- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 21 October 2019 16:25
- Hits: 13390
Money Wizard : บล.กรุงศรี จำกัด(มหาชน)
ตลาดหุ้นเมื่อวันศุกร์
SET Index อ่อนตัวลง -1.37 จุด (-0.08%) ปิดที่ระดับ 1,631 จุด ด้วย Volume 5.5 หมื่นล้านบาท ตามทิศทางตลาดหุ้นภูมิภาคหลังขาดปัจจัยใหม่กระตุ้นการลงทุน รวมถึงนักลงทุนผิดหวังตัวเลข GDP 3Q19 ของจีนที่ขยายตัวต่ำกว่าคาดการณ์จากผลกระทบสงครมการค้า โดยส่วนใหญ่เป็นแรงขายในกลุ่ม PROP TOURISM ETRON ที่กดดันดัชนี ส่วนนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,655 ล้านบาท และ Net Short TFEX จำนวน 6,224 สัญญา อีกทั้งขายสุทธิในตลาดพันธบัตร 1,134 ล้านบาท
แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้
เรามีมุมมองเป็นกลางคาด SET แกว่งตัว 1,625 – 1,640 จุด โดยแม้ว่าภาวะตลาดจะได้ปัจจัยบวกจากงบประมาณปี 63 วาระแรกผ่านสภาฯด้วย 251 คะแนน อย่างไรก็ตามประเด็นลบจาก IMF ปรับลดคาดการณ์ GDP โลกปีนี้ลงต่ำสุดในรอบ 10 ปีที่ระดับ 3.0% (จากเดิม 3.2%) จากผลกระทบ Tradewar , สถานการณ์ Brexit ที่ยังยืดเยื้อซึ่งมีความเป็นไปได้ที่อังกฤษจะต้องส่งหนังสือถึง EU เพื่อขอเลื่อน Brexit ออกไปอีก 3 เดือน นอกจากนี้กระแส Fund Flow ต่างชาติที่ยังคงไหลออกต่อเนื่องโดย Net sell 6.6 พันลบ.MTD. รวมถึงความกังวลผลประกอบการ 3Q19 ของกลุ่มพลังงานที่คาดว่าจะอ่อนตัวลงจาก Stock loss จะกดดันให้ดัชนีอ่อนตัวลง
กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy
หุ้นที่คาดว่างบ 3Q19 จะเติบโต GPSC, BGRIM, EA, ADVANC, BCH, CHG, EPG, TASCO ,PRM, JMT, JMART, BGC
กลุ่มไฟแนนซ์ (MTC, SAWAD) ได้ประโยชน์ต้นทุนลดลงจากทิศทางดอกเบี้ยขาลง
Defensive stock AOT, INTUCH, ADVANC, BEM, BTS, BDMS, BCH, CHG, GPSC, TTW, CPALL
หุ้นแนะนำวันนี้
ADVANC (ปิด 231 ซื้อ/เป้า 260) ปลอดภัยจาก Trade war, ขณะที่แนวโน้มผลประกอบการ 3Q19 ยังเติบโตตรงข้ามกับหุ้น Big Cap ในกลุ่ม พลังงานและธนาคารที่ชะลอตัว โดยเราคาดกำไรสุทธิประมาณ 8.5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 10%qoq และ 25%yoy
EPG (ปิด 7.85 ซื้อเก็งกำไร/เป้าสูงสุด IAA Consensus 9.4) คาดกำไรสุทธิ 2Q20 (ก.ค.-ก.ย.19) น่าจะกลับมาเติบโตทั้ง qoq และ yoy จากการฟื้นตัวดีขึ้นในทุกธุรกิจ โดยเฉพาะ Packaging และ Aeroklas ซึ่งได้ผลบวกจากต้นทุนเม็ดพลาสติกที่ลดลง (HDPE, PP, PET) และยังมีแนวโน้มจะลดลงอีกตามราคาน้ำมันดิบในปัจจุบันที่ลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือน
บทวิเคราะห์วันนี้
LPN (ปิด 5 ปรับลดเป็นถือ /เป้าใหม่ 5.25 เดิม 9.7), Energy sector (Top pick: TOP, SPRC, BCP)
ประเด็นสำคัญวันนี้
(-) เศรษฐกิจจีนเข้าสู่ New normal, เศรษฐกิจโลกเติบโตในอัตราที่ต่ำลง คือโจทย์ใหญ่ของประเทศพึ่งพาการส่งออก โดยเฉพาะไทย :ในอดีตเราเคยเห็นเศรษฐกิจจีนโตเฉลี่ย 10% ต่อปี แต่ปัจจุบันเศรษฐกิจจีนได้รับผลกระทบจากปัญหาสงครามการค้า รวมถึงการเปลี่ยนแปลงนโยบายเศรษฐกิจที่ลดการพึ่งพาการส่งออกและเน้นการบริโภคในประเทศส่งผลให้เศรษฐกิจจีนเข้าสู่อัตราการเติบโตใหม่ (New normal) หรือมีอัตราการเติบโตต่ำลงเมื่อเทียบกับในอดีต โดยล่าสุดจีนประกาศ GDP 3Q19 ขยายตัว 6% ลดลงจาก 6.2% ใน 2Q19 และต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ 6.1% ขณะที่ IMF ลดคาดการณ์ GDP โลกในปีนี้ลงสู่ระดับ 3% ต่ำสุดนับตั้งแต่ Hamburger crisis นับเป็นโจทย์ใหญ่ของประเทศที่พึ่งพาการส่งออกโดยเฉพาะไทย ซึ่งปีนี้อาจจะเห็นอัตราการเติบโตของ GDP ต่ำกว่า 3% หรือต่ำกว่าเศรษฐกิจโลก
(+) Brexit ยังไม่จบ เมื่อรัฐสภาอังกฤษขอเลื่อนการลงมติจนกว่าจะผ่านร่างกฏหมายที่เกี่ยวข้องทั้งหมด : เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมารัฐสภาอังกฤษจัดการประชุมเพื่อลงมติรับร่าง Brexit ฉบับของ นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรี แต่ที่ประชุมขอแปรญัตติเพื่อขอให้มีการเลื่อนการลงมติออกไปก่อนด้วยคะแนนเสียง 322 ต่อ 306 คะแนน เนื่องจากต้องการให้สภาฯผ่านร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องทั้งหมดก่อน ซึ่งผลแปรญัตติในครั้งนี้ทำให้เป็นไปได้สูงว่าอังกฤษจะต้องส่งหนังสือถึง EU เพื่อขอเลื่อน Brexit ออกไปอีก 3 เดือน หรืออีกทางเลือกคืออังกฤษจะต้องจัดให้ลงมติ Brexit ใหม่ก่อนที่จะถึงกำหนดเส้นตายในวันที่ 31 ต.ค. นี้
(+) คลายกังวล กฎหมายงบประมาณปี 63 (วาระแรก) ผ่านสภาฯแล้วด้วยมติรับหลักการ 251 คะแนน : ผ่านไปแล้วสำหรับการประชุมสภาฯเพื่อพิจารณารับหลักการของร่าง พรบ.งบประมาณประจำปี 2562 โดยผลลงมติมี ส.ส.ลงคะแนนรับหลักการทั้งหมด 251 คน ไม่รับหลักการ 1 คน และ อีก 234 คนงดออกเสียง แต่ด้วยคะแนนส.ส.ที่ลงมติรับหลักการเกินกึ่งหนึ่งของจำนวน ส.ส. ทั้งหมดทำให้การลงมติในครั้งนี้ผ่านสภาไปได้ ขั้นตอนต่อจากนี้ จะมีการตั้งกรรมาธิการเพื่อแปรญัตติและจะมีการประชุมในวาระที่ 2 และ วาระที่ 3 อีก จากนั้นจึงจะส่งเรื่องให้ ส.ว. พิจารณา และให้พระเจ้าอยู่หัวพิจารณาโปรดเกล้าฯ ซึ่งคาดกระบวนการทั้งหมดน่าจะแล้วเสร็จประมาณเดือน ก.พ.ปีหน้า
Artit Janswang
Chaiyot Jiwangkul
Research Department