วานนี้ SET แกว่งแดนบวกสลับลบ โดยมีแรงซื้อในกลุ่มธนาคาร (KBANK, SCB) ขณะที่มีแรงขายมากในกลุ่มสื่อสาร (ADVANC, INTUCH) โดย ณ สิ้นวัน SET ปิดที่ 1,601.49 (-0.3 จุด) มูลค่าการซื้อขาย 6.4 หมื่น ลบ. (เทียบกับวันก่อนหน้า 6.6 หมื่น ลบ.)

          โดยนักลงทุนต่างชาติ ขายหุ้นไทย 3,867 ลบ. (นักลงทุนสถาบันซื้อ 5,019 ลบ.) ส่วนตลาด TFEX นักลงทุนต่างชาติเปิด Long Futures ที่ 2,891 สัญญา

Stock Picks & Trading Idea

          BDMS (ราคาเป้าหมาย 28 บาท/หุ้น) คาดกำไรหลักจะกลับมาเติบโตได้ในครึ่งปีหลัง หลังจากครึ่งปีแรกกำไรหลักลดลง 3% โดยเราคาดว่าปัจจัยหนุนหลักคือ EBITDA margin ที่น่าจะปรับตัวได้ดีขึ้น โดยเฉพาะช่วงไตรมาส 3 ซึ่งเป็น high season จากฤดูฝน ส่งผลให้กลุ่มรพ. พญาไท และเปาโล น่าจะมีรายได้ปรับตัวได้ดีขึ้น ส่วนไตรมาส 4 กำไรหลักน่าจะโตโดดเด่น เนื่องจากฐานกำไรที่ต่ำในปีที่แล้ว นอกจากนี้ภายหลังจากที่ convertible bond ได้แปลงเป็นหุ้นสามัญหมดแล้ว จะทำให้ BDMS ลดดอกเบี้ยส่วนที่ตั้งประมาณการเอาไว้ได้บางส่วนด้วย

Investment Theme

          ผันผวนตามการเจรจาสงครามการค้า/ผลประกอบการ: เข้าสู่เดือน พฤศจิกายน คาดประเด็นสำคัญของเดือนนี้คือ การเจรจาการค้าเฟส 1 ระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ซึ่งเราเชื่อว่ามีโอกาสเห็นพัฒนาการที่ดีขึ้น โดยความคืบหน้าล่าสุด พบว่า หัวหน้าคณะเจรจาการค้าของจีนและสหรัฐฯ จะจัดการสนทนาทางโทรศัพท์กันในวันนี้ และด้านนายโฮแกน กิดลีย์ โฆษกทำเนียบขาวเปิดเผยว่า สหรัฐยังคงคาดหวังว่าจะสรุปเนื้อหาข้อตกลงการค้าเฟสแรกกับจีนได้ภายในเดือนพ.ย. ซึ่งหากมีบทสรุปที่ดี คาดจะช่วยกระตุ้นการลงทุนสินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มเติม ส่วนปัจจัยในประเทศ ในช่วงครึ่งเดือนแรกติดตามการรายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ของบริษัทจดทะเบียน โดยรวมกำไรในไตรมาสนี้อาจไม่ค่อยดีนัก แต่อย่างไรก็ดี ราคาหุ้นก็มีการตอบรับปัจจัยลบดังกล่าวไปในระดับหนึ่งแล้ว และถ้าผ่านพ้นประเด็นนี้ไปได้คาดตลาดจะมีความคาดหวังมากขึ้นต่อการเข้าสู่ช่วง High season ของหลายกลุ่มอุตสาหกรรมในช่วงที่เหลือของปี อีกทั้งคาดเม็ดเงิน LTF ที่มักจะไหลเข้ามาพยุงตลาดในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปี คิดเป็นกว่า 65% ของปริมาณซื้อขาย LTF ทั้งปีจะเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่จำกัด Downside ของตลาด

          Investment Strategy : SET วันนี้ประเมินแนวรับที่ 1590 ต้าน 1610 จุด ย่อสะสมหุ้นพื้นฐานดี (BDMS, HMPRO, CHG, JMT)

Big Issue

เมื่อคืนที่ผ่านมา :  

          PMI ภาคการผลิตจีน เดือน ตค. ที่ 49.3 จุด ต่ำกว่าตลาดคาดที่ 49.8 จุด

          สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ลงมติ 232-196  เห็นชอบเกี่ยวกับการวางกรอบการไต่สวนอย่างเป็นทางการเพื่อถอดถอนปธน.ทรัมป์ออกจากตำแหน่ง

Eyes on

ปัจจัยต่างประเทศ :

          1  พย. การจ้างงานนอกภาคเกษตร คาด 8.5 หมื่นตำแหน่ง / ISM ภาคผลิต ตค. คาด 49 จุด

          4 พ.ย. ดัชนี PMI ยูโรโซนภาคการผลิต ตค.

          5 พ.ย. ดัชนี Caixin PMI จีน ภาคบริการ ตค. คาด 51.5 จุด / PMI ภาคบริการ, ISM ภาคบริการ ตค. สหรัฐฯ

ปัจจัยในประเทศ :

          6 พ.ย. การประชุม กนง. คาดคงอัตราดอกเบี้ยที่ 1.5%

          7 พ.ย. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค เดือน ตค.

          8 พย. ประกาศ MSCI Rebalance

Technical View

SET

          แนวรับ : 1580/1590

          แนวต้าน : 1615/1630

          SET Index : หากหลุด 1590 แนะนำ Lock Profit ในขาขึ้นรอบนี้ ในช่วงเช้าดัชนีเปิดโดดขึ้น และแกว่ง Sideway Down ตลอดทั้งวันจากแรงขายหุ้นกลุ่มสื่อสารและพลังงาน ทำให้แนวโน้มหลักขณะนี้ยังเป็นขาลง มองแนวรับถัดไปที่ 1590 และ 1580 ซึ่งเป็น Low ของรอบนี้ โดยหากหลุด 1580 แนวโน้มจะกลับเป็นขาลงรอบใหม่ มองแนวรับถัดไปที่ 1570 และ 1550 ฉะนั้นภายในวันหากหลุด 1590 แนะนำให้ Lock Profit ในขาขึ้นรอบ

กลยุทธ์การลงทุน

          มีหุ้น: จังหวะ Rebound มองเป็นโอกาสขายเล่นรอบที่แนวต้าน 1610/1630 แต่หากหลุดบริเวณ Low 1590 แนะนำ Lock Profit

          ไม่มีหุ้น: รอดูแนวโน้มจนกว่าจะเริ่มหยุดลงหรือมีแรง Rebound ที่ชัดเจนกว่านี้

Tiger Picks :

          BCH :  ซื้อ

          แนวรับ : 16.30-16.50

          แนวต้าน : 17.30/18.00

          ตัดขาดทุน : 16.00

          SISB : ซื้อ

          แนวรับ : 8.70-8.80

          แนวต้าน : 9.15/9.30

          ตัดขาดทุน : 8.60

ข่าว เด่น พร้อมคำแนะนำ

CENTEL

          รับผลกระทบศก.ชะลอ ลุ้นมาตรการรัฐดึงคนเที่ยวไทย (ทันหุ้น)

          ความเห็น : เราคาดว่า กำไรหลักของ CENTEL จะลดลงประมาณ 30% YoY ใน Q3/62 สาเหตุจาก RevPar ธุรกิจโรงแรมน่าจะลดลงระดับ 10% YoY ในขณะที่ SSSG ของธุรกิจอาหารน่าจะลดลงระดับ 8% YoY ทั้งนี้แนวโน้มน่าจะดีขึ้นในช่วงไตรมาส 4 เรายังคงแนะนำถือ CENTEL โดยราคาเป้าหมายยังอยู่ระหว่างปรับประมาณการ

TU

          ศาลตัดสิน"จอห์น เวสต์"ไม่มีความผิดในข้อกล่าวหาทำธุรกิจประมงผิดกฎหมาย (ทันหุ้น

          ความเห็น : เมื่อเกือบ 2 ปีที่แล้ว John West Foods Limited (JWUK) ซึ่งบริษัทย่อยของ TU ถูกฟ้องกรณีการทำประมงผิดกฎหมายในประเทศกาน่า (IUU) โดยปลาที่ใช้ในผลิตภัณฑ์ที่นำเข้าสหราชอาณาจักรช่วงระหว่างเดือนมกราคม 2553 ถึง เดือนกุมภาพันธ์ 2557 โดย TU ไม่ได้ตั้งสำรองค่าใช้จ่ายไว้ การตัดสินของศาลจึงทำให้คลายความกังวลการตั้งสำรองฯ อย่างไรก็ดี ผลประกอบการยังถูกกดดันจากเงินบาทแข็งค่า แนะนำชะลอการลงทุนไปก่อน

PRM

          ได้เวลาเก็บเกี่ยวลงทุน จับตา Q3 ผลงานทำจุดสูงสุด (ทันหุ้น)

          ความเห็น : ไตรมาสนี้เราคาด PRM จะทำสถิติสูงสุดใหม่ของกำไร จากกองเรือที่ใหญ่ขึ้น และธุรกิจ FSU ทำงานเต็มรูปแบบ ขณะที่ปี 2563 กฏเกณฑ์ IMO2020 จะเร่งให้อุปสงค์ของ FSU เพิ่มอย่างมีนัยสำคัญ แนะซื้อ 13.80 บาท

PLANB

          ฮุบสื่อเอาต์ดอร์กลุ่ม BTS PLANB (ข่าวหุ้น)

          ความเห็น : เรามีมุมมอง บวก แก่ MACO ต่อดีลนี้ ในแง่ upside ต่อกำไร และความเสี่ยงที่ต่ำ แผนการเข้าซื้อ Hello LED และร่วมมือกับ PLANB ทั้งในแง่การออกหุ้น PP ให้ และ การให้สัญญาตัวแทนขายสื่อแบบมีการันตีรายได้ ทำให้ฐานกำไรรวมน่าจะยกตัวขึ้นได้ถึง +48% หักล้าง Dilution effect -19% ได้ แนะซื้อเก็งกำไร 1.60 บาท

          นักวิเคราะห์ : วิจิตร อารยะพิศิษฐ

          Research Department Tel. 02-658-5000