- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 08 October 2019 13:10
- Hits: 1744
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
“รอผลเจรจาการค้า”
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : --
ภาวะตลาดวันก่อน : SET วานนี้ปรับขึ้น 7.75 จุด (+0.48%) ปิดตลาดที่ 1613.71 โดยมีแรงซื้อในหุ้นแบงค์ใหญ่, พลังงาน (รวมถึงโรงไฟฟ้า), ท่องเที่ยวเป็นต้น สถาบันในประเทศนำซื้อสุทธิ 537 ล้านบาท ต่างชาติและพอร์ตบล.ซื้อสุทธิเล็กน้อย ส่วนรายย่อยขายสุทธิ
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด : ต่างประเทศ- ติดตามผลเจรจาการค้า ข้อมูลล่าสุดระบุว่าเจ้าหน้าที่จีนมีท่าทีไม่ต้องการทำข้อตกลงในวงกว้างตามที่ทรัมป์ต้องการ จากก่อนหน้าที่ทำเนียบขาวให้ข่าวว่าผลเจรจามีโอกาสเกิด Surprise ในทางบวก...เรามองว่าจะมีข่าวบวกสลับลบในช่วงที่ทั้งสองประเทศเจรจากัน และเชื่อว่าผลเจรจารอบนี้ก็จะยังไม่ได้ข้อยุติทั้งหมด สงครามการค้าจะยืดเยื้อ ด้านดอกเบี้ยสหรัฐ ก็ติดตามรายงานประชุมเฟด 17-18 ก.ย. ซึ่งคาดว่าจะเป็นโทนที่หนุนให้มีการลดดอกเบี้ยต่อ ส่วน Brexit เห็นว่ามีโอกาสเลื่อนเส้นตาย 31 ต.ค.นี้ออกไป
ในประเทศ – มีการทำ Preview กำไร 3Q62F ในเบื้องต้นคาดว่ากำไรตลาดหุ้นไทยจะหดตัว -7 ถึง -10%YoY เพราะกลุ่มพลังงานและปิโตรฯมีผลขาดทุนในสต๊อก, กลุ่มธนาคารมีรายได้ค่า Fee ลดลง และต้องลงทุนในระบบไอที, กลุ่มส่งออกถูกกระทบจากบาทแข็ง เป็นต้น ส่วนกลุ่มที่อิงอุปสงค์ในประเทศก็เติบโตไม่มาก อย่างไรก็ดี ระยะสั้นจะมีปัจจัยกระตุ้นกลุ่มท่องเที่ยว เพราะรัฐบาลจะออกมาตรการอีกชุด ซึ่งคาดว่าจะเป็นมาตรการกระตุ้นนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทย หลังออกมาตรการไทยเที่ยวไทยไปแล้ว รวมทั้งจะมีการเปิดประชุมสภาฯ 17 ต.ค.นี้เพื่อพิจารณาร่างกฎหมายงบประมาณปี 63 ซึ่งถ้าผ่านก็จะทำให้โครงการลงทุนภาครัฐเดินหน้าได้ดีขึ้น
กลยุทธ์ : ระยะสั้นมากตลาดยังผันผวนจากปัจจัยลบ/ไม่แน่นอน จึงยังคงเน้นหุ้น Defensive, หุ้นจ่ายปันผลดีและสม่ำเสมอ
Stock Pick Today : ERW ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยว (ไทยเที่ยวไทย และต่างชาติเที่ยวไทย) และกำลังเข้าสู่ High season ของการท่องเที่ยวใน 4Q62 และ 1Q63 คาดจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 4Q62 จะโตสูง YoY (ฐาน 4Q61 ต่ำจากเหตุการณ์เรือล่มภูเก็ต) ทาง ERW มีเปิดโรงแรมใหม่ใน 2H62 จำนวน 9 แห่ง (จาก 1H62 ไม่ได้เปิดเลย) ทำให้มีโรงแรมทั้งหมด 70 แห่งสิ้นปีนี้ การปรับปรุง JW Marriot เสร็จแล้ว เปิดบริการได้100% ในเดือนต.ค.62 รับฤดูกาลท่องเที่ยวได้พอดี คาดกำไรปี 63 จะโตถึง 24% แนะซื้อ ราคาพื้นฐาน 7.30 บาท
การวิเคราะห์ทางเทคนิค : ระยะสั้น สัญญาณ Candlestick & Indicators เป็นบวกเล็กๆ ให้แนวต้านช่วงนี้ไว้ที่ 1620-1630, 1640 การอ่อนตัวต่ำกว่า1610 ดูไม่ดี ควรลดพอร์ตตาม แนวรับย่อย 1600-1590, 1580 หุ้นเทคนิคเด่นที่แนะนำซื้อตามด้วยค่าบวกคือ GPSC, JWD
Thailand Research Team : reseach-th.dbs.com
Inside Story
Key Drivers TODAY : ปัจจัยต่างประเทศ / ปัจจัยในประเทศ
Company Guide : CRYSTAL (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 10.80)
Flash Note : AP (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 7.90)
New Listing : INSET
Key Drivers TODAY
ปัจจัยต่างประเทศ
• ติดตามผลการเจรจาการค้าสหรัฐกับจีน
# เจ้าหน้าที่เจรจาการค้าของจีนราว 30 คน นำโดยนายเหลียว หมิง รมช.คลังของจีน เดินทางไปสหรัฐเพื่อเจรจาการค้า ซึ่งการเจรจาระดับรัฐมนตรีจะมีในวันที่ 10-11 ต.ค.นี้ ซึ่งทั้งสองฝ่ายจะเจรจากันเกี่ยวกับการบังคับถ่ายโอนเทคโนโลยี, การละเมิดสิทธิทรัพย์สินทางปัญญา, การตั้งกำแพงการค้าที่ไม่ใช่ภาษี รวมทั้งประเด็นในด้านการเกษตรและภาคบริการ และการบังคับใช้มาตรการต่างๆตามข้อตกลง
+ สหรัฐ : จับตารายงานการประชุมเฟด 17-18 ก.ย.62
# จับตารายงานการประชุมเฟดเมื่อวันที่ 17-18 ก.ย.62 เพื่อหาสัญญาณทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ
# CME Group FedWatch ระบุว่านักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาสราว 74.3% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25%ในการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 29-30 ต.ค.นี้
+ สหรัฐ : ประธานเฟดแคนซัสซิตี้ส่งสัญญาณหนุนเฟดลดดอกเบี้ย
# นางเอสเธอร์ จอร์จ ประธานเฟด สาขาแคนซัส ซิตี้ ได้แสดงความเห็นระหว่างการกล่าวปาฐกถาในการประชุมประจำปีของสมาคมเศรษฐศาสตร์ธุรกิจซึ่งจัดขึ้นที่เมืองเดนเวอร์ว่า "หากข้อมูลเศรษฐกิจในอนาคตเริ่มส่งสัญญาณอ่อนแอลงเป็นวงกว้าง การปรับนโยบายการเงินก็อาจเป็นเรื่องที่เหมาะสม เพื่อให้เฟดบรรลุเป้าหมายการสนับสนุนการจ้างงานให้ขยายตัวอย่างยั่งยืนและอัตราเงินเฟ้อที่มีเสถียรภาพ
• ปธน.ยูเครนปฎิเสธข้อกล่าวหาถูกกดดันจากทรัมป์ให้สอบสวน"โจ ไบเดน"
# นายโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครนได้ออกปฎิเสธข้อกล่าวหาที่ว่าเขาถูกกดดันจากประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์ ของสหรัฐ ให้สอบสวนนายโจ ไบเดน คู่แข่งคนสำคัญในการเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐปี 2563 พร้อมระบุว่าเขาไม่มีอำนาจอันชอบธรรมตามรัฐธรรมนูญ
+ จีน : ยอดลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 8M62 เพิ่ม +4.2%Yoy...เน้นลงทุนปกป้องระบบนิเวศและรักษาสิ่งแวดล้อม
# สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานว่ายอดการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานในช่วง 8M62 ปรับตัวขึ้น +4.2%YoYโดยการลงทุนด้านการปกป้องระบบนิเวศและการรักษาสิ่งแวดล้อม +42.2% ส่วนการลงทุนด้านการขนส่งทางถนนและการขนส่งทางรถไฟ +7.7% และ +11% ตามลำดับ การลงทุนในภาคสังคม ซึ่งรวมถึงการลงทุนด้านการศึกษา วัฒนธรรมกีฬา และสันทนาการ +1.38%
• Brexit : มีโอกาสเลื่อนออกไป
# สื่ออังกฤษระบุว่า EU อาจตัดสินใจยืดเส้นตาย Brexit ออกไปจาก 31 ต.ค.62 เป็น 15 ม.ค.63 โดยไม่ต้องได้รับความเห็นชอบจากนายกฯอังกฤษในกรณีที่ EU และอังกฤษยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกันได้
- ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐอ่อนลง
# ดัชนี DJIA ปิดลดลง 95.70 จุด หรือ -0.36% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดลดลง 13.22 จุด หรือ -0.45% ส่วนดัชนี Nasdaqปิดลดลง 26.18 จุด หรือ -0.33% ทั้งนี้ตลาดยังกังวลกับผลเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน
# หุ้นกลุ่มน้ำมันร่วงตามราคาน้ำมัน, หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีอ่อนลง
• ราคาน้ำมันดิบอ่อนเล็กน้อย
# สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 6 เซนต์ หรือ -0.11% ปิดที่ 52.75 ดอลลาร์/บาร์เรล ด้าน BRENT ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 2 เซนต์ หรือ -0.03% ปิดที่ 58.35 ดอลลาร์/บาร์เรล
# โพลสำรวจความเห็นของนักวิเคราะห์จำนวนหนึ่งระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐจะพุ่งขึ้นกว่า 2.5 ล้านดอลลาร์ในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 4 ต.ค. ซึ่งจะเป็นการเพิ่มขึ้นติดต่อกันสัปดาห์ที่ 4
- ราคาทองคำลดลง
# สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 8.5 ดอลลาร์ หรือ -0.56% ปิดที่1,504.4 ดอลลาร์/ออนซ์ เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์แข็งขึ้น
ปัจจัยในประเทศและข่าวหลักทรัพย์
+/- Preview ผลประกอบการ 3Q62F
# ในเบื้องต้นหุ้นกลุ่มพลังงานอาจมีกำไรสุทธิ 3Q62 ต่ำกว่าคาด เพราะมีค่าใช้จ่ายในการปิดซ่อมบำรุงและขาดทุนสต๊อก
# กลุ่มธนาคารก็มีรายได้ค่า Fee ลดลง YoY และค่าใช้จ่ายดำเนินงาน (โดยเฉพาะลงทุนในระบบไอที) เพิ่มขึ้น ทาง DBSคาดกำไรสุทธิ 3Q62F ของ 8 ธนาคารที่เราวิเคราะห์ ถ้าไม่รวมกำไรจากการขาย SCBLIFE ของ SCB จะลดลง -13%YoY, -8%QoQ แต่ถ้ารวมกำไรสุทธิจะเพิ่มขึ้น +10%YoY, +16%QoQ
# กลุ่มอิเลคทรอนิกส์ ส่งออก ได้รับผลกระทบจากบาทแข็ง ทำให้รายได้และมาร์จิ้นรูปบาทลดล
# กลุ่มที่พักอาศัย ยังไม่ดีเนื่องจากการโอนรับรู้รายได้ต่ำลง ขณะที่ยอด Presales ปีนี้ก็หดตัว YoY บ่งชี้ว่าการรับรู้รายได้ในปี 63 มีโอกาสชะลอตัวลงไปได้อีก
# กลุ่มสื่อสาร ค้าปลีก และท่องเที่ยวเติบโตได้แต่ไม่มาก
# กลุ่มโรงพยาบาล ถ้าเป็นโรงพยาบาลขนาดใหญ่กำไรจะเติบโตจำกัด เพราะคนไข้ต่างชาติชะลอตัวลง โดยเฉพาะตะวันออกกลาง แต่โรงพยาบาลเล็กที่รับประกันสังคมขยายตัวได้ดี หุ้นเด่นเป็น CHG, RJH
# กลุ่มไก่ส่งออก เติบโตได้ YoY และ QoQ จากการส่งออกไปจีนได้เพิ่มขึ้น และไตรมาส 3 เป็น High season ของส่งออก หุ้น Top pick เป็น GFPT
# กลุ่มไฟแนนซ์ ขยายตัวได้ดี YoY และ QoQ จากฐานลูกค้าที่ใหญ่ขึ้น และจำนวนสาขาที่เพิ่มขึ้น หุ้นเด่น AEONTS,MTC
+ กลุ่มท่องเที่ยว : ครม.เศรษฐกิจเคาะวันประชุม 11 ต.ค. ถกมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวชุดใหญ่
# คณะรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ (ครม.เศรษฐกิจ) นัดประชุมรอบต่อไปในวันที่ 11 ต.ค.นี้ โดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จะเสนอมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวชุดใหญ่เพื่อดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทย หลังจากออก 2 มาตรการกระตุ้นคนไทยเที่ยวไทยไปแล้วเมื่อสัปดาห์ก่อน
# ความเห็น DBS : มาตราการชุดที่จะออกมาคาดว่าจะเป็นการกระตุ้นนักท่องเที่ยวต่างชาติในช่วง High season คือ4Q62-1Q63 หลังจากออกมาตรการกระตุ้นไทยเที่ยวไทยไปแล้ว กลุ่มที่คาดว่าจะได้ประโยชน์เป็นธุรกิจสนามบิน, สายการบิน, โรงแรม & อาหาร หุ้นเด่น คือ AOT (ราคาพื้นฐาน 80 บาท) และ ERW (ราคาพื้นฐาน 7.30 บาท)
+ จะเปิดประชุมสภา 17 ต.ค.เพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี 63
# เตรียมพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณพ.ศ. 2563 วงเงิน 3.2 ล้านล้านบาท ก่อนส่งให้สภาผู้แทนราษฎร โดยจะมีการเปิดสมัยประชุมวิสามัญเพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ ในวันที่ 17 ต.ค.นี้
• ปัจจัยในประเทศที่ติดตาม
1) ความคืบหน้าการเซ็นสัญญารถไฟเชื่อม 3 สนามบิน ซึ่งกลุ่มซีพีและพันธมิตรชนะการประมูล, 2) การต่ออายุสัญญาสัมปทานทางด่วน BEM (สัมปทานหมดอายุก.พ.63), 3) การเข้ามาซื้อขายของ TMB-T1 ซึ่งจะเป็นภายในเดือนต.ค.นี้ และมีระยะเวลาซื้อขายเพียง 1 สัปดาห์กว่าๆ
นักวิเคราะห์&กลยุทธ์: อาภาภรณ์ แสวงพรรค : [email protected]