- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 24 September 2019 16:29
- Hits: 4247
บล.เออีซี : Daily Focus
AECS Daily Focus
--------------
Market Outlook
• วันนี้คาด SET Index จะเริ่มชะลอการปรับตัวลงตามระดับแนวรับ 1,620 และ 1,615 จุด เพื่อสร้างฐานการรีบาวด์ หลังภาพปัจจัย ตปท. Trade War มี Sentiment เชิงบวกมากขึ้น ขณะที่ปัจจัยในประเทศติดตามผลการประชุมของ กนง.ต่อท่าทีการกำหนดนโยบายอัตราดอกเบี้ยนโยบายในวันพรุ่งนี้ นอกจากนี้ ลุ้นการทำWindow dressing ช่วงโค้งสุดท้ายก่อนปิดไตรมาส ประเมินกรอบเคลื่อนไหว 1,615-1,630 จุด
• Market Factor
• (+) จีนสั่งนำเข้าถั่วเหลืองจากสหรัฐฯ จำนวน 10 คาร์โกหรือราว 600,000 ตัน ทำให้ตลาดคาดหวังการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีนในช่วงต้นเดือน ต.ค. ในทิศทางเชิงบวกมากขึ้น
• (+) กระทรวงพาณิชย์ กำหนด 3 นโยบายหลักขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ครอบคลุมมาตรการกระตุ้นทั้งเศรษฐกิจจากระดับฐานรากขึ้นสู่ระดับบน (Bottom up) และเศรษฐกิจมหาภาค (Top Down) พร้อมหนุนภาคธุรกิจให้ปรับตัวทันกับเศรษฐกิจสมัยใหม่ เช่น เร่งแก้ไขปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำใน 5 พืชเกษตรสำคัญ เช่น ข้าว ยางพารา มันสำปะหรัง มะพร้าว และข้าวโพด เร่งรัดการส่งออกผ่านยุทธศาสตร์ ขยายตลาดเก่า เปิดตลาดใหม่ และฟื้นตลาดเดิม (กรุงเทพธุรกิจ)
• (watch) ติดตามผลการประชุมของ กนง.วันที่ 25 ก.ย.นี้ ต่อทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบาย
• Consensus ปรับลดประมาณการ EPS โดยข้อมูลจาก Bloomberg Consensus พบว่าเมื่อต้นปี EPS ปี 62 ที่ 115.14 บาท ขณะที่ปัจจุบันเหลือเพียง 99.10 บาท หรือลดลง 13.93%YTD
• Update Flow เมื่อวานที่ผานมาต่างชาติคงขายสุทธิในตลาดหุ้นไทยอีก 1,564.6 ลบ.ส่งผลภาพรวม MTD ต่างชาติขายสุทธิรวม 7,917.88 ลบ.(ขณะที่รายย่อยและสถาบันซื้อสุทธิรวมกัน 4,618.06 ลบ.)
• Investment Strategy
• สัปดาห์นี้ เราประเมิน SET Index ซึมลงต่อในกรอบ 1,610-1,640 จุด หลังขาดปัจจัยหนุนใหม่จากต่างประเทศ ขณะที่มีประเด็นที่ต้องติดตามในเรื่อง Trade war ที่จะมีการเจรจาในช่วงต้นเดือนหน้า บวกกับติดตามผลประชุม กนง. (ล่าสุดนักเศรษฐศาสตร์ 12 ท่าน จาก Bloomberg Consensus มองแบงก์ชาติยังคงอัตราดอกเบี้ยที่ 1.5%) อย่างไรก็ดี อาจมีประเด็นหนุนจากการทำ Window Dressing ในช่วงปลายสัปดาห์ ดังนั้นในช่วงที่ตลาดปรับลง เราแนะนำให้นักลงทุนทยอยเก็บหุ้น 4 กลุ่ม ดังนี้
• หุ้นกลุ่มที่จะได้ประโยชน์จากแผนกระตุ้นศก.ของรัฐฯ: แนะนำหุ้นที่ได้ประโยชน์และมี Upside ได้แก่ BJC (ช่วง 2H62 คาดเห็นการฟื้นตัวHoHจากการขยายสาขาBigCมากขึ้นจากสาขาทั้งในประเทศ 7 สาขาและสาขาที่กัมพูชา 1 สาขาBigC Food Place 1 สาขาและ Mini BigCราว 200 สาขา), SEAFCO (แม้ช่วง 2H62 คาดรับรู้งานลดลง แต่ยังมี Backlog 2.3 พัน ลบ. คาด Secured Revenue 100% ในช่วงที่เหลือของปีนี้ บวกกับยังมี Upside Risk จากงานประมูลใหม่อีก 1.9 หมื่นลบ.), CPALL (ช่วง 3Q62 แม้เข้าสู่ Low Season แต่ด้วยการจัดโปรโมชั่น แสตมป์จัดหนักกระตุ้นยอดขาย และการได้ประโยชน์จากฐานที่ต่ำของปีก่อนจะหนุน SSSG เติบโตต่อเนื่อง พร้อมยังคงเป้าขยายสาขาร้านสะดวกซื้อปีนี้ที่ 700 สาขา), ERW (ช่วง 2H62 หลังคาดฟื้นตัวจากปัจจัยฤดูกาล บวกกับการกลับมาเปิดโรงแรมใหม่ 9 แห่ง อีกทั้งมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวจาก ครม.และมีสัญญาณฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวชาวจีน หลังจำนวนนักท่องเที่ยวจีนเดือน ส.ค. โต 15.6%YoY)
• กลุ่ม Defensive Stock: เราเลือกหุ้นที่มีอัตราจ่ายปันผลน่าดึงดูดบวกกับกำไรช่วง 2H62 มีแนวโน้มโตดี แนะนำ ASK (ช่วง 2H62 คาดกำไรสุทธิมีแนวโน้มโตต่อ หนุนด้วยสินเชื่อรถพาณิชย์ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามงานก่อสร้างภาครัฐฯที่จะทยอยเร่งตัวขึ้นบวกกับคาดได้ประโยชน์จากการทยอยเปลี่ยนรถตู้เป็นรถมินิบัสของผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะตามมาตรการของ ขสมก.
• กลุ่มที่คาดผลดำเนินงานมีแนวโน้มดีต่อเนื่อง: เหมาะกับการทยอยซื้อสะสม โดยเน้นหุ้นที่กำไรช่วง 2Q62 คาดโต YoYและช่วง 2H62 โตต่อ แนะนำSAWAD (คาดกำไรปี 62 โต 30.8%YoY หนุนด้วยเป้าพอร์ตสินเชื่อโต 20-30% และอีก 300 สาขา, Asset Yield ฟื้นตัวตามสัดส่วนการรับรู้รายได้ผ่านสัญญาเงินกู้ผ่าน BFIT ที่มากขึ้นโดยล่าสุด SAWAD รายงานการถือครองหุ้น BFIT หลัง Tender Offer ที่ 82.04% บวกกับต้นทุนทางการเงินที่ปรับลงหลังได้รับเงินเพิ่มทุนจากพันธมิตร), SELIC (คาดปี 62 เห็นการ Turnaround ของกำไรหลังเริ่มรวมงบการเงินกับ PMCT ซึ่งคาดเห็น Synergy ชัดเจนขึ้นจากการพัฒนาสินค้าใหม่และการขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มใหม่), III (ช่วง 2Q62 กำไรโต 45.8%YoY หนุนด้วยธุรกิจขนส่งสินค้าทางอากาศและธุรกิจบริหารจัดการโลจิสติกส์ บวกกับมีส่วนแบ่งกำไรที่โต 364%YoY จากธุรกิจที่เข้าซื้อกิจการสิงคโปร์และฮ่องกงในปี 61-62 ตามลำดับ)
• หุ้นที่ได้ประโยชน์จากน้ำท่วมในภาคเหนือ/อีสาน: เราเลือก SPC, DOHOME, GLOBAL, DCC
• Trading Idea
• กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง : แนะนำเก็งกำไร หลัง ครม.เศรษฐกิจจะมีการประชุมในวันที่ 20 ก.ย.โดยเน้นประเด็นในเรื่องของกระทรวงคมนาคม โดยเฉพาะโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน และ Mega Project เราเลือก CK, STEC ซึ่งมีโอกาสเข้าร่วมประมูลงานขนาดใหญ่ และ SEAFCO ซึ่งมีBacklog secure revenue ในปีนี้แล้วบวกกับรอรับงานจากผู้รับเหมารายใหญ่
23-Sep-19 Change (pts.) 20-Sep-19
SET Index 1,622.79 -13.41 1,636.20
SET50 Index 1,078.65 -10.39 1,089.04
SET100 Index 2,374.28 -22.10 2,396.38
High 1,636.16 Gainers 496
Low 1,620.77 Unchanged 396
Value (Bt m) 45,153.56 Losers 1,059
Volume (*000) 14,271,562
Market Valuation
SET Data 2019F 2020F Long Term
Fwd PER (x) 16.5 14.9 14.9
EPS Growth (%) 13.9 9.3 -0.8
EV/EBITDA (x) 11.8 10.8 10.3
FWD PBV (x) 1.8 1.7 1.6
Dividend Yield (%) 3.1 3.3 3.6
ROE 10.7 10.9 11.0
Net Buy/Sell by Investor Types
Unit : M Bt 23-Sep-19 WTD MTD YTD
Institution (438.07) (438.07) (6,338.90) 26,079.74
Proprietary (575.40) (575.40) 3,299.81 10,708.45
Foreign (1,564.60) (1,564.60) (7,917.89) (1,488.94)
Individual 2,578.07 2,578.07 10,956.98 (35,299.25)
AECS ( Fundamental and Strategic Team )
จิรภัทร โบสุวรรณ (ID. 040051) [email protected]
ภัทรพล จันทร์อินทร์ (ID. 089932) [email protected]
ธีรยุทธ ฤทธิเผ่าพันธุ์ ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์ Data Support / Secretary