้รับปัจจัยหนุนจากข่าวซาอุดี อารามโค ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ของรัฐบาลซาอุดีอาระเบีย ประกาศเสนอขายหุ้นต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรก (IPO)
+ ทองคำ: ปรับลง ขายทำกำไรเข้าตลาดหุ้น
# สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 30 เซนต์ หรือ 0.02% ปิดที่ 1,511.10ดอลลาร์/ออนซ์
# สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (4 พ.ย.) เนื่องจากเทขายสินทรัพย์ปลอดภัยหลังจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กพุ่งขึ้นทำนิวไฮ นอกจากนี้ การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังส่งผลให้สัญญาทองคำมีความน่าดึงดูดน้อยลง
ปัจจัยในประเทศและข่าวหลักทรัพย์
+ รมว.พาณิชย์สหรัฐเชื่อว่าจีน-สหรัฐลงนามเฟสแรกเดือนนี้ และหัวเว่ยซื้ออุปกรณ์จากสหรัฐได้
# รัฐมนตรีพาณิชย์ของสหรัฐ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวในระหว่างการเข้าร่วมประชุมสุดยอดอาเซียนซึ่งจัดขึ้นที่กรุงเทพฯ ว่า เขาเชื่อว่าสหรัฐจะบรรลุข้อตกลงการค้าเฟสแรกกับจีนในเดือนนี้ และคาดว่าบริษัทสหรัฐจะได้รับใบอนุญาตให้จำหน่ายอุปกรณ์ให้กับบริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ของจีน ในเร็วนี้
ผลกระทบ: เป็นบวกกับ SYNEX หากสถานการณ์ที่หัวเว่ยมีข้อพิพาทกับสหรัฐฯผ่านไปได้ด้วยดี เพราะมีรายได้จากโทรศัพท์เคลื่อนที่หัวเว่ยในสัดส่วนราว 10-15% ความหวังอยู่ที่ 4Q ที่มีการบรูณาการขาย คาดว่าจะฟื้นตัวได้จากที่แย่ใน2Q19 และ 3Q19 ล่าสุดปรับเพิ่มคำแนะนำเป็น “ซื้อ” จากเดิม “เต็มมูลค่า” หลังราคามีช่วงปรับตัวลงแรง ราคาพื้นฐานปี2563 อยู่ที่ 8.70 บาท
-IMF: เห็นว่าไทยจำเป็นต้องดูแลเศรษฐกิจให้ผ่านพ้นช่วงนี้ไปให้ได้ และดูแลใกล้ชิด
# รมว.คลัง เปิดเผยภายหลังการเข้าพบของผู้บริหารกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ว่า ผู้บริหาร IMF ได้ร่วมหารือถึงสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบันของโลกและของไทย โดยมองว่าเศรษฐกิจโลกยังมีความท้าทายจากหลายปัจจัยทั้งสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน, กรณีอังกฤษแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (BREXIT) ซึ่งเมื่อรวมกันแล้วส่งผลให้เศรษฐกิจโลกได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเห็นว่าไทยจำเป็นต้องดูแลเศรษฐกิจให้ผ่านพ้นช่วงนี้ไปให้ได้ และดูแลใกล้ชิด และที่สำคัญ คือ ให้พิจารณาใช้ทุกเครื่องมือที่มีเพื่อดูแลเศรษฐกิจในช่วงนี้ให้ได้ ทั้งการเงินและการคลัง
• ประชุมสุดยอดอาเซียน+3 นายกฯมีเป้าหมายมีการลงนามร่วมกันระหว่างสมาชิกทั้งหมดปี 63
# อธิบดีกรมสารนิเทศ ในฐานะโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวในระหว่างการเปิดประชุมสุดยอดอาเซียน+3 (จีน, เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น) เช้าวันนี้ และแจ้งให้ที่ประชุมทราบว่าได้มีข้อสรุปการเจรจาที่ประชุมจัดทำความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) แล้ว และมุ่งมั่นที่จะให้มีการลงนามร่วมกันระหว่างประเทศสมาชิกทั้ง 16 ประเทศในปี 63 ต่อไป
+ หุ้นใหม่เข้าซื้อขายในตลาด MAI วันนี้: บมจ.อินเตอร์ ฟาร์มา หรือ IP
# บมจ.อินเตอร์ ฟาร์มา หรือ IP พร้อมเข้าเทรดวันแรก 5 พ.ย.นี้ บริษัทมั่นใจนักลงทุนตอบรับดี ตั้งเป้า 5 ปี ดันแบรนด์INTERPHARMA ขึ้นแท่นเป็นบริษัทชั้นนำด้านผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ และนวัตกรรมความงามสำหรับคน และผลิตภัณฑ์สุขภาพสำหรับสัตว์เลี้ยงและปศุสัตว์ รุกขยายช่องทางการจำหน่ายผ่านร้านโมเดิร์นเทรดและออนไลน์ สร้างการเติบโตระยะยาว โดยมีบล. เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญ
# ปัจจุบันมีนักลงทุนรายใหญ่สนใจซื้อหุ้นบริษัทฯ จากผู้ถือหุ้นรายย่อยเดิม จำนวนไม่ต่ำกว่า 20 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 7บาท เท่ากับราคา IPO ซึ่งได้มีการตกลงกันแล้ว โดยจะทำการซื้อขายหุ้นดังกล่าวบนกระดานรายใหญ่ (Big Lot) ของตลาดหลักทรัพย์ฯ ในวันแรกที่หุ้นเข้าเทรด
นักวิเคราะห์&กลยุทธ์ : สมบัติ เอกวรรณพัฒนา : [email protected]
 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!