KGI ประเมิน SET Index วันพฤหัสฯ บวกต่อ... หลังเมื่อวันอังคาร ดัชนีฯ รีบาวด์ หนุนโดยแรงส่งจากการแรลลี่ต่อเนื่องของหุ้นกลุ่มไฟฟ้า + การประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบ 2 มูลค่า 6 พันล้านบาท... ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศวันนี้เป็นบวกมากขึ้น กล่าวคือ i) แรงหนุนจากตลาดน้ำมัน หลังราคาน้ำมันดิบสหรัฐฯ ขึ้นแรง รับตัวเลขสำรองน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของ EIA ต่ำกว่าที่ consensus คาด ผนวกกับรายงานข่าวจากบลูมเบิร์กว่ากลุ่มโอเปกอาจพิจารณาลดปริมาณผลิตในระดับที่มากกว่าปัจจุบัน และ ii) ความคาดหวังต่อการปรับลดดอกเบี้ยของเฟด หลังจากสัญญาเฟดฟันด์ฟิวเจอร์ล่าสุดให้น้ำหนักสูงถึง 95% ว่าเฟดจะลดดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมวันที่ 30 ต.ค. นี้ ขณะที่ปัจจัยอื่นๆ ทรงตัว นักลงทุนยังคงติดตามสถานการณ์ในยุโรป ไม่ว่าการพิจารณาของกลุ่มยุโรปในการเลื่อนวัน Brexit จาก 31 ต.ค. ออกไป และผลประชุม ธ.กลางยุโรป (ECB) ในค่ำวันนี้เวลาบ้านเรา (อย่างไรก็ดี นักเศรษฐศาสตร์ KGI มองว่า ECB ไม่น่าจะออกมาตรการใดๆ เพิ่มเติม เพราะเพิ่งประกาศลดดอกเบี้ยและมาตรการซื้อพันธบัตรในการประชุมครั้งก่อน)... ด้านปัจจัยภายในประเทศ ในวันนี้จะมีการเซ็นสัญญารถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน น่าจะเป็นจิตวิทยาเชิงบวกต่อหุ้นในกลุ่มที่เกี่ยวข้องด้วย

หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน     (สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)

เก็งกำไร EPCO, SCCC, SPALI*

          EPCO (เป้าพื้นฐาน 5.3 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 3.78 บาท / แนวต้าน 3.84 บาท หาก Breakout แนวต้านเทรนไลน์ดังกล่าวได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป 4.1 - 4.2 บาท (Stop loss 3.64 บาท) 2) ฝ่ายวิจัยฯประเมิน i) Valuation โรงไฟฟ้าในมือ 211MW (ตามสัดส่วนการถือหุ้น และไม่รวมโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มเวียดนาม 99MW ที่จะขายหุ้นใน 4Q62) ยังไม่สะท้อนใน Valuation (ประเมินแบบอนุรักษ์นิยม เฉพาะส่วนธุรกิจนี้ได้ 4.57 บาท/หุ้น) ii) เครื่องจักรผลิตกล่องลูกฟูก เริ่มเดินเครื่องใน 4Q62 รองรับดีมานด์ ตามการเติบโตของการขนส่งและธุรกิจค้าออนไลน์ 3) ลุ้นปันผลพิเศษจากการขายหุ้นโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มเวียดนามใน 4Q62 นี้ คาดปันผลรวมปีนี้ +10%, ปีหน้าปันผลปกติ +6.5%

          SCCC (เป้าพื้นฐาน 274 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 209 บาท / แนวต้าน 218 - 227 บาท (Stop loss 207 บาท) 2) ฝ่ายวิจัยฯประเมินกำไร 3Q62 จะกลับมาเติบโต +37.6% QoQ เนื่องจากไม่มีการตั้งสำรองรายจ่ายพนักงานตามมาตรฐานบัญชีใหม่ และไม่มีการปิดซ่อมบำรุงโรงงาน 3) ราคาหุ้นที่ปรับลงจน Dividend yield สูงราว 4.3% ในปีนี้ และ 4.8% ในปีหน้า น่าจะสะท้อนข่าวลบเรื่องผลการดำเนินงาน 2Q62 และดีมานด์ปูนซีเมนต์ปีนี้ที่ไม่เติบโตตามคาดแล้ว (การก่อสร้างภาครัฐฯล่าช้า, ภาคอสังหาฯชะลอตัว) 4) คาดรับ Sentiment จากมาตรการช่วยเหลือภาคอสังหาฯของรัฐบาล ซึ่งจะช่วยระบายสต๊อกบ้านและมีโอกาสการลงทุนสร้างใหม่ๆ หนุนดีมานด์ปูนซีเมนต์ปีหน้า

          SPALI* (เป้าพื้นฐาน 23.4 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 17.4 บาท / แนวต้านแรก 17.9 - 18.2 บาท หากผ่านแนวต้านดังกล่าวได้ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 18.6 บาท (Stop loss 17 บาท) 2) ประเมินรับอานิสงส์นโยบายภาครัฐฯ (ลดค่าธรรมเนียมการโอน-จดจำนองบ้านมูลค่าไม่เกิน 3 ล้านบาทให้เหลือ 0.01%) ช่วยระบายสต๊อกบ้าน 3) Valuation ถูก forward PE 6.3 เท่า, Dividend yield 6% คาดมีโอกาสรีบาวด์ หากสถานการณ์อุตสาหกรรมฯ ดีขึ้น

หุ้นเชิงปริมาณ & พื้นฐาน "Quantamental"

          หุ้นเด่นเดือน ต.ค.2562: เลือก DELTA (Stop loss 47.5 บาท), JASIF (Stop loss 10.1 บาท)

          กลยุทธ์ Pair trade: แนะนำคงสถานะกลยุทธ์ Long MTC* / Short SAWAD* (ขาดทุน -1.4%) ... แนะนำปิดสถานะตัดขาดทุน หากผลตอบแทนรวมของกลยุทธ์ขาดทุนเกิน -5%

หุ้นมีข่าว

          (+CK*,+SEAFCO,+PYLON) นับหนึ่งเซ็นสัญญา"ไฮสปีด" ซีพีประเดิม 4 พันล้านตั้งบริษัท  (ประชาชาติ) แหล่งข่าวจากกลุ่ม ซี.พี.เปิดเผยว่า ได้จดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคลเฉพาะกิจใหม่ (SPV) เพื่อเซ็นสัญญาร่วมทุนโครงการ ชื่อ "บริษัท รถไฟความเร็วสูงสายตะวันออกเชื่อมสามสนามบิน จำกัด หรือ Eastern High-Speed Rail Linking Three Airports Co.,Ltd พร้อมเตรียมเงิน 4,500 ล้านบาท วางหลักประกันสัญญาให้ร.ฟ.ท. ตามสัดส่วนการร่วมทุน ประกอบด้วย บจ.เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง 70% บจ.ไชน่า เรลเวย์ คอนสตรัคชั่น (CRCC) 10% บมจ.ช.การช่าง และ บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BEM) 15% และ บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ 5% " โดยในวันนี้เวลา 13.40น. จะมีการลงนามสัญญาร่วมทุนโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน และ บันทึกความเข้าใจเพื่อสนับสนุนโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน หลังเซ็นสัญญา ต้องออกแบบทำการเจาะสำรวจพื้นที่คาดว่าใช้เวลา 6 เดือน วางแผนรื้อย้ายสาธารณูปโภค เร่งเคลียร์พื้นที่เพื่อให้โครงการสร้างเสร็จ 5 ปี รวมถึงยื่นขอรับสิทธิและประโยชน์จากบีโอไอ ทำแผนเงินกู้เพื่อลงทุนโครงการให้เสร็จใน 270 วัน เป็นต้น" ความเห็น : เรามีมุมมองเชิงบวกต่อข่าวดังกล่าว โดยจะเป็นบวกต่อ CK* และกลุ่มผู้รับเหมาเสาเข็ม (SEAFCO,PYLON) จากการประเมินเบื้องต้นจะทำให้ CK มีbacklog เพิ่มขึ้นจากงานโยธาในส่วนของโครงสร้างรถไฟฟ้าความเร็วสูงประมาณ (3-5หมื่นลบ.) จากระดับปัจจุบันที่ 38.5หมื่นลบ.  ณ 2Q62 ซึ่งเราได้รวมโครงการดังกล่าวไว้แล้ว โดยใช้สมมติฐาน CK ได้รับbacklog จากโครงการนี้ 4 หมื่นลบ.  นอกจากนี้ SEAFCO และ PYLON ได้งานคนละ1สัญญามูลค่าสัญญาละ 1,500 ลบ. โดยคาดว่าโครงการจะเริ่มก่อสร้างในช่วง 4Q63

          (-) นายฐากร ตันฑสิทธิ์ เลขาธิการ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่าหลักเกณฑ์การประมูลคลื่น 5จี  มีกำหนดจะได้ข้อสรุปในเดือน ธันวาคม 2562 โดยจะมีคลื่น 4 ย่าน ที่จะนำออกมาประมูลคือ i) คลื่นที่เหลือจากการประมูลในครั้งก่อน คือ คลื่น 700 MHz รวมทั้งคลื่น 1800 MHz และ ii) คลื่น 2600 MHz และคลื่น 26GHz ขณะที่การประมูลจะจัดขึ้นในเดือน ก.พ. 2563 (ที่มา: Bangkok Post) Comment: เรามองว่าประเด็นนี้เป็นปัจจัยบวกต่อประเทศในด้านเทคโนโลยีใหม่สำหรับสังคมดิจิทัล แต่เป็นลบต่อราคาหุ้นของผู้ประกอบการมือถือทุกราย เพราะจะต้องมีการจ่ายเงินค่าคลื่นใหม่และลงทุนในอุปกรณ์โครงข่ายเพิ่มในปี 2563 เป็นต้นไป ทั้งนี้คลื่น 700 MHz และคลื่น 1800 MHz น่าจะต้องอิงราคาประมูลในครั้งก่อนที่ 1.75 หมื่นล้านบาท/ไลเซนส์ และ 1.25 หมื่นล้านบาท/ไลเซนส์ ตามลำดับ ส่วนคลื่น 2600 MHz และ 26MHz อยู่ระหว่างการพิจารณาราคาตั้งต้นประมูล

          (+) เลือกช้อป 7 หุ้นอสังหาฯ ได้ดีลดค่าโอน-จดจำนอง (ข่าวหุ้น) เปิดโผ 7 หุ้นอสังหาฯเด่น "SPALI*-PSH*-LPN*-ORI*-AP*-ANAN*-QH*" โบรกฯเชียร์ "ซื้อ" ประเมินรับอานิสงส์โดยตรงจากมาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอน-จดจำนองบ้านมูลค่าไม่เกิน 3 ล้านบาทให้เหลือ 0.01% คาดเร่งปรับโปรโมชั่นกระตุ้นยอดโอนไตรมาสนี้

          (+) ร้านค้าแห่สมัครเฟส 2 ชิมช้อปใช้ (เดลินิวส์) สุดคึกคัก "ชิมช้อปใช้เฟส 2" ร้านค้าแห่สมัครเข้าร่วมโครงการเพียบ หวังกระตุ้นยอดขาย หลังมั่นใจไม่โดนรีดภาษี คลังคาดถึงสิ้นปีมีร้านค้าเข้าร่วมทะลุ 1 แสนแห่ง เงินสะพัดทะลุเป้า 60,000 ล้าน พร้อมดึงเครือข่ายโรงแรม บริษัททัวร์ รถเช่าเพิ่ม ด้าน โรบินสัน เปิดอีก 1 สาขา หวังช่วยกระตุ้นยอดขายรับไฮซีซั่น ขณะที่ห้างจังซีลอน โดดร่วมเที่ยววันธรรมดาราคาช็อกโลก ปั๊มยอดโต 10-15%

          (+) FSMART เด้งรับข่าวดี ธปท.ไฟเขียวสินเชื่อ (ทันหุ้น) "FSMART" สั่งลุยธุรกิจสินเชื่อทันที หลังได้รับใบอนุญาตจากกระทรวงการคลังผ่านธนาคารแห่งประเทศไทย 3 รูปแบบ ทั้งสินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อจำนำทะเบียน และนาโนไฟแนนซ์ นำร่องปล่อยกู้สินเชื่อส่วนบุคคลเฟสแรกวงเงิน 500 ล้านบาท คาดช่วยหนุนรายได้ 2-3% ในปีแรก

หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า

          ADVANC* (เป้าพื้นฐาน 265 บาท) ประเมินแนวรับ 230 บาท / แนวต้าน 238 - 244 บาท (Trailing stop 229 บาท)

          TCAP* (เป้าพื้นฐาน 61 บาท) ประเมินแนวรับ 54 บาท / แนวต้าน 55 - 56.75 บาท (Stop loss 52.5 บาท)

          AMA (เป้าพื้นฐาน 8.1 บาท) ประเมินแนวรับ 6.85 บาท / แนวต้าน 7.25 บาท (Trailing stop 6.6 บาท)

          AOT* (เป้า Consensus 79 บาท) แนะนำ "Let profit run" (Trailing stop 76 บาท)

          ALL (ยังไม่มีเป้าหมายใน Consensus) แนะนำ "Let profit run" (Trailing stop 4.4 บาท)

Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้

          AAV* แนะนำ "ถือ" เป้าพื้นฐาน 3.4 บาท ฝ่ายวิจัยฯคาดจะรายงานผลขาดทุน 308 ล้านบาท ใน 3Q62 อย่างไรก็ดีคาดว่าจะพลิกกลับเป็นกำไรได้ใน 4Q62 จาก i) High season, ii) ต้นทุนน้ำมันลด, iii) เพิ่ม Capacity    

          อดิศักดิ์ คำมูล

          66.2658.8888 ต่อ 8843

          [email protected]