- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 02 October 2014 15:08
- Hits: 2077
บล.ธนชาต : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market Outlook
Sentiment ตลาดหุ้นต่างประเทศกดดัน แม้รัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม: การปรับสูงขึ้นระหว่างวันไม่สามารถป่านแนวต้าน 1,592 จุด และปิดตลาดที่ 1,587.35 จุด +0.11% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.1 หมื่นล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้นสุทธิ 1,639 ล้านบาท...สำหรับแนวโน้ม SET วันนี้ คาดว่าจะถูกกดดัน ด้วยแนวรับ 1,580 จุด จากการปรับลดลงของตลาดหุ้น Dow Jones -1.40% เมื่อคืนนี้ จากความกังวลต่อตัวเลขเศรษฐกิจยุโรป ที่ออกมาต่ำกว่าคาด รวมไปถึงมาตรการ QE ที่จะสิ้นสุดลงในเดือน ต.ค.นี้ ขณะที่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ 4Q14 มูลค่า 3.6 แสนล้านบาทของรัฐบาล ส่วนใหญ่เน้นที่การลงทุนภาครัฐ และเร่งอนุมัติโครงการที่ขอ BOI มากกว่าเน้นการบริโภค ซึ่งทำให้กลุ่มหุ้นที่ได้รับผลบวกส่วนใหญ่ได้แก่กลุ่มวัสดุก่อสร้าง ขนาดกลาง-เล็ก อย่าง CCP SCP
“เก็งกำไร” กลุ่มวัสดุก่อสร้าง CCP SCP: แม้ SET จะถูกกดดันจากการปรับลดลงของตลาดหุ้นต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม Downside Risk จะจำกัดที่ 1,580 จุด รอผลการประชุม ECB คืนนี้ ต่อการเข้าซื้อพันธบัตร ขณะที่กลุ่มวัสดุก่อสร้างขนาดกลาง อย่าง CCP (ต้าน 7.85/8.05) SCP (ต้าน 12.9) คาดว่าจะได้รับผลบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐฯ
Tactical Portfolio (1-3 months)
TNS แนะนำ AOT, BEAUTY, BTS, KBANK, CK, SAMART, SAPPE, SPALI, STEC, และ TUF เป็นหุ้นใน Tactical Portfolio
มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรัฐบาล: มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล 3.6 แสนล้านบาท ในช่วง 4Q14 จะเป็นปัจจัยหนุนเศรษฐกิจ และทำให้ Downside Risk ในช่วงการ “พักฐาน” ของ SET จำกัดที่บริเวณ 1,580 จุด เท่านั้น (ในกรณีแย่กว่าคาดมีแนวรับถัดไปที่ 1,540 จุด) ขณะที่คงเป้าหมายการปรับสูงขึ้นระยะสัปดาห์ที่ 1,630 จุด ต่อไป โดยถ้าพิจารณาเป็นข้อๆ จะเห็นว่ากลุ่มหุ้นที่มีรายได้อิงกับการบริโภค และการลงทุนในประเทศ เป็นกลุ่มหุ้นที่ได้รับประโยชน์โดยตรง โดยกลุ่มหุ้นที่ได้รับประโยชน์เป็นกลุ่มแรกๆ ได้แก่ กลุ่มรับเหมาฯ วัสดุก่อสร้าง และนิคมอุตสาหกรรม อย่าง CK STEC SCC CCP SCP HEMRAJ WHA
ขณะที่กลุ่มหุ้นคาดว่าจะได้รับประโยชน์ตามมาหลังจากเงินเริ่มหมุนเข้าสู่ระบบมากขึ้น ได้แก่ กลุ่มธนาคาร ค้าปลีก อสังหาฯ อย่าง KBANK SCB SAWAD CPALL HMPRO QH LPN PS SPALI SIRI ซึ่งหุ้นใน Tactical Portfolio ที่คาดว่าจะได้รับผลดีจากนโยบายลงทุนภาครัฐฯ ระยะกลาง-ยาว ได้แก่ KBANK CK STEC และ SPALI
Technical
ยังลุ้นยืนเหนือระดับ 1580-84 จุด : SET เคลื่อนไหวแคบในกรอบ 1580-1590 จุด คาดว่าไม่หลุดต่ำกว่า 1580 จุด เนื่องจากถ้าหลุดต่ำกว่าแนวดังกล่าว จะมีเป้าหมายทิศทางลงไปสู่ระดับ 1550 จุด สำหรับวันนี้คาดว่าดัชนี SET จะแกว่งตัวในกรอบ 1580-1590 จุด
หุ้นที่แนะนำซื้อ : ARIP ราคาฟื้นตัวกลับขึ้นมายืนเหนือระดับ 1.40 และ 1.45 บาท ตามลำดับ เป็นจังหวะซื้อหุ้นกลับ คาดาวจะขึ้นต่อเนื่องทะลุ 1.60 บาท และมีเป้าหมายทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 1.70 บาทCOLOR กำลังทดสอบแนวต้าน 1.60 บาท คาดว่าจะผ่านได้เป็นจังหวะซื้อตาม มีเป้าหมายทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 1.70 บาท เป็นจุดขายระยะสั้น และแนวต้านถัดไปที่ระดับ 1.80 บาท PS จังหวะทะลุผ่าน 34 บาท ขึ้นมาปิดแข็งแกร่ง เป็นโอกาสซื้อหุ้นเพิ่มขึ้น คาดว่าจะขึ้นต่อไปทดสอบยอดสูงสุดเดิมที่ระดับ 37 บาท เป็นจุดขายทำกำไร
TFEX Recommendation
SET50 Futures: แนะนำ “Trading” สัญญา S50Z14 ในกรอบ 1,055-1,066 จุด โดยแรงกดดันจากการปรับลดลงของตลาดหุ้น Dow Jones อาจทำให้ S50Z14 ปรับลดลงต่ำกว่าแนวรับ MAV20 วันที่ 1,055 จุด จะเป็นสัญญาณเปิดสถานะ Short ตาม
Gold Futures: แนะนำ “Trading” ในกรอบ 18,600-18,900 บาท สัญญา GFV14 รอยืนยันทิศทางระยะสัปดาห์ต่อเนื่อง ไปก่อนล่าสุดราคาทองคำเคลือนไหวในกรอบแคบ รอความชัดเจนจากการประชุม ECB คืนนี้
Oil Futures: แนะนำ “เปิด” สถานะ Short สัญญา BRV14 ด้วยเป้าหมายการปรับลดลงที่ 3000 หลังจากราคาปรับลดลงต่ำกว่าแนวรับที่ 3100 ขณะที่กำหนด Trailing Stop ที่ 3120
Thai Strategy Team
นพดล พิริยวุฒิ
อดิศักดิ์ ผู้พิพัฒน์หิรัญกุล