- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 18 October 2019 14:42
- Hits: 6060
บล.เคจีไอ : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ (รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
เทรดในกรอบแคบๆ ต่อไป
KGI ประเมิน SET Index วันศุกร์เทรดกรอบแคบๆ ต่อไป... หลังเมื่อวานนี้ดัชนีฯ ไซด์เวย์ (ตามคาด) แต่ในรายกลุ่มอุตสาหกรรมมีการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นค่อนข้างรุนแรง โดยหุ้นกลุ่มโรงกลั่นและปิโตรเคมีลดลงค่อนข้างแรง ตามความกังวลต่อเศรษฐกิจโลกและปัจจัยลบเฉพาะตัวของบางบริษัท ขณะที่หุ้นกลุ่มไฟฟ้ายังคงโดดเด่นต่อ... ส่วนในวันนี้ คาดว่านักลงทุนส่วนใหญ่จะยังชะลอเพื่อติดตามปัจจัยเศรษฐกิจโลกที่สำคัญต่อไป กล่าวคือ i) การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ซึ่งล่าสุดจีนออกแถลงการณ์ว่าสหรัฐฯ ต้องยกเลิกการปรับขึ้นภาษีในเดือน ธ.ค. 2562 จึงจะมีการเซ็นข้อตกลงการค้าระหว่างกัน และ ii) ประเด็น Brexit ซึ่งมีข่าวดีเข้ามาหลังอังกฤษ และกลุ่มยุโรปตกลงเบื้องต้นกันได้เมื่อวานช่วงเย็น และนายกฯ อังกฤษจะนำข้อตกลงดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ ในวันเสาร์นี้ ด้านประเด็นนโยบายการเงินนั้น สัญญาเฟดฟิวเจอร์ยังคงให้น้ำหนักสูงถึง 85% ว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 29-30 ต.ค. นี้ ซึ่งน่าจะเป็นสิ่งที่ช่วยจำกัดความเสี่ยงทางลงของตลาดหุ้นไว้... ด้านปัจจัยที่ต้องติดตามในสัปดาห์หน้า (21-25 ต.ค.) ได้แก่ i) การรายงานตัวเลขส่งออก/นำเข้าของไทย เดือน ก.ย. ในวันที่ 22 ต.ค. (กำหนดการเบื้องต้น) และ ii) การประชุม ธ.กลางยุโรปในวันที่ 24 ต.ค.
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน (สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
เก็งกำไร AMA, EPCO, GFPT
AMA (เป้าพื้นฐาน 8.1 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 6.6 บาท / แนวต้าน 6.85 บาท และถัดไป 7.25 บาท (Stop loss 6.35 บาท) 2) ฝ่ายวิจัยฯออกบทวิเคราะห์ Initiate Coverage หุ้น AMA (โครงการจัดทำบทวิเคราะห์สำหรับผู้ลงทุน) โดยประเมินกำไรจะโตบวก YoY ต่อเนื่องอีก 2 ไตรมาสติด (คาด 3Q62 กำไรโต +133% YoY) จากการเพิ่มจำนวนรถบรรทุกน้ำมันอีก 31 คันในปีนี้ (Capacity +21% YoY จาก 150 คันปีก่อน) รวมทั้งการขยายสาขาปั๊มน้ำมันของ PTG* อย่างต่อเนื่องเป็นบวกต่ออัตราการใช้รถบรรทุกน้ำมัน 3) ประเมิน PE ปีนี้ยังถูกเพียง 16.5 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มขนส่งฯที่ 24 เท่า
EPCO (เป้าพื้นฐาน 5.3 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 3.76 บาท / แนวต้าน 3.86 บาท และถัดไป 4.1 บาท (Stop loss 3.65 บาท) 2) ฝ่ายวิจัยฯออกบทวิเคราะห์ Initiate Coverage หุ้น EPCO (โครงการจัดทำบทวิเคราะห์สำหรับผู้ลงทุน) โดยประเมิน i) Valuation โรงไฟฟ้าในมือ 211MW (ตามสัดส่วนการถือหุ้น) ยังไม่สะท้อนใน Valuation (ประเมินแบบอนุรักษ์นิยม เฉพาะส่วนธุรกิจนี้ได้ 4.57 บาท/หุ้น) ii) เครื่องจักรผลิตกล่องลูกฟูก เริ่มเดินเครื่องใน 4Q62 รองรับดีมานด์ ตามการเติบโตของการขนส่งและธุรกิจค้าออนไลน์ 3) ลุ้นปันผลพิเศษจากการขายหุ้นโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มเวียดนามใน 4Q62 นี้ คาดปันผลรวมปีนี้ +10%, ปีหน้าปันผลปกติ +6.5%
GFPT* (เป้าพื้นฐาน 19.5 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 15.9 บาท และถัดไป 15.6 บาท / แนวต้าน 16.6 - 17.1 บาท (Stop loss 15.5 บาท) 2) เราประเมินราคาหุ้นที่ปรับลงแรงวานนี้มาจากความกังวลประเด็นข่าวโรงงานที่ จ. สมุทรปราการเกิดเหตุไฟไหม้ (ห้องเครื่องใกล้เคียงกับโรงงานแปรรูปปรุงสุก) ซึ่งฝ่ายวิจัยฯประเมินผลกระทบจากเหตุการณ์นี้จำกัด และจะกลับมาดำเนินการตามปกติได้ภายใน 3 - 4 สัปดาห์ (คาดกระทบต่อปริมาณขายใน 4Q62 เพียง 3%) ขณะที่มีประกันคุ้มครองความเสียหาย 3) คาดกำไรจากการการดำเนินงาน 3Q62 โต +24.2% QoQ ตามปัจจัยฤดูกาล และดีมานด์เนื้อไก่ส่งออกยังสูงต่อเนื่องถึงปีหน้า เนื่องจากโรคระบาดหมูยังไม่มีวัคซีนป้องกัน ... อ่านเพิ่มเติมในบทวิเคราะห์วันนี้
หุ้นเชิงปริมาณ & พื้นฐาน "Quantamental"
หุ้นเด่นเดือน ต.ค.2562: เลือก DELTA (Stop loss 47.5 บาท), JASIF (Stop loss 10.1 บาท)
กลยุทธ์ Pair trade: แนะนำ "ล๊อกกำไร" กลยุทธ์ Long KBANK* + Short BBL* (กำไร +4.4%) / แนะนำคงสถานะกลยุทธ์ Long MTC* / Short SAWAD* (ขาดทุน -1%) ... แนะนำปิดสถานะตัดขาดทุน หากผลตอบแทนรวมของกลยุทธ์ขาดทุนเกิน -5%
หุ้นมีข่าว
(+) AOT* ออกประกาศเชิญชวนให้เอกชนเข้าร่วมประมูลงาน ประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร (duty free) สนามบินดอนเมืองเป็นเวลา 10 ปี 6 เดือน (1 ต.ค.2565 - 31 มี.ค.2576) (บางกอกโพสต์) เรามองข่าวดังกล่าวเป็นพัฒนาการเชิงบวกต่อ AOT จากการออก TOR แล้วเมื่อวานนี้ เราชอบนโยบายของบริษํทที่จะผลักดันการเติบโตรายได้ที่มาจากส่วนของธุรกิจที่ไม่ใช่สายการบิน (non-aero revenue) เนื่องจากมีความแข็งแกร่งและเสถียรกว่ารายได้ที่มาจากส่วนที่เกี่ยวเนื่องกับการบิน (aero revenue) ปัจจุบัน King Power จ่ายผลตอบแทนจากการใช้พื้นที่ duty free ที่ดอนเมืองปีละ 756 ล้านบาท โดยสัญญาสัมปทานดังกล่าวมีระยะเวลา 10 ปี เรายังแนะนำซื้อ AOT โดยยังคงราคาเป้าหมายไว้ที่ 86.00 บาท
(- BGRIM*, MINT*, PTT*, CPALL*) บจ.อ่วมหุ้นกู้ 'ชั่วนิรันดร์' บันทึกเป็นหนี้ดัน 'ดีอี' พุ่ง (กรุงเทพธุรกิจ) "พีดับบลิวซี" ชี้ผู้ออกหุ้นกู้ด้อยสิทธิคล้ายทุนใหม่ "4 ราย" ส่อแววสะดุด หลังมาตรฐานการบัญชีใหม่ TAS 32 จ่อปรับวิธีบันทึกบัญชี ให้หุ้นกู้ชนิดนี้เป็น "หนี้สิน" จากเดิมที่เป็นตราสารทุนฉุดแบงก์ไม่กล้าการันตี-เปลี่ยนเงื่อนไข พร้อมกระทบผู้ออกรายเก่า 8 รายกระอัก เหตุ "หนี้สินต่อทุน" ส่อพุ่งพรวด เผยอาจกระทบต่อเครดิตเรทติ้งด้วย เร่งชงสภาวิชาชีพบัญชีออกมาตรการผ่อนปรน 3 ปี
(- กลุ่มอสังหาฯ) คอนโดฯในเมืองวิกฤติชี้กำลังซื้อตกหนักมาก (เดลินิวส์) นายวิชัย วิรัตกพันธ์ รักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า มีความเป็นห่วงถึงสถานการณ์คอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ที่ เหลือค้างสต๊อกจำนวนมาก ในสิ้นปีนี้น่าจะมียอดค้างสต๊อกสูงถึง 63,683 หน่วย และปีหน้าเหลือที่ 63,733 หน่วย สูงกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลังในรอบ 5 ปี โดยปัจจัยมาจากเศรษฐกิจชะลอตัว ทำให้ประชาชนกังวลการเป็นหนี้ระยะยาว รวมถึงมาตรการคุมเข้มสินเชื่อของทางการ และมีผู้ซื้อเพื่อการเก็งกำไรหรือต้องการบ้านหลังที่ 2 ที่มีประมาณ 20-30% ลดลง
(+) SGP* ทุ่ม 7.9 พันล้าน ลุยธุรกิจนำเข้าแอลเอ็นจี (กรุงเทพธุรกิจ) SGP* เดินหน้าธุรกิจนำเข้าก๊าซแอลเอ็นจี เตรียมทุ่มอีก 7.9 พันล้านบาท สร้างคลังเก็บ ที่เกาะสีชัง-บางปะกง คาดสร้างเสร็จและเริ่มนำเข้าปี 66 หนุนรายได้รวมแตะ 8 หมื่นล้านบาท
(+) MBK* ชี้จีนคัมแบ็กบรรยากาศท่องเที่ยวดีเปิดแผนชิงเม็ดเงิน (ทันหุ้น) MBK* ลั่นจีนกลับมาแล้วดันบรรยากาศท่องเที่ยวดีขึ้น เปิดกลยุทธ์ดิจิทัล มาร์เก็ตติ้ง "วีแชท" ดึงใช้บริการ พร้อมรุกขยายตลาดนักท่องเที่ยวจีน-อินเดีย-ยูเออี ต่อเนื่อง
(+) THCOM ผนึกต่างชาติ ลุยทำดาวเทียมใหม่ รับเปิดเสรีต้นปีหน้า (กรุงเทพธุรกิจ) "ไทยคม" พร้อมรับมือดาวเทียมหมดสัญญาสัมปทาน ทั้งการทำ"พีพีพี" และ "การใช้ดาวเทียมต่างชาติ" หลังกฏหมายเปิดเสรีต้นปีหน้า คาดจับมือพันธมิตรต่างชาติไม่เกินกลางปี 2563 พร้อมเดินหน้าให้บริการใหม่ ยันคลื่น 3600 เมกะเฮิรตช์ มีลูกค้าใช้งาน 10 ล้าน ครัวเรือน หาก กสทช.เรียกคลื่นคืนนำคลื่น ไปใช้ 5จี ต้องจ่ายเงินเยียวยา
หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
ADVANC* (เป้าพื้นฐาน 265 บาท) ประเมินแนวรับ 228 บาท / แนวต้าน 238 - 244 บาท (Trailing stop 228 บาท)
SEAFCO (เป้าพื้นฐาน 11.7 บาท) ประเมินแนวรับ 7.2 บาท / แนวต้าน 7.4 บาท (Stop loss 7 บาท)
AOT* (เป้า Consensus 79 บาท) ประเมินแนวรับ 75.5 บาท / แนวต้าน 77 บาท หากผ่านได้แนะนำ "Let profit run" (Trailing stop 75 บาท)
DELTA* (เป้าพื้นฐาน 57 บาท) ประเมินแนวรับ 51 บาท / แนวต้าน 54 บาท (Trailing stop 51 บาท)
ERW* (เป้าพื้นฐาน 6.3 บาท) ประเมินแนวรับ 5.6 บาท / แนวต้าน 6.0 - 6.2 บาท (Stop loss 5.55 บาท)
ALL (ยังไม่มีเป้าหมายใน Consensus) แนะนำ "Let profit run" (Trailing stop 4.36 บาท)
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
กลุ่มอาหาร น้ำหนักลงทุน "มากกว่าตลาดฯ" ราคาหมูในประเทศที่ปรับตัวลง -20.5% ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ทำให้คาดว่า Downside เริ่มจำกัดแล้ว ขณะที่ดีมานด์เนื้อไก่สำหรับส่งอกยังสูง (ทดแทนเนื้อหมูที่ลดลง) ซึ่งฝ่ายวิจัยฯประเมินในปัจจุบันที่ยังไม่วัคซีนป้องกันโรคระบาดหมู จะทำให้ GFPT* และ TFG ยังรับประโยชน์จากประเด็นนี้
GFPT* แนะนำ "ซื้อ" เป้าพื้นฐาน 19.5 บาท ฝ่ายวิจัยฯคาดกำไรปกติ 3Q62 = 402 ล้านบาท (-5.7% YoY, +24.2% QoQ) กำไรที่ดีขึ้น QoQ มาจากอัตรากำไรที่ดีขึ้น ขณะที่การชะลอตัวลง YoY เป็นผลจากส่วนแบ่งกำไร บ.ย่อย ลดลง ประเมินราคาหุ้นที่ปรับตัวลง (คาดจากเหตุเพลิงไหม้โรงงานวานนี้) เป็นโอกาสในการซื้อ (ปรับคำแนะนำจาก "ถือ" เป็น "ซื้อ")
KTC* แนะนำ "ถือ" เป้าพื้นฐาน 46 บาท รายงานกำไร 3Q62 = 1.3 พันล้านบาท (-2% QoQ, -7% YoY) ต่ำคาด -12% และต่ำกว่า Consensus คาด -14% จาก LLP ที่เพิ่มขึ้นมาก ฝ่ายวิจัยฯปรับลดประมาณการกำไรปี 2562 - 63 ลง -7% และ -8% ตามลำดับ
อดิศักดิ์ คำมูล
66.2658.8888 ต่อ 8843