- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 25 September 2019 20:53
- Hits: 3003
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
“ต่างประเทศไม่สดใส รอผลประชุม กนง.”
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : --
ภาวะตลาดและปัจจัย : SET วานนี้ +7.71 จุด ปิดที่ 1630.5 จุด มูลค่าการซื้อขายปานกลางเป็น 50.1 พันล้านบาท ดัชนีฯบ้านเราปรับขึ้นดีกว่าเพื่อนบ้าน สถานการณ์การเจรจาการค้าจีน-สหรัฐ ดีขึ้นหลังจีนนำเข้าถั่วเหลืองจากสหรัฐมากขึ้น เก็งกำไร Window Dressing ปิด ก.ย.62 และรอติดตามการประชุม กนง. ผู้ขายสุทธิคือ สถาบัน โบรกเกอร์ และต่างชาติ ซึ่งขายมากสุด 0.96 พันล้านบาท ส่วนซื้อสุทธิรายเดียวเป็นรายย่อยอีก 1.5 พันล้านบาท ตั้งแต่ต้นเดือนถึงปัจจุบันต่างชาติขายสุทธิเพิ่มเป็น 8.9 พันล้านบาท ด้านแนวโน้มตลาดและกลยุทธ์คือ
# ปัจจัยสำคัญ: ต่างประเทศไม่สดใส เรื่องการเมืองสหรัฐ และเจรจาการค้า ติดตามผลประชุม กนง. สภาเตรียมถอดถอนทรัมป์ และทรัมป์กล่าวโจมตีจีนในเวทียูเอ็น จึงกังวลว่าการเจรจาการค้าจะมีอุปสรรค ดัชนีความเชื่อมั่นสหรัฐปรับลด ดาวโจนส์และน้ำมันปรับลง เงินบาทอ่อนเล็กน้อย เช้านี้ตลาดหุ้นเพื่อนบ้านปรับลงแคบๆ ดัชนีความกังวลเพิ่มไปถึง 17.05 จุด สำหรับไทย ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม ส.ค.ปรับลง 4.4% ด้านปัจจัยบวกที่พอมีคือ ครม.เศรษฐกิจจะมีการกระตุ้นส่งออก-ท่องเที่ยว ประชุม7 ต.ค. ชิม ช็อป ใช้ ได้รับความสนใจสูง ติดตามการลงนามรถไฟฟ้าสามสนามบินมีผลกับความคืบหน้า EEC จะกระทบหุ้นลงทุนคือ นิคมฯ และรับเหมาก่อสร้าง
# ระยะสั้นคาด SET- แกว่งแคบ Window Dressing จะต้านปัจจัยลบต่างประเทศได้ไหม และรอผลประชุม กนง. การลงทุนเน้นหุ้น Defensive ความไม่สงบตะวันออกกลาง หุ้นพลังงานยังน่าสนใจ ส่วน ชิม-ช็อป-ใช้ ดีต่อธุรกิจอาหาร พาณิชย์ และโรงแรม กรณีเร ่งลงนามรถไฟฟ้าเชื่อมสามสนามบิน มีผลต่อหุ้นใน JV ติดตามการประชุม กนง.วันนี้ หากกนง.ปรับลดดอกเบี้ย จะเป็นบวกกับเช่าซื้อ และอสังหาฯ แต่เป็นลบกับธนาคาร แต่ตลาดฯส่วนใหญ่คาด ยังไม่ลด รอดูสถานการณ์ คาด SET ซื้อขายในกรอบ 1600-1640 จุด แนวต้านเป็น 1635-1640 จุด แนวรับอยู่ที่ 1620-1610 จุด ยังต้องระมัดระวังในการเข้าเก็งกำไร กลยุทธ์ คือ เลือกลงทุนทยอยสะสม เป็นรายกลุ่มและรายตัว (Selective) ตาม Theme หุ้นได้ประโยชน์มาตรการรัฐ- CPALL,BJC,AMATA,WHA,CK,STEC เกณฑ์ TFRS9- BBL,KBANK ดอกเบี้ยขาลง-DIF,AIMIRT,HREIT,DREIT (เพิ่มทุนสำเร็จ) ปันผลสูง- KKP,TISCO,LALIN,SC หุ้น DEFENSIVE- ADVANC,BTS,BEM อุปโภค-บริโภค ได้ประโยชน์ IMO 2020- TOPตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนฟื้นตัว- AOT,ERW,MINT ปัจจัยเด่นเฉพาะตัว FPT,IVL,NOBLE,PF,VGI,UV
# Stock Pick Today : DIF กองทุนมีความมั่นคงมากขึ้นหลังซื้อสินทรัพย์รอบใหม่ โดยสินทรัพย์กระจายตัวในเชิงพื้นที่มากขึ้น, มีสิทธิบริหารเฉลี่ยเหลือยาว 19 ปี, ผู้เช่าหลักของกองทุน คือ กลุ่ม TRUE เป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจสื่อสารและโทรคมนาคมของไทย คาดเงินปันผลไม่ลดลงจาก 1.04 บาท/หน่วย (จ่ายทุกไตรมาส) ณ ราคาปัจจุบัน17.40 บาท คิดเป็น Dividend yield 6.0% ในเชิงกลยุทธ์ แนะนำซื้อลงทุน โดยฝ่ายวิจัยฯ DBS ประเมินราคาพื้นฐานหลังเพิ่มทุนไว้ที่ 19.40 บาท (DCF, WACC 5.8%, TG1.5%)
การวิเคราะห์ทางเทคนิค: ระยะสั้น สัญญาณ Candlestick & Indicators เหมือนจะเปลี่ยนเป็นบวกเล็กๆ {“ปิดบวก” แต่เคลื่อนไหวใต้“SMA10วัน” (โดยยังคงติด“แนวต้านสำคัญ” และถูกกดดันจาก“โครงสร้างขาลง – ระยะกลาง”)} ชี้ความน่าจะเป็นของตลาดฯวันนี้“แกว่ง”แบบให้น้ำหนักกับการลง แต่“ค่าบวก” (Oversold ในกราฟรายนาที“หนุน”) จะช่วยให้มีรีบาวด์ฯสั้นๆก่อน(แล้วจึงลงต่ำ,ตามมา)ได้ แนวต้าน 1635 – 1640 (หรือ 1650) จุด {แนวตัดขาดทุน “ต่ำกว่า 1625” (แนวรับย่อย “1620 – 1610หรือ 1590” จุด}
หุ้นที่มีสัญญาณบวกทางเทคนิคหรือมีโอกาสทำ New High มีดังนี้ หุ้นที่เข้ามาใหม่คือ BBL,DIF,TU,GFPT,PSL หุ้นที่ยังอยู่ใน List NOBLE,EPCO,SISB หุ้นที่หลุด ListTOA และหุ้นที่อยู่ในพื้นที่หาจังหวะ Take Profit PTT
Thailand Research Team : reseach-th.dbs.com
Inside Story
Key Drivers TODAY : ปัจจัยต่างประเทศ / ปัจจัยในประเทศ
Trading Strategy : การลดดอกเบี้ยอาจกระตุ้นเศรษฐกิจ & ลดการแข็งค่าเงินบาทได้อย่างจำกัด
STOCK in Focus : ERW (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 7.30)
Flash Note : MTC (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 78.00)
NOBLE (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 32.94)
Key Drivers TODAY
ปัจจัยต่างประเทศ
-การเมืองสหรัฐ: สภาสหรัฐเตรียมถอดถอน"ทรัมป์"
# มีแรงกดดันจากสถานการณ์การเมืองที่ผันผวนในสหรัฐ โดยรายงานล่าสุดระบุว่า นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ประกาศการเริ่มกระบวนการไต่สวนอย่างเป็นทางการ เพื่อถอดถอนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ออกจากตำแหน่ง หลังจากมีรายงานว่า ปธน.ทรัมป์ได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับนายโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน เพื่อกดดันให้มีการสอบสวนนายโจ ไบเดน อดีตรองปธน.สหรัฐ ซึ่งเป็นคู่แข่งคนสำคัญของปธน.ทรัมป์ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสมัยหน้า โดยการกระทำดังกล่าวถูกมองว่าเป็นการเปิดทางให้รัฐบาลต่างชาติเข้ามาแทรกแซงการเลือกตั้งในสหรัฐ
- เจรจาการค้า: ปธน.ทรัมป์ได้กล่าวโจมตีจีนบนเวทีสหประชาชาติ (UN)
# นักลงทุนยังวิตกกังวลว่า การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนอาจสะดุดลง หลังจากปธน.ทรัมป์ได้กล่าววิพากษ์วิจารณ์จีนในเวทีการประชุมสมัชชาใหญ่ UN เมื่อวานนี้ว่า จีนมีการดำเนินการทางการค้าที่ไม่เป็นธรรม และเขาจะไม่ยอมรับข้อตกลงการค้าที่ทำให้ชาวอเมริกันเสียเปรียบ
-/• สหรัฐ: ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐลดลง ส่วนดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศในสหรัฐเพิ่มขึ้น
# ผลสำรวจของสถาบัน Conference Board ซึ่งระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐลดลงสู่ระดับ 125.1 ในเดือนก.ย. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดในรอบ 9 เดือน และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 133.5 จากระดับ134.2 ในเดือนส.ค.
# สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ ผลสำรวจของเอสแอนด์พี คอร์โลจิก เคส ชิลเลอร์ ระบุว่า ดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศในสหรัฐเพิ่มขึ้น 3.2% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว หลังจากที่เพิ่มขึ้น 3.2%เช่นกันในเดือนมิ.ย.
- ดัชนีสหรัฐ: ดาวโจนส์ปรับลง กังวลการเมืองและเจรจาการค้าจีน-สหรัฐ
# ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,807.77 จุด ลดลง 142.22 จุด หรือ -0.53% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่2,966.60 จุด ลดลง 25.18 จุด หรือ -0.84% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,993.63 จุด ลดลง 118.83 จุด หรือ -1.46%
# ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (24 ก.ย.) เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับความปั่นป่วนทางการเมืองในสหรัฐ หลังจากประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเปิดฉากการไต่สวนเพื่อถอดถอนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ออกจากตำแหน่ง ฐานติดต่อกับรัฐบาลต่างชาติให้เข้าแทรกแซงการเลือกตั้งในสหรัฐ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความกังวลที่ว่าการเจรจาการค้าอาจสะดุดลง หลังจากปธน.ทรัมป์ได้กล่าวโจมตีจีนบนเวทีสหประชาชาติ (UN)
- น้ำมัน: ปรับลง กังวลสงครามการค้ากระทบการใช้น้ำมัน
# สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. ร่วงลง 1.35 ดอลลาร์ หรือ 2.3% ปิดที่ 57.29 ดอลลาร์/บาร์เรล
# สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ย. ดิ่งลง 1.67 ดอลลาร์ หรือ 2.6% ปิดที่ 63.10 ดอลลาร์/บาร์เรล
# สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (24 ก.ย.) โดยได้รับแรงกดดันจากความกังวลที่ว่าความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนจะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมันในตลาดโลก ขณะที่นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันนี้
- ทองคำ: ปิดบวก หลังดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่า
# สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 8.7 ดอลลาร์ หรือ 0.57% ปิดที่1,540.2 ดอลลาร์/ออนซ์
# สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เมื่อคืนนี้ (24 ก.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ นอกจากนี้ การร่วงลงของตลาดหุ้นนิวยอร์ก และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐที่อ่อนแรงลง ยังส่งผลให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
• ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ทยอยประกาศสัปดาห์นี้
# ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ ยอดขายบ้านใหม่เดือนส.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2/2562, ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนส.ค., ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนส.ค., การใช้จ่ายส่วนบุคคลเดือนส.ค. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน
ปัจจัยในประเทศและข่าวหลักทรัพย์
- ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือน ส.ค.62 อยู่ที่ระดับ 100.58 หดตัว 4.4%
# สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เผยดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือน ส.ค.62 อยู่ที่ระดับ 100.58 หดตัว4.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยได้รับผลกระทบจากแนวโน้มเศรษฐกิจและการค้าโลกที่ชะลอตัวต่อเนื่อง
+ ติดตามการประชุม ครม.เศรษฐกิจ 7 ต.ค.62 จะมีมาตรการกระตุ้นการส่งออกและการท่องเที่ยว
# คณะกรรมการรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ (ครม.เศรษฐกิจ) นัดถัดไปในวันที่ 7 ต.ค.62 จะมีการพิจารณาเรื่องมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้านการส่งออก และด้านการท่องเที่ยว
• TMB-T1: สิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไป
# สมมุติมี TMB อยู่ 10,000 หุ้น จะได้ TMB-T1 6,922 หน่วย เศษปัดทิ้ง เกิดจาก 10,000/1.444533 ตามข้อกำหนด1.444533 หุ้น TMB ได้ 1 หน่วยของ TMB-T1 เศษปัดทิ้ง
# กำหนดวัน X-TSR คือ 26 ก.ย.62 หากไปซื้อวันนั้นจะไม่ได้ TSR หรือกรณีมี TMB อยู่แล้ว ก็ถือข้ามผ่านมาก็จะได้ TSR
# จะมีการให้ซื้อขาย TSR ในตลาดฯ หากไม่ต้องการไปใช้สิทธิ์ ก็ขายออกมาในตลาดฯได้ หากใช้ราคาปิด TMB ขณะนี้TMB-T1 จะมีมูลค่าราว 0.33 บาท เกิดจาก ราคาหุ้น 1.73 บาทหักด้วยราคาใช้สิทธิ์ 1.40 บาท หากไม่คิดมูลค่าเวลา(Time Value) เพราะมีอายุแค่ 2 เดือน
# ราคาหุ้น TMB วัน X จะปรับลงมาตาม Dilution จากจำนวนหุ้นที่เพิ่มเป็น 1.595 บาท ซึ่งคิดตามสัดส่วน Dilution และใช้ราคาปิดวานนี้มาคำนวณ
# หากนักลงทุนไม่ได้ขาย TMB-T1 ออกไป ก็ควรต้องไปใช้สิทธิ์ซื้อ TMB มา เพื่อมาลดต้นทุนต่อหน่วยให้ต่ำลง ซึ่งจะกำหนดวันใช้สิทธิ์ในภายหลัง คำแนะนำด้านพื้นฐาน TMB คือ ถือ ราคาพื้นฐานเป็น 2.00 บาท
นักวิเคราะห์&กลยุทธ์ : สมบัติ เอกวรรณพัฒนา : [email protected]