WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

บล.โกลเบล็ก : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

 

Market View : ลงแรงซื้อเก็งกำไร / ซื้อระยะกลางเพิ่ม
Technical : แนวรับ : 1,401 / 1,390 แนวต้าน 1.410 / 1,427
หุ้นแนะนำพิเศษ : PTT แนวรับ 303/300 แนวต้าน 313/316
หุ้นเด่นรายวัน : APCO MBAX

  วันจันทร์ตลาดหุ้นไทยปิดบวก ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,410.63 จุด เพิ่มขึ้น 5.37 จุด เปลี่ยนแปลง +0.38% มูลค่าการซื้อขายถึง 24,431 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 544 ล้านบาท
  แนวโน้มตลาดหุ้นไทย ทางฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็กฯ คาดมีแนวโน้มผันผวนในกรอบ 1,363- 1,410 การประกาศกฏอัยการศึก ส่งผลให้มีโอกาสที่จะเกิดแรงขายระยะสั้นออกมา หากไม่มีความรุนแรง(คล้ายคลึงกับเมื่อเหตุการณ์ 19 ก.ย. 2549 ) ซึ่งเป็นจังหวะของนักลงทุนระยะกลางในการเข้าซื้อเมื่อปรับตัวลงแรง ตามลำดับแนวรับ หรือจะเข้าซื้อเก็งกำไร ในขณะที่ SET50 ระดับดัชนียืนเหนือSMAทุกเส้น(ที่เริ่มเรียงตัวในภาวะBullish)บริเวณ 951-948 เป็นสัญญาณบวก การปรับตัวลงแรงมีแนวรับ 950 / 942 เป็นแนวรับหลัก GFM14 เก็งกำไรในกรอบ 20,030-20,260 GFQ14 เก็งกำไรในกรอบ 20,100-20,330
  กลยุทธ์ สถานการณ์การเมืองยังคงเป็ฯปัจจัยหลักที่นักลงทุนจะต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ระยะสั้นหรือในระหว่างวันอาจมีแรงขายออกมา(ในลักษณะPanic) โดยเฉพาะหุ้นขนาดใหญ่ และช่วงเปิดตลาดภาคบ่าย นักลงทุนต่างชาติอาจมีการปรับลดการลงทุนเพื่อรอดูสถานการณ์ การปรับตัวลงแรงควรหาจังหวะในการเข้าซื้อหุ้นที่มีสภาพคล่องสูง กลุ่มธนาคาร KBANKลงแรงซื้อ กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง กลุ่มพลังงาน PTT PTTEP PTTGC โดยมีสมมติฐานเหตุการณ์ไม่ยืดเยื้อและคาดว่าจะได้รัฐบาลใหม่เข้ามาเพื่อแก้ไขปัญหาของประเทศ ระยะกลาง ถือ และซื้อเพิ่มเมื่อปรับตัวลงแรง แนวรับ 1391 / 1,387

 

หุ้นแนะนำพิเศษ
  PTT (ปิด 308 ซื้อเป้าปี 57: 375 ) เราคาดว่ากำไรสุทธิของ PTT ใน 2Q57 จะยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจาก 1Q57 โดยมีแรงหนุนจากปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้นของ PTTEP และ PTT โดย PTTEP จะมีปริมาณการผลิตเพิ่มขึ้นจากการเริ่มรับรู้กำลังการผลิตใหม่จากการเข้าซื้อสินทรัพย์ของ Hess Thailand ซึ่งจะทำให้ PTTEP มีปริมาณการผลิตใน 2Q57 เพิ่มขึ้นประมาณ 8,000 -10,000 BOED ส่วน PTT จะมีปริมาณการขายก๊าซธรรมชาติเพิ่มขึ้นจากความต้องการที่สูงขึ้นในช่วงหน้าร้อน ขณะเดียวกันธุรกิจโรงแยกก๊าซก็มีปริมาณการผลิตเพิ่มขึ้นหลังจากโรงแยกก๊าซ 5 ที่ทำการผลิตเพียง 50%ใน 1Q57 จะกลับมาทำการผลิตที่ระดับ 100% ส่วนทั้งปีคาดกำไรสุทธิปี 57 ประมาณ 107,200 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 13%yoy

 

หุ้นเด่นรายวัน
  APCO (ราคาปิด 15.60 ซื้อเก็งกำไร) ผู้บริหารคาดว่าผลการดำเนินงาน 2Q57 จะแรงกว่าไตรมาสแรก ตั้งเป้ารายได้ปีนี้แตะ 500 ล้านบาท โดยจะส่งพันธมิตรสิงคโปร์เป็น Spring Board เจาะตลาดต่างประเทศ คาดปีหน้าได้ฤกษ์ย้ายเทรดกระดาน SET เตรียมนำหุ้นเพิ่มทุน PP 28 ล้านหุ้น ขายให้พันธมิตร (ที่มา : ทันหุ้น)
  MBAX (ปิด 3.68 ซื้อเก็งกำไร) โชว์กำไรสุทธิ 1Q57 เพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่นโดยมีกำไรสุทธิที่ 17.23 ล้านบาท มากกว่าเมื่อเทียบกับทั้งปีของปีที่ผ่านมาซึ่งมีกำไรต่ำเพียง 9.52 ล้านบาท ดังนั้นถ้า MBAX ยังรักษาระดับรายได้และความสามารถในการทำกำไรที่ระดับเดียวกับ 1Q57 ไปจนถึงสิ้นปีก็มีความเป็นไปได้สูงที่ราคาจะไปได้ไกลถึง 5 บาท

 

รายชื่อหลักทรัพย์ที่ติดเกณฑ์บัญชี Cash Balance
* MAX/ TCC / TYCN มีผลบังคับใช้ 16 เม.ย. - 23 พ.ค. 57
* RASA มีผลบังคับใช้ 21 เม.ย. - 30 พ.ค. 57
* EFORL มีผลบังคับใช้ 28 เม.ย. - 6 มิ.ย. 57
* EVER/ IFEC / OCEAN / SUPER มีผลบังคับใช้ 6 พ.ค.-13 มิ.ย. 57
* PAF/ PDI มีผลบังคับใช้ 19 พ.ค. 57 - 27 มิ.ย. 57
***เนื่องจากการลงทุนในหลักทรัพย์ ดังกล่าวมีการซื้อขายผิดไปจากสภาพปกติของตลาดดังนั้นผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน

 

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ
ตลาดหุ้นดาวโจนส์ : เพิ่มขึ้น 20.55 จุด
 ดัชนีตลาดหุ้นดาวโจนส์ปิดตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเพียง 20.55 จุด เนื่องจากตลาดยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่เข้ามากระตุ้นตลาด โดยเมื่อวานนี้สหรัฐไม่มีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจ แต่ตลาดการซื้อขายกิจการมีข่าว บริษัทเอที แอนด์ ที ได้ตกลงซื้อกิจการบริษัทไดเร็ค ทีวี ซึ่งเป็นบริษัททีวีผ่านดาวเทียมรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐ ที่ระดับ 95 ดอลลาร์ต่อหุ้น หรือคิดเป็นมูลค่า 4.85 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะเดียวกัน บริษัทแอสทราเซเนกา ซึ่งเป็นบริษัทเวชภัณฑ์ยักษ์ใหญ่ของอังกฤษปฏิเสธข้อเสนอซื้อกิจการจากบริษัทไฟเซอร์ ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทเวชภัณฑ์ชั้นนำของสหรัฐ เนื่องจากมองว่าข้อเสนอดังกล่าวมีมูลค่าต่ำเกินไป ทำให้ปิดตลาดดัชนีดาวโจนส์ปิดบวกเล็กน้อยเพียง 20.55 จุด หรือ 0.12% ปิดที่ 16,511.86 จุด ดัชนี S&P 500 ปรับขึ้น 7.22 จุด หรือ 0.38% ปิดที่ 1,885.08 จุด และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 35.23 จุด หรือ 0.86% ปิดที่ 4,125.82 จุด

 

ตลาดน้ำมัน NYMEX : เพิ่มขึ้น 0.52 เหรียญ
  ราคาน้ำมันดิบที่ตลาดล่วงหน้า NYMEX ส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 52 เซนต์ ตลาดได้แรงหนุนเช่นเดียวกับตลาดหุ้นวอลสตรีทคือนักลงทุนขานรับรายงานตัวเลขเริ่มสร้างบ้านของสหรัฐที่ออกมาดีเกินคาด นอกจากนี้นักลงทุนยังวิตกกังวลต่อภาวะอุปทานน้ำมันดิบของโลกหลังสถานการณ์ในยูเครนมีแนวโน้มที่จะรุนแรงมากขึ้น โดยล่าสุด รัสเซียเตือนว่ายูเครนใกล้เข้าสู่ภาวะสงครามกลางเมือง ขณะที่สหรัฐและอังกฤษประกาศเมื่อวันพฤหัสบดีว่าจะลงโทษรัสเซียด้วยการคว่ำบาตรเพิ่มมากขึ้น หากรัสเซียยังเข้าแทรกแซงการเลือกตั้งในยูเครนที่จะมีขึ้นในช่วงปลายเดือนพ.ค.นี้ ทำให้ปิดตลาดราคาน้ำมันดิบที่ตลาดล่วงหน้า NYMEX ส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 52 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 102.02 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบ BRENT ส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 66 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 109.75 ดอลลาร์/บาร์เรล
Analyst :
ธวัชชัย 02-6725993 [email protected]
วิลาสินี 02-6725937 [email protected]
อาทิตย์ [email protected]

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!