• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : DELTA (จาก Fully Valued เป็นถือ)

ภาวะตลาดและปัจจัย : SET วานนี้ -13.48 จุด ปิดที่ 1640.66 จุด มูลค่าการซื้อขายน้อยลงเป็น 57.3 พันล้านบาท ดัชนีฯบ้านเราปรับลงแย่กว่าเพื่อนบ้าน

นักลงทุนไม่ยินดีกับเฟดลดดอกเบี้ย แต่ไปกังวลกับความไม่แน่นอนกับการลดดอกเบี้ยในอนาคต รอติดตามการประชุม กนง.และการเจรจาการค้าจีน-สหรัฐ

ผู้ขายสุทธิคือ สถาบัน ส่วนซื้อสุทธิเป็นรายย่อย โบรกเกอร์ และต่างชาติ ตั้งแต่ต้นเดือนถึงปัจจุบันต่างชาติขายสุทธิเป็น 6.0 พันล้านบาท ด้านแนวโน้มตลาด

และกลยุทธ์คือ

# ปัจจัยสำคัญ: ยังกังวลเฟดจะไม่ปรับลดดอกเบี้ยอีก ราคาน้ำมันเริ่มฟื้นตัว ติดตามการเจรจาการค้าระดับรัฐมนตรีช่วยก่อน เดือนหน้าระดับรัฐมนตรีตลาดคาดหวังออกมาดี ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐเมื่อคืนนี้ส่วนใหญ่ออกมาดี ดัชนีความกังวลอยู่ในโซนต่ำ ตลาดหุ้นเพื่อนบ้านเช้านี้ ดาวโจนส์และน้ำมันล่วงหน้าปรับขึ้น หุ้นใหม่เข้า FTSE เริ่มมีผล ตลาดฯติดตาม กนง.ประชุม 25 ก.ย. ปัจจัยลบคือ บอนด์ยิลด์สหรัฐปรับขึ้น และหุ้นจอง AWC ซึ่งใหญ่สุดเป็นประวัติการณ์อาจมีแรงขายหุ้นในตลาดฯเพื่อไปจองซื้อ หรือเตรียมซื้อเมื่อเข้าตลาดฯ

# ระยะสั้นคาด SET- ติดตามการประชุม กนง. 25 ก.ย. หากกนง.ปรับลดดอกเบี้ย จะเป็นบวกกับเช่าซื้อ และอสังหาฯ แต่เป็นลบกับธนาคาร คาด SET ซื้อขายในกรอบ 1650-1670 จุด กลยุทธ์ คือ เลือกลงทุนเป็นรายกลุ่มและรายตัว (Selective) แนวต้านเป็น 1660-1670 จุด แนวรับอยู่ที่ 1640-1625 จุดสำหรับการลงทุนทยอยซื้อสะสม กลุ่มหลักทรัพย์ที่แนะนำ มีพื้นฐานแข็งแกร่ง หาจังหวะทยอยสะสมได้ คือ พาณิชย์- CPALL, BJC ท่องเที่ยว- ERW,MINTขนส่ง AOT,BEM,BTS อาหาร TKN สื่อสาร- ADVANC ธนาคาร,ไฟแนนซ์- BBL, KBANK, KKP,TISCO, AEONTS,MTC การแพทย์- RJH,CHG นิคมฯ-AMATA, WHA ที่อยู่อาศัย- AP, ORI และสื่อ- VGI

# Stock Pick Today : VGI รายได้สื่อนอกบ้านในไตรมาสล่าสุดคือ 1Q62-63 (สิ้นสุด มิ.ย.62) กลับลดลง เพราะอยู่ในช่วงการเปลี่ยนผ่านสื่อภาพนิ่งบน BTSรวมถึงสื่อ Street Furniture ของ MACO ให้มาเป็นดิจิทัล แต่คาดว่าจะเริ่มเห็นผลดีในงวดการดำเนินงานครึ่งหลังปีนี้ ขณะที่รายได้จากทรานซ์แอด รายได้ที่เติบโตดีในกลุ่มแรบบิทและกำไรตามส่วนได้เสียจาก Kerry Express (Thailand) ที่เติบโตสูงยังจะช่วยค้ำจุนผลกำไรได้เป็นอย่างดี ขณะที่บ.ร่วม PLANB เพิ่งได้งาน 7-Eleven แนะนำ ซื้อ ราคาพื้นฐานเป็น 10.76 บาท ประเมินด้วยวิธี SOP Thailand Research Team : reseach-th.dbs.com

Inside Story

Key Drivers TODAY : ปัจจัยต่างประเทศ / ปัจจัยในประเทศ

Company Guide : DELTA (ถือ -ราคาพื้นฐาน 55.00)

Flash Note : TU (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 20.80)

AWC

BTS (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 13.72)

In The News : PTT : ผลกระทบจากค่าปรับที่ต้องจ่ายให้ RRC จำกัดมาก

BEM : กทพ.ไม่ต้องจ่ายเงินค่าเปลี่ยนแบบก่อสร้างทางด่วนขั้นที่ 2 ให้บริษัท

SYNEX : สมาร์ทโฟนรุ่นที่สูงที่สุดของหัวเหว่ย “Mate 30” ไม่มีบริการของ “google” เนื่องจากหัวเหว่ยถูกขึ้นบัญชีดำ

Turnover List Watch : DOHOME รอด P/E ต่ำกว่า 40.0 เท่า

Key Drivers TODAY

ปัจจัยต่างประเทศ

- เฟด: ตลาดหุ้นทั่วโลกยังกังวลเฟดอาจจะไม่ปรับลดดอกเบี้ยในอนาคต

# นักลงทุนซึมซับข่าวเฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นลง 0.25% สู่ระดับ 1.75-2.00% ในการประชุมเมื่อวันพุธตามคาด แต่เฟดไม่ได้ส่งสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไปในอนาคต

+/• เจรจาการค้า: ในระดับรัฐมนตรีช่วย ปูทางประชุมระดับรัฐมนตรีเดือนหน้า

# นักลงทุนจับตาการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนในระดับรัฐมนตรีช่วยที่กรุงวอชิงตัน เพื่อปูทางการประชุมระดับรัฐมนตรีในเดือนหน้า ทางด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เชื่อว่า สหรัฐและจีนอาจบรรลุข้อตกลงทางการค้าในไม่ช้า

+/- สหรัฐ: ยอดขายบ้านมือสองเพิ่มขึ้น การยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานเพิ่มน้อย แต่ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจทรงตัว

# สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองเพิ่มขึ้น 1.3% สู่ระดับ 5.49 ล้านยูนิตในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 17 เดือน ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขขาดดุลบัญชีเดินสะพัดของสหรัฐลดลง5.9% สู่ระดับ 1.282 แสนล้านดอลลาร์ในไตรมาส 2 จากระดับ 1.362 แสนล้านดอลลาร์ในไตรมาส 1

# ทางด้าน Conference Board เปิดเผยว่า ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ Leading Economic Index (LEI) ทรงตัวในเดือนส.ค. โดยอยู่ที่ระดับ112.1 หลังจากเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนก.ค. ขณะที่กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 2,000 ราย สู่ระดับ 208,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 213,000 ราย

+ ดาวโจนส์: ปรับลง แต่ S&P500 และ Nasdaq ปรับขึ้น

# ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 27,094.79 จุด ลดลง 52.29 จุด หรือ -0.19% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,006.79 จุด เพิ่มขึ้น0.06 จุด หรือ +0.00% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,182.88 จุด เพิ่มขึ้น 5.49 จุด หรือ +0.07%

# ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (19 ก.ย.) หลังจากนักลงทุนซึมซับข่าวการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และข้อมูลเศรษฐกิจหลายรายการที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ อย่างไรก็ดี ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดในแดนบวก โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นไมโครซอฟท์ รวมทั้งมุมมองบวกที่มีต่อการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน

+ น้ำมัน: ปรับลง สต็อกน้ำมันเพิ่มขึ้น

# สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 2 เซนต์ ปิดที่ 58.13 ดอลลาร์/บาร์เรล

# สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 80 เซนต์ หรือ 1.3% ปิดที่ 64.40 ดอลลาร์/บาร์เรล

# สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (19 ก.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า อุปทานน้ำมันในตลาดจะปรับตัวลดลง เนื่องจากการโจมตีแหล่งผลิตน้ำมันของซาอุดีอาระเบียเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

+ ทองคำ: ปรับลง กังวลถ้อยแถลงเฟดอาจจะไม่ปรับลดดอกเบี้ย

# สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 9.6 ดอลลาร์ หรือ 0.63% ปิดที่ 1,506.2 ดอลลาร์/ออนซ์

# สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (19 ก.ย.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเมื่อวันพุธที่ผ่านมา แต่ไม่ได้ส่งสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในอนาคต นอกจากนี้ นักลงทุนยังเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาทองคำพุ่งขึ้นติดต่อกัน 3 วันทำการก่อนหน้านี้

ปัจจัยในประเทศและข่าวหลักทรัพย์

+/- การประชุม กนง.: ตลาดจับตา วันที่ 25 ก.ย.62 จะลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายหรือไม่

# เฟดประกาศลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 0.25% คาดว่า กนง.จะมีการนำเรื่องนี้ไปประเมินด้วย

# วันนี้จะมีการประกาศตัวเลขส่งออก-นำเข้าของไทย ซึ่งน่าจะมีผลต่อการตัดสินใจเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ย (Aspen)

# แต่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงการจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยหรือไม่นั้นอยู่ที่ดุลพินิจของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่ต้องพิจารณาให้ดี เรื่องอัตราดอกเบี้ยไม่ใช่กลไกที่สำคัญมาก แต่สิ่งสำคัญที่ไทยจะต้องเร่งดำเนินการในช่วงที่เศรษฐกิจโลกไม่ค่อยดีในขณะนี้ คือ การสร้างความเชื่อมั่นภายในประเทศ สร้างความแข็งแกร่งจากภายใน (Aspen)

+ ไทย: อาจจะได้รับการพิจารณาปรับอันดับเพิ่มขึ้นเกี่ยวกับความยากง่ายในการทำธุรกิจ

# รมว.คลัง เปิดเผยภายหลังการประชุมติดตามผลการจัดอันดับความยากง่ายในการทำธุรกิจ (Ease of Doing Business) โดยภาพรวมเชื่อว่าไทยจะได้รับการพิจารณาปรับอันดับเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน จากปีก่อนที่อยู่ในอันดับที่ 27 โดยไทยยังเป็นรองประเทศในกลุ่มอาเซียนเพียง 2 ประเทศ คือ ประเทศสิงคโปร์ ที่อยู่อันดับ 1 ของโลก และประเทศมาเลเซียที่อยู่ในอันดับ 10 กว่า (Aspen)

+ หุ้นเข้า FTSE All World วันนี้: หุ้นที่ได้รับการคัดเลือกคือ EGCO,KTC,BGRIM,PLANB,THANI,THG

# FTSE All World หุ้นเข้าใหม่เริ่มมีผล วันนี้หรือ 20 ก.ย.62 อาจทำให้มีการเก็งกำไรระยะสั้นได้

- Large Cap คือ EGCO

- Mid Cap คือ KTC, BGRIM

- Small Cap คือ PLANB,THANI,THG

+ U และ PLANB มีพัฒนาการทางธุรกิจที่ดี

# U, U-P: ผนึกพันธมิตรฮ่องกงร่วมลงทุน ทุ่มงบ 5 พันลบ. เปิดรร.นานาชาติ "เวอร์โซ" ขึ้นแท่นใหญ่สุดในกทม. (Aspen) เราไม่ได้ทำการวิเคราะห์ (Not Rated)

# PLANB: แจ้งเข้าทำสัญญาลงทุนโครงสร้างและบริหารจัดการพื้นที่สื่อโฆษณาในร้านสา7-Eleven จำนวน 2,000 สาขาภายในปี 63และตั้งเป้าเพิ่มเป็น 3,000 สาขาทั่วประเทศ (Aspen) เราไม่ได้ทำการวิเคราะห์ (Not Rated)

+ TCAP: ประกาศปันผล 1.30 บาท XD 3 ต.ค.62 จ่าย 18 ต.ค.62

# คาดว่าปันผลมาจากการดำเนินงาน ส่วนปันผลพิเศษ 4.00 บาท และซื้อหุ้นคืน คาดว่าจะเกิดขึ้นปีหน้า หลังการควบรวมของ TMB แล้ว

เสร็จ คงคำแนะนำ ถือ ราคาพื้นฐาน 59.50 บาท

นักวิเคราะห์&กลยุทธ์ : สมบัติ เอกวรรณพัฒนา : [email protected]