- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 20 May 2014 15:27
- Hits: 3958
บล.ทิสโก้ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET +5.37 จุด แกว่งแคบรอปัจจัยการเมือง, GDP ติดลบ
SET แกว่งตัวในกรอบแคบ 1404-10 รอปัจจัยการเมือง โดยรองนายกฯ รักษาการ “นิวัฒน์ธำรง” ยืนยันไม่ลาออกตามแนวทางของส.ว. เพราะเกรงผิดรธน. ขณะที่สภาพัฒน์เผย GDP ไทย Q1 หดตัว 0.6% YoY ซึ่งเป็นไปตามที่เราคาดไว้ที่ -0.7% แต่แย่กว่าตลาดคาดที่ +0.4% YoY ต่างชาติพลิกมาซื้อสุทธิ 544 ลบ.
ทิศทางตลาดวันนี้ : โอกาสร่วงหลุด 1400 จุดสูง ทหารประกาศใช้กฎอัยการศึก
หุ้นโลกเมื่อคืน (19 พ.ค.) ส่วนใหญ่ปรับขึ้น แต่การซื้อขายค่อนข้างผันผวนทั้งแดนบวกและลบ ตลาดขาดปัจจัยชี้นำใหม่ นลท.รอติดตามการเปิดเผยตัวเลขศก.ต่าง ๆ และสถานการณ์ในยูเครนที่ใกล้เข้าสู่วันเลือกตั้งปธน.ยูเครนในวันที่ 25 พ.ค. ด้านการเมืองในปท. ผบ.ทบ.ประกาศใช้กฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักรเมื่อช่วงเช้ามืดวันนี้ (ตอนตี 3) โดยตั้งกองอำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (กอ.รส.) ทำหน้าที่แทนศอ.รส.ที่ถูกยุบไป แม้ผบ.ทบ.ยืนยันการใช้กฎอัยการศึกครั้งนี้ไม่ใช่การทำรัฐประหาร แต่การกุมอำนาจแบบเบ็ดเสร็จ มีผลไม่แตกต่างกัน ซึ่งกระทบต่อความเชื่อมั่นของนลท. โดยเฉพาะตปท. มอง SET กระโดดลง และมีโอกาสร่วงลงหลุด 1400 จุดสูง แนวรับ 1390-95 แนวต้าน 1410+/- แนวโน้มต่อไปจะขึ้นอยู่กับสถานการณ์การดูแลความเรียบร้อยของ กอ.รส., การตอบรับของสังคมในทุกภาคส่วน และแนวทางการแก้ไขปัญหาปท.ต่อไป
กลยุทธ์การลงทุน : เทรดสั้นน่าทยอยสะสมช่วง 2-3 วันนี้ รอฟื้นตัวระยะต่อไป
เรามองการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ เป็นสัญญาณบ่งชี้การเมืองใกล้จบ ด้วยเรามองผลกระทบของการใช้กฎอัยการศึกไม่แตกต่างจากการทำรัฐประหาร เราจึงศึกษาผลกระทบต่อความเคลื่อนไหวของ SET Index เทียบเคียงเช่นเดียวกับที่เคยเกิดรัฐประหารในอดีต ส่วนหนึ่งเพราะการทำรัฐประหารจะมีการประกาศใช้กฎอัยการศึกควบคู่กันไป จากการศึกษาของเราพบว่า SET Index จะได้รับผลกระทบโดยเฉลี่ยไม่เกิน -2% ในช่วง 3 วันทำการ หลังจากนั้นจะค่อย ๆ ปรับตัวดีขึ้น โดยในช่วง 2 สัปดาห์, 1 เดือน, 2 เดือน และ 3 เดือน หลังการทำรัฐประหาร SET Index จะค่อย ๆ ปรับตัวขึ้นเฉลี่ย +4.8% (ระดับความเชื่อมั่น 75%), +3.3% (ระดับความเชื่อมั่น 100%), +4.4% (ระดับความเชื่อมั่น 100%) และ +3.9% (ระดับความเชื่อมั่น 100%) เพราะฉะนั้นหากอิงความเคลื่อนไหวในอดีต SET Index น่าจะปรับลงไม่เกิน 30 จุดในช่วง 2-3 วันนี้ จากระดับปัจจุบันแถว 1400 จุด และเมื่อเวลาผ่านไปแล้ว
SET Index น่าจะปรับตัวดีขึ้นไปแถว 1450-60 ในช่วง 2 เดือนนับจากนี้ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ให้ผลตอบแทนสูงสุด เรามองกลุ่มรับเหมาฯ (ชอบ STEC, CK), กลุ่มแบงก์ (BBL, KBANK, SCB) และกลุ่มอสังหาฯ (AMATA, HEMRAJ, ANAN, QH, SPALI) เป็นเป้าหมายการทยอยซื้อช่วงอ่อนตัว 2-3 วันนี้ เพื่อเทรดดิ้งระยะสั้น นอกจากนี้ยังธีมหุ้นที่น่าสนใจ คือ (1) หุ้นที่จะเข้าสู่การคำนวณในดัชนีต่างๆ เราชอบ M (มูลค่าเหมาะสม 63 บ.) คาดเข้าคำนวณทั้ง SET50 และ SET100, MEGA (27.25 บ.) เข้าคำนวณ MSCI และ SET100, NYT (19 บ.) เข้าคำนวณ MSCI และ SET100 และ (2) หุ้นที่งบ Q1 ออกมาดี มีโอกาสที่ตลาดจะปรับประมาณการกำไรขึ้น แนะนำ AMATA (22 บ.) STEC (23 บ.) แต่เน้นการตั้งรับเป็นหลัก สัปดาห์นี้ (19-23 พ.ค.) ไม่มีหุ้นแนะนำใน TISCO Weekly Guru และมองโอกาส SET ยืนเหนือ 1400 ต่อในวันศุกร์นี้ (23 พ.ค.) มีเพียง 24%
หุ้นเด่นรายวัน : ไม่มี
ปัจจัยติดตาม
วันที่ ปท. เหตุการณ์
20 พ.ค. JP ตัวเลขดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ และดัชนีชี้วัดทุกภาคอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นในเดือน มี.ค.
GE ตัวเลขดัชนีราคาผู้ผลิตของเยอรมันในเดือน เม.ย.
20-21พ.ค. JP ประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ)
21 พ.ค. JP ตัวเลขดุลการค้าของญี่ปุ่นในเดือน เม.ย.
EU ตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหภาพยุโรปใน พ.ค. (เบื้องต้น)
US รายงานประชุม FED ครั้งก่อน (29-30 เม.ย.)
ที่มา : Bloomberg, DB, TISCO Research
นักวิเคราะห์ :
อภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล เลขทะเบียนนักวิเคราะห์ : 18171 02-633-6467 , [email protected]
ธนพล บำรุงพงศ์ เลขทะเบียนนักวิเคราะห์ : 46537 02-633-6471 , [email protected]