- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 15 October 2019 16:50
- Hits: 871
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ >> Speculate Global Play
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index ปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งกว่าที่เราคาดและปิดบวกถึง 18.50 จุดทะลุกรอบแนวต้าน 1,620 จุดขึ้นมาด้วยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่น 6.2 หมื่นลบ. หุ้นในกลุ่มพลังงานทั้งน้ำมันและโรงไฟฟ้าปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งนำตลาด แรงซื้อส่วนใหญ่มาจากสถาบันในประเทศสูงถึง 5.5 พันลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิบางๆ 215 ลบ. (แต่ Long Index Futures สูงถึง 1.3 หมื่นสัญญา)
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาดว่า SET Index จะยังแกว่งตัวขึ้นได้ต่อเนื่องทดสอบระดับ 1,630-1,640 จุดจากบรรยากาศการลงทุนที่ค่อนข้างสดใสหลังสหรัฐฯ-จีนบรรลุข้อตกลงได้บางส่วนในการเจรจาการค้าสัปดาห์ก่อน อย่างไรก็ตามจีนต้องการเจรจาเพิ่มเติมปลายเดือนนี้และสรุปรายละเอียดก่อนที่จะลงนาม ทำให้ยังคงมีความไม่แน่นอนอยู่บ้าง แต่เราเชื่อว่าหุ้นในกลุ่ม Global Play จะยังมีแรงเก็งกำไรเข้ามาหนุนและนำตลาดซึ่งพอที่จะเก็งกำไรได้ ส่วนบ้านเราเริ่มเข้าสู่ช่วงการประกาศผลการดำเนินงาน 3Q19 เริ่มที่กลุ่มธนาคารซึ่งโดยภาพรวมไม่มีอะไรโดดเด่น จึงยังต้องเลือก Selective Buy รายตัว
กลยุทธ์ : เก็งกำไรกลุ่ม Global Play และหุ้นที่คาด//Selective Buy หุ้นที่คาดมีกำไร 3Q19 แข็งแกร่ง
หุ้นเด่นเดือน ต.ค. : ADVANC, AOT, BCH, CPALL, ORI
หุ้นเด่นวันนี้: TISCO
- แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมายปี 2020 ที่ 116 บาท
- กำไร 3Q19 ใกล้เคียงคาด 1.88 พันลบ. +4.4% Q-Q, +3.5% Y-Y สิ่งที่ดีกว่าคาดคือรายได้ค่าธรรมเนียม (จากนายหน้าประกันภัย ธุรกิจบล. และบลจ.)
- ขณะที่คุณภาพหนี้ดีขึ้นมากทำให้ NPL ratio ลดลงอย่างมีนัยเหลือ 2.77% จาก 3.19% ใน 2Q19 ส่วน Coverage ratio แข็งแกร่งมาก 169%
- เรายังคงคาดกำไรปี 2019-20 โตสม่ำเสมอ 5-6% ต่อปี หนุนการจ่ายปันผลสูงได้ต่อไปโดยคาดจ่ายหุ้นละ 7 บาทสำหรับปีนี้ (จ่ายปีละครั้ง) Yield สูงถึง 7%
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาค US$561ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลเข้าไต้หวัน US$542ล้าน ขณะที่ไหลออกจากอินโดนีเซีย US$27ล้าน ส่วนตลาดไทยในวันศุกร์ก่อนปิดทำการมีเม็ดเงินไหลเข้า US$7ล้านเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับตลาดภูมิภาค แนวโน้มของกระแสเงินทุนมีทิศทางชะลอการไหลเข้าหลังจีนระบุว่าต้องการคุยกับสหรัฐเพิ่มเติมก่อนที่จีนจะเซ็นข้อตกลง
ประเด็นสำคัญวันนี้
(+) สหรัฐ-จีนพักรบชั่วคราว ปธน.ทรัมป์ไม่ขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจีน US$2.5 แสนล้าน อีก 5% ที่มีกำหนดเก็บเพิ่มวันที่ 15 ต.ค.นี้ โดยจะยังเก็บ 25% เท่าเดิม หลังการเจรจาสัปดาห์ที่ผ่านมาได้ข้อตกลงในเฟสแรก แต่นักลงทุนดีใจไม่สุดเพราะจีนยังไม่เซ็นสัญญาแต่ต้องการเจรจาอีกครั้งปลายเดือนนี้ ขณะที่ตัวเลขส่งออกของจีนเดือน ก.ย. ออกมาแย่กว่าตลาดคาด และทรัมป์ไม่ได้พูดถึงภาษีที่จะเก็บในเดือน ธ.ค.นี้ แต่หุ้น Global plays (พลังงาน ปิโตรเคมี อิเล็กทรอนิคส์) น่าจะขยับขึ้นได้ (ในกรอบจำกัด) จากพัฒนาการการค้าที่ดีขึ้น
(+) ท่องเที่ยว ครม.เศรษฐกิจอนุมัติ 16 มาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวเน้นดึงต่างชาติเข้าไทย เพื่อให้จำนักท่องเที่ยวได้ตามเป้า 39.8 ล้านคนในปีนี้ เป็นบวกต่อ AOT, ERW, MINT, CENTEL, กลุ่มอาหาร, ค้าปลีก หลังเกิดการจับจ่ายใช้สอย
(+) รับเหมา โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาเปิดซองราคาเมื่อวันศุกร์ปรากฏว่ากลุ่ม BBS (BA, BTS, STEC) ให้ราคาสูงกว่ากลุ่ม Grand Consortium (PF, CNT, AAV, GMR Airport อินเดีย) โดยจะแจ้งผลทางการ 21 ต.ค. นี้
(+) TMB-T1 เริ่มเทรดวันนี้ ถึง 24 ต.ค. และจะขึ้นเครื่องหมาย SP วันที่ 25 ต.ค. 2019 โดยมีอัตราการใช้สิทธิ 1 TMB-T1 ซื้อหุ้นเพิ่มทุน TMB ได้ 1 หุ้น ในราคาหุ้นละ 1.40 บาท แจ้งความจำนงใช้สิทธิ 8-22 พ.ย. 2019 นอกจากนี้ TMB เตรียมจ่ายปันผลพิเศษให้ผู้ถือหุ้นเดิมและผู้ใช้สิทธิเพิ่มทุนราว 0.03 บาท/หุ้น (Yield 2%) เราแนะนำให้สิทธิเพิ่มทุน
(+) TRUE กำไรสุทธิ 3Q19 คาดโตแรงจากกำไรพิเศษขายสินทรัพย์เข้า DIF ราว 7 พันลบ. ส่วนกำไรปกติคาด 426 ลบ. +8% Q-Q, +11% Y-Y โดตามรายได้ที่โตต่อเนื่อง ระยะหลัง TRUE ไม่ได้เน้นเพิ่ม market share แต่ให้ความสำคัญกับการทำกำไรมากกว่าซึ่งดีต่อตัวบริษัทและอุตสาหกรรม เรายังคงคาดกำไรปกติปี 2019-20 ที่ 2.52 พันลบ. จากขาดทุนในปี 2018 และ 4.73 ลบ. +88% Y-Y ตามลำดับ (อาจมี downside เล็กน้อย) คงราคาเป้าหมายปีหน้า 7 บาท แนะนำซื้อ
ประธานกรรมการของบริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการของบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
(-) ตลาดดาวโจนส์ ลดลง 29.23 จุด ปิดที่ 26,787.36 จุด เนื่องจากนักลงทุนกังวลเกี่ยวกับการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังมีรายงานว่าจีนต้องการเจรจาเพิ่มก่อนจะลงนามในข้อตกลงขั้นแรกกับสหรัฐ
(-) ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ กดดันจากความกังวลเกี่ยวกับการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน และความไม่แน่นอนในการทำข้อตกลงถอนตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit)
(+) ตลาดเอเชียปรับขึ้น ท่ามกลางนักลงทุนจับตาสถานการณ์การค้าระหว่างสหรัฐและจีน
(0) ค่าเงินบาทแกว่งตัวในกรอบแคบ ล่าสุดอยู่ที่บริเวณ 30.39 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ลดลง 1.11 ดอลลาร์ ปิดที่ 53.59 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ปรับลดตัวเลขคาดการณ์ความต้องการน้ำมันในตลาดโลกในปีนี้และปีหน้า จากแนวโน้มภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว
(+) ราคาทองคำ COMEX เพิ่มขึ้น 8.9 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,497.6 ดอลลาร์/ออนซ์ ฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความไม่แน่นอนของการค้าระหว่างสหรัฐและจีน
SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 921.70 / +-
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
15 ต.ค. - ยูโรโซน: ZEW Survey Expectations (ต.ค.)
16 ต.ค. - ยูโรโซน: เงินเฟ้อ (ก.ย.)
- สหรัฐ: Fed Beige Book
17-21 ต.ค. - ไทย: กลุ่มธนาคารรายงานผลประกอบการ 3Q19
17 ต.ค. - ไทย: เปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ พิจารณางบรายจ่ายปี 2020
18 ต.ค. - ไทย: ยอดขายรถ (ก.ย.)
- จีน: 3Q19 GDP
Contact person : Jitra Amornthum Register : 014530
Contact person : Veeravat Virochpoka Register : 047077
www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research