SET ผันผวนในกรอบกว้าง 1617-37 โดยภาคเช้าเปิดกระโดดขึ้น คลายกังวล Brexit และครม.ออกมาตรการกระตุ้นศก.หลายชุด แต่หุ้นกลุ่มแบงก์ (KBANK, SCB) เผชิญแรงขายอย่างหนักกดดันดัชนี กังวลแนวโน้มผลประกอบการในอนาคต ต่างชาติพลิกซื้อสุทธิ 2.82 พันลบ. และ Long S50 Futures อีก 4,808 สัญญา 7 วันในรอบ 8 วัน

ทิศทางตลาดวันนี้    : ผันผวน ลุ้นแรงซื้อคืนหุ้นแบงก์-รับเหมาหนุนตลาดดีดกลับ

หุ้นโลกเมื่อวาน (24 ต.ค.) ส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง โดยหุ้นยุโรปปรับขึ้นจากหุ้นกลุ่มยานยนต์และเวชภัณฑ์รายงานผลประกอบการดีเกินคาด และคาดการณ์ว่า EU จะอนุมัติให้อังกฤษขยายกำหนดเวลาการถอนตัวออกจาก EU ด้านประชุม ECB คงดบ.ตามคาด และจะซื้อสินทรัพย์ 2 หมื่นล้านยูโรต่อเดือนตั้งแต่ พ.ย. นี้เป็นต้นไปจนกว่าศก.จะฟื้นตัว ขณะที่หุ้นสหรัฐฯ ปรับขึ้นเช่นกัน ยกเว้นดัชนี DJ ที่ปิดลบ ผิดหวังผลประกอบการของ 3M ถ่วงดัชนี ท่ามกลางการรายงานผลประกอบตัวอื่น ๆ ที่ออกมาดี ขณะที่ตัวเลขศก.สหรัฐฯ ออกมาคละเคล้า มอง SET แนวโน้มผันผวนสูง จากความอ่อนแออย่างผิดปกติของราคาหุ้นกลุ่มแบงก์และกลุ่มรับเหมา เรามองส่วนหนึ่งมาจากการชะลอตัวของภาวะศก. และอีกส่วนที่น่าจะมีน้ำหนักมากกว่า คือ เป็นผลมาจากตราสารอนุพันธ์ (SSF, DWs) และคำสั่งซื้อขายหุ้นแบบอัตโนมัติ (Program Trading) เมื่อราคาหุ้นเกิดสัญญาณเชิงลบ หากมีแรงซื้อคืนหุ้นกลุ่มแบงก์และกลุ่มรับเหมาจากภาวะ “Oversold” คาดจะช่วยหนุนตลาดดีดกลับได้ แต่การรีบาวด์ยังจำกัด รอความชัดเจนประเด็น Brexit , ประชุม FED สัปดาห์หน้า และการทยอยประกาศผลประกอบการ (SCC, HMPRO, PTTEP) แนวรับ 1620, 1615 แนวต้าน 1625, 1630-32 อนึ่ง คาดไม่มีหุ้นติด Cash Balance เย็นนี้

กลยุทธ์การลงทุน    : เทรดดิ้งใช้กรอบ 1600-1650, ลงทุนเป็นรอบหาจังหวะสะสม

หาก SET ปิดต่ำกว่า 1620 อาจต้องใช้เวลาตั้งหลักกันใหม่ที่บริเวณ 1600 +/- อีกครั้ง ยังคงกรอบเทรดดิ้งสั้นที่ SET 1600-1650 / ส่วนการลงทุนเป็นรอบ แนะหาจังหวะทยอยสะสม ภาพรวม Q4 มองหุ้นไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้น

•    ประเด็นหุ้นน่าสนใจ Fundamental Pick AOT – จำนวนผู้โดยสารระหว่างปท.ในช่วง ก.ค. – ก.ย. (4QFY19) ดีขึ้นมาก +7.5% YoY ขณะที่จำนวนผู้โดยสารระหว่างปท.ช่วง 1-19 ต.ค. +11.7%, คาดกำไรปกติ 4QFY19 อยู่ที่ 5.895 พันลบ. +10.7% YoY แต่ด้วย AOT อาจมีการตั้งสำรองพนักงานตามประกาศแรงงานฉบับใหม่ของรัฐวิสาหกิจ คาดกำไรสุทธิจะอยู่ที่ 5.185 พันลบ. -4.1%, มองการเปิดประมูลดิวตี้ฟรีดอนเมือง 24 ต.ค. – 8 พ.ย. และประกาศผลผู้ชนะประมูล 16 ธ.ค. เป็นปัจจัยกระตุ้นราคาหุ้นระยะสั้น, เป้าพื้นฐาน 82 บ. / หุ้นคาดงบ 3Q19F ดี – ชอบ AMATA, BTS, CBG, CHG, EPG, ERW, GPSC, INTUCH, JWD, MTC, PLANB, PRM, SPALI, SSP, TRUE, WHA / หุ้นขนาดใหญ่มีสภาพคล่องซื้อขายสูงที่คาดว่าจะเป็นเป้าลงทุนของเม็ดเงิน LTF & RMF ไหลเข้า – แนะนำ AOT, BDMS, CPALL, PTT, SCB  / หุ้นรับอานิสงส์ “ชิมช้อปใช้” - BJC, CPALL, ERW, MINT, SPA / หุ้นรับมาตรการรัฐกระตุ้นบริโภคฐานราก – CPALL, BJC, AEONTS, KTC, MTC / การลงทุน – AMATA, ROJNA, WHA, EASTW, CK, SEAFCO, PYLON การท่องเที่ยว - AOT, ERW, SPA / 4 Sector ที่พิสูจน์แล้วว่าแข็งแกร่งในช่วงที่โลกวุ่นวายเกี่ยวกับสงครามการค้า คือ 1.TRANS - AOT, BTS, BEM 2.HELTH – BDMS 3.COMM – CPALL, BJC 4.PF&REIT&IFF – CPNREIT, QHPF, WHART, DIF, JASIF, TFFIF ผสานหุ้นปันผลดี EASTW, INTUCH, LH, MAJOR, MCS, NYT, SPALI

•    หุ้นเด่น ต.ค. (Smart Tactics) BJC, ERW, SEAFCO, SPALI, TRUE, TU, WHA

ปัจจัยติดตาม

วันที่    ปท.    เหตุการณ์

25 ต.ค.     US    ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (U. of Michigan Conf.) ของสหรัฐฯ ในเดือน ต.ค. (สุดท้าย)

27 ต.ค.    CH    ผลกำไรภาคอุตฯ จีนใน ก.ย.

28 ต.ค.    EU, US    ปริมาณเงิน (M3) สหภาพยุโรปใน ก.ย., สต็อกสินค้าภาคค้าส่งสหรัฐฯ ใน ก.ย. (เบื้องต้น)

    US    ดัชนีชี้ภาวะธุรกิจเขตชิคาโก และดัชนีชี้วัดภาคอุตฯ แดลลัส สหรัฐฯ ใน ต.ค.

29-30 ต.ค.    US    ประชุม FED

ที่มา : Bloomberg, TISCO Research

อภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล         

เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 18171        

 02-633-6467        

: [email protected]

ธนพล บำรุงพงศ์         

เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 46537        

 02-633-6471        

: [email protected]