WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

CSGDaily Strategy : บล.คันทรี่ กรุ๊ป
Daily View
คาด SET INDEX แกว่งไร้ทิศทางกรอบ 1608 - 1622 แม้เมื่อคืนที่ผ่านมาดัชนี Dow Jones จะปรับตัวขึ้นได้ 0.7% หลังสำนักข่าว Bloomberg รายงานว่าจีนพร้อมที่จะหารือเกี่ยวกับข้อตกลงการค้าบางส่วนกับสหรัฐตราบใดที่สหรัฐยังไม่ได้เพิ่มการเก็บภา ษีต่อจีนรวมถึงแผนการเพิ่มขึ้นอัตราภาษีนำเข้าจากจีนที่มีกำหนดในเดือน ต.ค. และ ธ.ค. พร้อมเสนอว่าจะซื้อสินค้าเกษตรจากสหรัฐเป็นการตอบแทน อย่างไรก็ตามเช้านี้ ตามเวลาประเทศไทยปรากฎว่าสำนักข่าว CNBC อ้างอิงรายงานจากหนังสือพิมพ์ South China morning post ว่าการเจรจาระดับรองนายกรัฐมนตรีในสุดสัปดาห์นี้ยัง ไม่น่าจะมีความคืบหน้าใดๆ ส่งผลให้ Dow Jones future เช้านี้ปรับตัวลงราว 80 จุด (อิงข้อมูล ณ เวลา 7.20 ตามเวลาประเทศไทย) ทั้งนี้เรายังคงแนะนักลงทุนติด ตามผลการเจรจาที่จะเป็นตัวตัดสินในวันที่ 10-11 ต.ค. นี้ตามเดิมและยังเชื่อว่าก่อน ถึงการเจรจาตลาดจะยังผันผวนไปตามกระแสข่าวตามที่เราเคยกล่าวไว้ สำหรับปัจจัยในประเทศวันนี้จะเป็นวันแรกที่ AWC เข้ามาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ด้วยราคา IPO ที่ 6 บาท และคิดเป็นมูลค่าตลาดราว 1.92 แสนล้านบาท ขณะที่หากอิงกำไรสุทธิปี 18 ที่ 489 ล้านบาท และจำนวนหุ้นหลัง IPO ที่ 3.2 หมื่นล้านหุ้นบริษัท จะมีค่า PE ระดับ 400x ถือว่าเป็นระดับที่ค่อนข้างสูงมากหากเทียบเคียงกับกลุ่มใกล้ เคียงที่ประกอบธุรกิจคล้ายบริษัทอย่าง โรงแรม หรือ ศูนย์การค้า ซึ่งจะซื้อขายกันระ ดับเฉลี่ยเพียง 30-35x เท่านั้น สำหรับการเข้าคำนวณในดัชนี SET 50 , SET 100 นั้น บริษัทจะถือเป็นกรณีพิเศษที่สามารถเข้าได้ทันทีเนื่องจากมูลค่าตลาดของบริษัทที่ 1.9 แสนล้านบาทนั้นคิดเป็นราว 1.2% ของมูลค่าตลาด SET INDEX โดยตามกฎของตลาดหลักทรัพย์ฯแล้วสามารถเข้าคำนวนในดัชนี SET 50 , SET 100 ได้โดยไม่ต้องรอ รอบการปรับทุกๆ 6 เดือน โดยการนำบริษัทเข้ามาคำนวณใน SET 50 , SET 100 นั้น จะนับ 3 วันทำการหรือกล่าวโดยสรุปในวันที่ 15 ต.ค. บริษัทก็จะถูกเข้ามาอยู่ใน SET 50 , SET 100 ทันที เบื้องต้นคาดการณ์ว่าสำหรับ SET 50 ตัวที่เสี่ยงหลุดคือ BPP KKP ส่วน SET 100 คือ BEAUTY
Daily Strategy
ในเชิงกลยุทธ์การลงทุนเรายังคงมุมมองเชิงบวกมากกว่าต่อหุ้นที่อิงรายได้ในประเทศอาทิ ค้าปลีก (BJC CPALL) สื่อสาร (ADVANC INTUCH) โรงพยาบาล (CHG BCH) โรงไฟฟ้าและน้ำประปา (BGRIM EGCO RATCH TTW) รวมถึง 3Q19
RATCH (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 81.5 บาท) เรามองเห็นศักยภาพในการเติบโตของบริษัทในอนาคต โดยคาดการณ์กำไรในปีนี้จะเติบโต 19%YoYและเติบโตเฉลี่ยต่อเนื่อง 14% CAGR ใน 3 ปีข้างหน้า (19-21E) ตามกำลังการผลิตไฟฟ้าที่จะเพิ่มขึ้นจาก 13% หนุนจาก 7 โรงไฟฟ้าใหม่ ซึ่งจะทำให้บริษัทมีกำลังผลิตไฟฟ้ารวม 884MWe (5 ประเทศ) นอกจากนี้ยังมีมูลค่าเพิ่ม 2.7 บาท / หุ้น จากโรงไฟฟ้าใหม่ขนาด 1,400 MW ที่ได้จากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตโดยไม่ผ่านการประมูลพร้อมให้บริการเชิงพาณิชย์ในปี 24 (บนสมมติฐานถือหุ้น 51%)
PLANB (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 9.3 บาท) บริษัทได้เข้าลงนามในสัญญาบริหารจัดการสื่อโฆษณาในร้านสาขา 7-Eleven โดยจะใช้งบลงทุน 1.5 พันล้านบาท ในปี 2020 ในการติดตั้งป้ายโฆษณาดิจิตอลใน 2000 สาขาแรก โดยถ้าผลตอบรับดีจะมีการขยายเพิ่มในปี 2021-22 อีกกว่า 3000 สาขาทั่วประเทศโดยเราคาดการณ์เบื้องต้นว่าโปรเจคนี้จะเพิ่มกำไรต่อประมาณการเดิมของเรา 8-11% ในปี 20-21E
Analyst:SittidathPrasertrungruang
Registration No.17618
Technical Analyst : Dethana Fangsaard
Registration No. 039656
AssistantStrategist :Vathan Jitsomnuk

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!