KGI ประเมิน SET Index วันพฤหัสฯ ปรับลดลง... หลังเมื่อวานนี้ดัชนีฯ ผันผวนระหว่างวันมากพอควร ช่วงเช้าลงไปใกล้ระดับสำคัญทางจิตวิทยาที่ 1,600 จุด ก่อนรีบาวด์ในช่วงบ่ายตามรายงานข่าวจากจีนที่ว่าจีนพร้อมทำข้อตกลงการค้าบางส่วน (partial deal) กับสหรัฐฯ... อย่างไรก็ดีข่าวเช้านี้พลิกมาเป็นลบอีกครั้ง หลังจากสำนักข่าว South China Morning Post (SCMP) รายงานว่าการเจรจาระดับเจ้าหน้าที่ช่วง 2 วันที่ผ่านมาไม่มีความคืบหน้า และหัวหน้าเจรจาของจีนจะเจรจากับสหรัฐฯ เพียงวันเดียว (คือวันนี้) เทียบกับกำหนดการเดิมว่าการเจรจาในระดับรัฐมนตรีจะมี 2 วันคือวันนี้และพรุ่งนี้... ข่าวดังกล่าวส่งผลให้ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ร่วงแรงเช้าวันนี้ และน่าจะส่งผลลบต่อหุ้นที่เชื่อมโยงกับเศรษฐกิจโลกและวงจรสินค้าโภคภัณฑ์ ขณะที่สัญญาเฟดฟันด์ฟิวเจอร์ล่าสุดให้น้ำหนักถึง 94% ว่า ธ.กลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 30 ต.ค. นี้ อย่างไรก็ดี แม้เป็นที่แน่นอนว่าจิตวิทยาตลาดเป็นลบในวันนี้ ฝ่ายวิจัยฯ เชื่อว่าสหรัฐฯ และจีนจะบรรลุข้อตกลงบางอย่างได้ในวันสองวันข้างหน้านี้ เนื่องจากแรงกดดันจากสงครามการค้าช่วงที่ผ่านมาเริ่มส่งผลต่อเศรษฐกิจทั้งสองประเทศมากขึ้นๆ  เราจึงคงแนะนำ 'ทยอยสะสม' และมองระดับสำคัญทางจิตวิทยาและเชิง valuations ที่ 1,600 มีความน่าสนใจ

 

หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน   ( สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)

เก็งกำไร AOT*, ADVANC*

AOT* (เป้า Consensus 79 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 73.5 บาท / แนวต้าน 75 - 77 บาท (Stop loss 72.5 บาท) 2) จำนวน Passenger ของสนามบินเดือน ก.ค. - ส.ค. เริ่มเห็นภาพการกลับมาเติบโตแบบ YoY (2 เดือนรวมโต +1.79% YoY ขณะที่เดือน ส.ค.โต 3.82% YoY) หลังจากที่ชะลอตัวลงในไตรมาสก่อนหน้า (เม.ย.-มิ.ย. ลดลง -0.11% YoY) 3) คาดว่าจำนวน Passenger เดือน ก.ย.จะยังเติบโตต่อเนื่องได้ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติ (ผลจากฐานต่ำปีก่อน) ขณะที่นักท่องเที่ยวในประเทศที่ยังชะลอตัวในเดือน ก.ค.-ส.ค. (-3.15% YoY) คาดว่าจะเริ่มฟื้นตัวหลังมาตรการภาครัฐฯเริ่มมีผลในเดือน ต.ค. และลุ้นมาตรการท่องเที่ยวเพิ่มเติมเร็วๆนี้

ADVANC* (เป้าพื้นฐาน 265 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 226 บาท / แนวต้าน 230 - 233 บาท (Trailing stop 220 บาท) 2) ฝ่ายวิจัยฯประเมินกำไร 3Q62 โตเด่น 36% YoY และ 19% QoQ ... อ่านรายละเอียดเพิ่มในบทวิเคราะห์วันที่ 26 ก.ย. 3) คาดปันผล 2H62 หุ้นละ 3.78 บาท (+1.66%) และปีหน้า 8.44 บาท (+3.7%)

 

หุ้นเชิงปริมาณ & พื้นฐาน "Quantamental"

หุ้นเด่นเดือน ต.ค.2562: เลือก DELTA (Stop loss 47.5 บาท), JASIF (Stop loss 10.2 บาท)

กลยุทธ์ Pair trade: แนะนำคงสถานะ i) Long KBANK* + Short BBL* (ขาดทุน -1.1%), ii) และแนะนำ Long MTC* / Short SAWAD* (กำไร +1.7%) ... แนะนำปิดสถานะตัดขาดทุน หากผลตอบแทนรวมของกลยุทธ์ขาดทุนเกิน -5%

 

หุ้นมีข่าว

(+) ช้าง AWC ออกศึกวันนี้ ล้มยาก! มีกรีนชูหนุน จับตา KKP* จ่อหลุดคำนวณดัชนี SET50 (ข่าวหุ้น) AWC ดีเดย์เข้าเทรดใน SET วันนี้ คาดราคาวิ่งเหนือจองไอพีโอ 6 บาท หลังมีกรีนชู 1,043 ล้านหุ้นคอยหนุนราคาไม่หลุดจอง โบรกฯ ชี้ราคาเหมาะสม 6.39-6.68 บาท/หุ้น หลังเล็งนำเงินระดมทุนไปลงทุนซื้อกิจการเพิ่มเติม 12 แห่ง และชำระคืนเงินกู้ธนาคารและพัฒนาทรัพย์สิน พร้อมเข้าคำนวณในดัชนี SET50 ฟาก KKP* จ่อหลุดดัชนี SET50

(+) GRAND-BTS* ผ่านซอง 2 เมืองการบิน (ข่าวหุ้น) กลุ่ม GRAND-AAV*-CNT และ กลุ่ม BTS*-BA-STEC* ลอยลำผ่านข้อเสนอเทคนิคโครงการเมืองการบินภาคตะวันออก 2.9 แสนล้านบาท กรรมการคัดเลือกเตรียมเปิดข้อเสนอการเงินต่อ มั่นใจสรุปผลแพ้-ชนะ พ.ย.นี้ และเซ็นสัญญา ม.ค. 63

(+) ชิมช้อปใช้เฟส 2 ขยับลงทะเบียน เริ่มช่วงกลางวัน (ไทยโพสต์) "คลัง" เคาะมาตรการชิมช้อปใช้ เฟส 2 เดือน ต.ค.นี้ เล็งเปิดให้ ปชช.ใช้สิทธิ์อีก 5 ล้านราย ลุ้นรับแคชแบ็กคืนมากกว่า 15% พร้อมขยับเวลาลงทะเบียนเป็นช่วงกลางวัน ปลื้มยอดเฟสแรก 12 วัน ใช้จ่ายคึกคัก 4.29 พันล้านบาท

(+) ผุดโรงไฟฟ้าชุมชน 250 แห่ง (ไทยโพสต์) นำร่องชาวบ้านถือหุ้น 30% สั่งพพ.สรุปภายใน 1 เดือน "สนธิรัตน์" ลั่นโรงไฟฟ้าชุมชนเกิดแน่ 250 แห่ง หน่วยงานร่วมเสนอให้ชุมชนถือหุ้น 10-30% ปันผลเงินคืน 25 สตางค์/หน่วย โดย พพ.ดูรายละเอียด 1 เดือนสรุป

(-) อสังหาฯงัดกลยุทธ์ราคา เร่ง 'ระบายสต็อก' คงค้าง (กรุงเทพธุรกิจ) กดราคาคอนโด-บ้าน ไตรมาส 3 โตต่ำ ประเมิน ปลายปี สงครามราคาเดือด ศูนย์ข้อมูลอสังหาฯ เผยดัชนีราคาที่อยู่อาศัยไตรมาส 3 เติบโต ชะลอตามภาวะตลาด ขณะนายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร ชี้แอลทีวีฉุดราคาบ้าน ระบุไตรมาส 4 ส่อเกิดสงครามราคา เร่งระบายสต็อก "พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค" ฟันธงปลายปี อสังหาฯ ระดมโปรแรงสุด ขณะศูนย์วิจัยศุภาลัย ระบุ จีนหายดันสต็อกพุ่ง

 

หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า

DELTA* (เป้าพื้นฐาน 57 บาท) ประเมินแนวรับ 50 บาท / แนวต้าน 54 บาท (Stop loss 47.5 บาท)

WHAUP* (เป้าพื้นฐาน 9.4 บาท) ประเมินแนวรับ 6.7 บาท / แนวต้าน 6.95 บาท (Trailing stop 6.45 บาท)

BJC* (เป้า Consensus 56 บาท) ประเมินแนวรับ 51 บาท / แนวต้าน 54 บาท (Stop loss 51 บาท)

ALL (ยังไม่มีเป้าหมายใน Consensus) ประเมินแนวรับ 4.2 บาท / แนวต้าน 4.3 บาท หากผ่านแนวต้านได้ แนะนำ "Let profit run" (Trailing stop 4.2 บาท)

 

Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้

HMPRO* แนะนำ "ถือ" เป้าพื้นฐาน 17.5 บาท ฝ่ายวิจัยฯ คาดกำไรสุทธิ 3Q62 = 1.48 พันล้านบาท (+8% YoY, -3% QoQ)  โดยประเมินอัตราการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ติดลบ -2% ซึ่งสะท้อนไปในราคาหุ้นที่ปรับลงมาในช่วงที่ผ่านมาแล้ว ทั้งนี้ฝ่ายวิจัยฯคงคำแนะนำเพียง "ถือ" แต่ประเมินราคาหุ้นที่ลดลงเป็นโอกาสสำหรับการเก็งกำไรสั้น ลุ้นการฟื้นตัวใน 4Q62 ที่เป็น High season และผลจากมาตรการกระตุ้นภาครัฐฯ

GLOBAL* แนะนำ "ถือ" เป้าพื้นฐาน 16.3 บาท ฝ่ายวิจัยฯคาดกำไรสุทธิ 3Q62 = 337 ล้านบาท (-24% YoY, -35% QoQ) โดยประเมินอัตราการเติบโตของยอดขายสาขาเดิมลดลง -3% รวมทั้งอัตรากำไรที่ลดลงจากการลดลงของราคาเหล็กในตลาดฯ ทั้งนี้ทั้งนี้ฝ่ายวิจัยฯคงคำแนะนำเพียง "ถือ" แต่ประเมินราคาหุ้นได้ปรับลงสะท้อนประเด็นดังกล่าวไปพอควรแล้ว ประเมินราคาหุ้นที่ลดลงเป็นโอกาสการเก็งกำไรสั้นลุ้นการฟื้นตัวใน 4Q62 (ดีมานด์จากการซ่อมแซมบ้านหลังน้ำท่วม)

KBANK* แนะนำ "ซื้อ" เป้าพื้นฐาน 213 บาท จากกประชุมนักวิเคราะห์ประเด็นเรื่อง TFRS9 มุมมองเป็นลบเล็กน้อย โดยฝ่ายวิจัยฯประเมิน มีปัจจัยเสี่ยงหลายเรื่อง เช่น การขยายตัวของ GDP ต่ำ, NPL ใหม่ๆที่อาจเกิดขึ้นจากเศรษฐกิจชะลอตัว, NIM ที่อาจกระทบจากการลดดอกเบี้ยนโยบาย, ผลของมาตรฐาน TFRS9, รายได้ค่าธรรมเนียมลดลง อย่างไรก็ดีฝ่ายวิจัยฯยังคงประเมินว่าสำรองส่วนเกินที่มีอยู่มากพอที่จะรักษาระดับคุณภาพสินทรัพย์ และด้วย Valuation ที่ถูก จึงคงคำแนะนำ "ซื้อ"

 

Strategic SET daily

Market strategy      Thailand 

 

จิตวิทยาตลาดวันนี้:  --- ค่าเฉลี่ยเก้าวันที่ต้าน 1619 จุด

 

วันนี้ หากดัชนี SET ดีดขึ้นปิดเหนือนัยต้าน 1619 จุดนั้น อาจผลักราคาขึ้นในกรอบ 1619-1639 จุด แต่หากวันนี้ ดัชนี SET ลดลงหรือปิดต่ำกว่านัยต้าน 1619  จุดนั้น อาจทรงราคาในกรอบ 1619-1604 จุด

 

แนวรับวันนี้:          1612/1605                                           แนวต้านวันนี้:          1619/1634

 

หมายเหตุ: (1) ระยะสั้นคือ 1-5 วันทำการ; (2) ระยะกลาง คือ 14-30 วันทำการ; (3) ระยะยาวคือมากกว่า 30 วันทำการ

 

1 อดิศักดิ์ คำมูล

2 66.2658.8888 ต่อ 8843

3 [email protected]