- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 13 September 2019 15:35
- Hits: 4575
บล.ทิสโก้ : M a r k e t I n s i g h t
สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET -13.35 จุด เทขายท้ายตลาด ห่วงบาทแข็งค่ากระทบศก.
SET ภาคเช้าแกว่งอิงแดนบวก ได้ปัจจัยหนุนจากสหรัฐฯ-จีนยอมเลื่อนขึ้นภาษีและยกเว้นการเก็บภาษีสินค้าบางประเภท แต่ภาคบ่ายถอยลงแรง ห่วงบาทแข็งค่าสุดใหม่ในรอบ 6 ปี แตะระดับ 30.40 บ./$ จะกระทบต่อการเติบโตทางศก. ต่างชาติพลิกขายสุทธิ 1.06 พันลบ. และพลิก Short S50 Futures 2,050 สัญญา ยุติ Long 11 วันติด
ทิศทางตลาดวันนี้ : ลุ้นดีดกลับ ECB ผ่อนคลายการเงินเพิ่ม, บาทพลิกมาอ่อน
หุ้นโลกเมื่อวาน (12 ก.ย.) ปรับตัวขึ้นต่อ ดัชนี DJ ของสหรัฐฯ ขึ้น 7 วันติด และเข้าใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เดิมที่ 27,400 ขานรับปธน.ทรัมป์ ชะลอการขึ้นภาษีจีนมูลค่า 2.5 แสนล้านดอลลาร์ฯ (ล็อตเก่า) จากเดิมที่มีกำหนดจะขึ้นภาษีจาก 25% เป็น 30% 1 ต.ค. เลื่อนเป็น 15 ต.ค. รวมทั้งการผ่อนคลายนโยบายการเงินจาก ECB โดยลดดบ.เงินฝากลงจาก -0.4% เป็น -0.5% และกลับมาทำ QE เดือนละ 2 หมื่นล้านยูโรไม่มีกำหนดเวลา เริ่มตั้งแต่ 1 พ.ย. เป็นต้นไป ด้านราคาน้ำมันดิบ WTI ทรุดหนักสองวันติด นลท.ผิดหวังการประชุมนอกรอบของกลุ่ม OPEC และพันธมิตรที่ไม่ได้หารือการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันลงเพิ่มเติม โดยจะรอการประชุมอย่างเป็นทางการอีกครั้งในวันที่ 5-6 ธ.ค. นี้ มอง SET มีโอกาสดีดกลับ จากการผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมของ ECB จะช่วยหนุนสภาพคล่องมีแนวโน้มไหลเข้า EM ขณะที่เงินบาทเช้านี้พลิกมาอ่อนค่าเล็กน้อยน่าจะช่วยผ่อนคลายความกังวลเงินบาทที่แข็งค่าเกินไปจะกระทบต่อศก.ทั้งการส่งออกและการท่องเที่ยว อย่างไรก็ดี กรอบการฟื้นตัวยังถูกจำกัดด้วยความผันผวนของราคาน้ำมัน และ 10Y US Bond Yield ที่ปรับตัวขึ้น 7 วันติด มาที่ 1.77% กดดันระดับการประเมินมูลค่าหุ้นไทยแพงขึ้น แนวรับ 1655-56, 1650 แนวต้าน 1670+/- อนึ่ง คาดไม่มีหุ้นติด Cash Balance เย็นนี้
กลยุทธ์การลงทุน : ขึ้นเน้นขายล็อกกำไร-รอย่อซื้อคืน, ใช้กรอบ 1640-1700
SET เมื่อวานถอยมาประชิดระดับ 1660 หากปิดต่ำกว่าระดับนี้ มอง SET จะเข้าสู่ช่วงการพักฐาน แนะเก็งกำไรอย่างระมัดระวัง ขึ้นเน้นขายล็อกกำไรทำรอบสั้น รอย่อตัวซื้อคืน และยังคงใช้ Stop เมื่อ SET ปิดต่ำกว่า 1640
• ประเด็นหุ้นน่าสนใจ Fundamental Pick PRM – มองแนวโน้มครึ่งปีหลังยังดีต่อเนื่อง จากการฟื้นตัวในทุกธุรกิจของบริษัท คาดกำไรจะเติบโตเฉลี่ย 20% ต่อปีในช่วง 2 ปีข้างหน้า โดยธุรกิจเรือขนส่งในปท.ยังคงแข็งแกร่งด้วยส่วนแบ่งตลาดอันดับ 1 และมีการขยายกองเรือมาที่ 32 ลำ ขณะที่ธุรกิจเรือ FSU มีความต้องการเต็ม ผลจาก IMO2020 ทำให้บริษัทต้องเพิ่มเรือจาก 5 ลำมาอยู่ที่ 8 ลำ, เป้าพื้นฐาน 10.8 บ. / หุ้นพื้นฐานดีที่มีโอกาสซื้อคืนหลังถูก Short Sales มากสุดในช่วง 1 เดือน – PTTEP, KBANK, PTTGC, SCC / หุ้นคาดได้ประโยชน์จากซ่อมแซมหลังพายุถล่ม – HMPRO, GLOBAL, SCC, TASCO / FTSE ทบทวนดัชนีฯ เริ่มมีผล 23 ก.ย. (ใช้ราคาปิด 20 ก.ย.) ปรับขึ้นจาก Mid to Large Cap – EGCO / ปรับขึ้นจาก Small to Mid Cap – BGRIM, KTC / เข้า Small Cap – PLANB, THANI, THG ไม่มีออก / Micro Cap เข้า – AMANAH, QHHR, SSP, TWZ, ZEN ออก – AJ, APCS, AQ, BOFFICE, CM, CTW, FNS, FSS, IT, LEE, MILL, MJLF, MODERN, PAP, PL, PRM, SGP, SITHAI, SKN, SSSC, SUC, THIP, TPRIME, TR, TRUBB, TWPC, VNG / หุ้นรับมาตรการรัฐกระตุ้นบริโภคฐานราก – CPALL, BJC, AEONTS, KTC, MTC / การลงทุน – AMATA, ROJNA, WHA, EASTW, CK, SEAFCO, PYLON การท่องเที่ยว - AOT, MINT, ERW / หุ้น 3 กลุ่มที่พิสูจน์แล้วว่า “Outperform” จากสงครามการค้ารอบก่อน (1) TRANS – ชอบ BEM, BTS (2) HELTH – BDMS, EKH (3) COMM – BJC, CPALL ผสานหุ้นเชิงรับปันผลดี - EASTW, EGCO, MAJOR, RATCH รวมทั้งหุ้นใน PF&REIT&IFF - QHPF, CPNREIT, WHART, EGATIF, JASIF, DIF, TFFIF
• หุ้นเด่น ก.ย. (Smart Tactics) AOT, BDMS, CK, EASTW, PLANB, SABINA
ปัจจัยติดตาม
วันที่ ปท. เหตุการณ์
13 ก.ย. JP, US ผลผลิตภาคอุตฯ-อัตราใช้กำลังผลิตญี่ปุ่นใน ก.ค. (สุดท้าย), ยอดค้าปลีกสหรัฐฯ ใน ส.ค.
US ดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ ใน ก.ย. (เบื้องต้น), ดัชนีราคาสินค้านำเข้าสหรัฐฯ ใน ส.ค.
16 ก.ย. CH ยอดค้าปลีก, ผลสำรวจการว่างงาน, การลงทุนในอสังหาฯ และสินทรัพย์ถาวรจีนใน ส.ค.
CH, US ผลผลิตภาคอุตฯ จีนใน ส.ค., ผลสำรวจภาคการผลิต (Empire Manuf.) สหรัฐฯ ใน ก.ย.
ที่มา : Bloomberg, TISCO Research
อภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 18171
02-633-6467
: [email protected]
ธนพล บำรุงพงศ์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 46537
02-633-6471
: [email protected]