- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 12 September 2019 15:40
- Hits: 3355
บล.เออีซี : Daily Focus
AECS Daily Focus
--------------
Market Outlook
• คาด SET Index รีบาวด์ต่อเนื่อง ตามตลาดต่างประเทศที่มี Sentiment บวก จากประเด็นสงครามการค้าที่มีท่าทีผ่อนปรนขึ้นจากทั้งสองฝ่าย ขณะที่ นลท.ยังติดตามการประชุม ECB วันนี้ โดยคาดหวังต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และนโยบายทางการเงินที่ผ่อนคลาย ทั้งนี้ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของ SET วันนี้ที่ 1,670 -1,690 จุด
• Market Factor
• (+) ประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายโดนัลทรัมป์ ประกาศเลื่อนเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนมูลค่าสินค้า 2.5แสนล้านดอลลาร์ (มูลค่าสินค้าที่จะเรียกเก็บเพิ่มจากเดิม 25% เป็น 30%) โดยเลื่อนวันบังคับใช้จากเดิมวันที่ 1ต.ค. 62 เป็นวันที่ 15 ต.ค. 62 จากข้อเรียกร้องของจีนที่ตรงกับวันครบรอบ 70 ปีของการก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีน
• (+) จีนประกาศยกเว้นภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯในบางรายการเป็นจำนวน 16 รายการเป็นระยะเวลา 1ปีมีผลบังคับใช้วันที่ 17 ก.ย. 62 โดยเป็นสินค้าประเภทอาหารสำหรับปศุสัตว์ ยาต้านมะเร็ง และน้ำมันหล่อลื่น
• (watch) จับตาการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันนี้โดย ECB มีแนวโน้มที่จะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยใช้นโยบายการเงินครั้งใหม่และจับตาการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ในวันที่17-18 ก.ย. 62 โดยตลาดคาดจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 25 bps
• (+) ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เห็นชอบส่งเสริมการใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B10 ทดแทนน้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา B7 ขยายเวลาลดส่วนต่างราคาขายปลีก (B10ต่ำกว่าB7 ที่ 2 บ./ลิตรและ B20 ต่ำกว่า B7 ที่ 3 บ./ลิตร) มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.62 เป็นต้นไป พร้อมเห็นชอบการบังคับใช้ B10 เป็นน้ำมันดีเซลหมุนเร็วเกรดพื้นฐาน ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.63 โดยให้น้ำมัน B7 และ B20 เป็นทางเลือก (อินโฟวเควสท์)
• (-) FETCO เผยดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนประจำเดือน ก.ย. 2562 โดยดัชนีความเชื่อมั่นรวมทุกกลุ่ม นักลงทุนในอีก 3 เดือนข้างหน้า (พ.ย. 2562) ลดลง 21.70% มาอยู่ที่ระดับ 102.74 แต่ยังอยู่ในเกณฑ์ ทรงตัว โดยนักลงทุนให้น้ำหนักกับปัจจัยความขัดแย้งทางการค้าระหว่างประเทศ (ข่าวสด)
• (-) Consensus ปรับลดประมาณการ EPS โดยข้อมูลจาก Bloomberg Consensus พบว่าเมื่อต้นปี EPS ปี 62 ที่ 115.14 บาท ขณะที่ปัจจุบันเหลือเพียง 99.37 บาท หรือลดลง 13.70%YTD
• Update Flow เมื่อวานนี้ต่างชาติพลิกซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทย 1,446.3 ลบ.ส่งผลภาพรวม MTD ต่างชาติขายสุทธิลดลงเหลือ 3,754.19 ลบ. (ขณะที่รายย่อยและสถาบันซื้อสุทธิรวมกัน 1,292.11 ลบ.)
• Investment Strategy
• สัปดาห์นี้ เรามอง SET Index ยังคงแกว่งในกรอบ 1,650-1,690 จุดโดยนักลงทุนให้ความสนใจกับผล ECB ในการประชุมคืนวันพฤหัสบดีนี้เพื่อติดตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ออกมา ขณะที่ประเด็น Trade war มีสัญญาณบวกที่ดีขึ้น ลุ้นขึ้นทดสอบ 1,690 จุด ดังนั้นในกรณีที่หุ้นที่เราแนะนำยังขึ้นมา ไม่มาก หรือราคาปรับลงมาเราแนะนำให้นักลงทุนทยอยเก็บหุ้นหลัก 3 กลุ่มดังนี้
• หุ้นกลุ่มที่จะได้ประโยชน์จากแผนกระตุ้น ศก.ของรัฐฯ: เรามองว่าครม. ชุดใหม่ที่มีการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการจะเร่งออกนโยบายกระตุ้น ศก. ในระยะสั้นเพื่อพยุง ศก. เราจึงแนะนำหุ้นที่ได้ประโยชน์และมี Upside ได้แก่ BJC (ช่วง 2H62 คาดเห็นการฟื้นตัว HoH จากการขยายสาขา BigC มากขึ้นจากสาขาทั้งในประเทศ 7 สาขาและสาขาที่กัมพูชา 1 สาขา BigC Food Place 1 สาขาและ Mini BigC ราว 200 สาขา), SEAFCO (แม้ช่วง 2H62 คาดรับรู้งานลดลง แต่ยังมี Backlog 2.3 พัน ลบ. คาด Secured Revenue 100% ในช่วงที่เหลือของปีนี้ บวกกับยังมี Upside Risk จากงานประมูลใหม่อีก 1.9 หมื่นลบ.), CPALL (ช่วง 3Q62 แม้เข้าสู่ Low Season แต่ด้วยการจัดโปรโมชั่น แสตมป์จัดหนักกระตุ้นยอดขาย และการได้ประโยชน์จากฐานที่ต่ำของปีก่อนจะหนุนSSSG เติบโตต่อเนื่อง พร้อมยังคงเป้าขยายสาขาร้านสะดวกซื้อปีนี้ที่ 700 สาขา), ERW (ช่วง 2H6 หลังคาดฟื้นตัวจากปัจจัยฤดูกาล บวกกับการกลับมาเปิดโรงแรมใหม่ 9 แห่ง อีกทั้งมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวจาก ครม.และมีสัญญาณฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวชาวจีน หลังจำนวนนักท่องเที่ยวจีนเดือน ส.ค. โต 15.6%YoY)
• กลุ่ม Defensive Stock: เราเลือกหุ้นที่มีอัตราจ่ายปันผลน่าดึงดูดบวกกับกำไรช่วง 2H62 มีแนวโน้มโตดี แนะนำ ASK (ช่วง 2H62 คาดกำไรสุทธิมีแนวโน้มโตต่อ หนุนด้วยสินเชื่อรถพาณิชย์ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามงานก่อสร้างภาครัฐฯที่จะทยอยเร่งตัวขึ้นบวกกับคาดได้ประโยชน์จากการทยอยเปลี่ยนรถตู้เป็นรถ มินิบัสของผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะตามมาตรการของ ขสมก.
• กลุ่มที่คาดผลดำเนินงานมีแนวโน้มดีต่อเนื่อง: เหมาะกับการทยอยซื้อสะสม โดยเน้นหุ้นที่กำไรช่วง 2Q62 คาดโต YoYและช่วง 2H62 โตต่อ แนะนำ SAWAD (คาดกำไรปี 62 โต30.8%YoY หนุนด้วยเป้าพอร์ตสินเชื่อโต 20-30% และอีก 300 สาขา, Asset Yield ฟื้นตัวตามสัดส่วนการรับรู้รายได้ผ่านสัญญาเงินกู้ผ่าน BFIT ที่มากขึ้นโดยล่าสุด SAWAD รายงานการถือครองหุ้น BFIT หลัง Tender Offer ที่ 82.04% บวกกับต้นทุนทางการเงินที่ปรับลงหลังได้รับเงินเพิ่มทุนจากพันธมิตร), SELIC (คาดปี62 เห็นการ Turnaround ของกำไรสุทธิหลังเริ่มรวมงบการเงินกับ PMCT ซึ่งคาดเห็น Synergy ชัดเจนขึ้นตามลำดับทั้งในด้านการพัฒนาสินค้าใหม่และการขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มใหม่อีกทั้งยังไม่มีค่าใช้จ่ายเพื่อปรับโครงสร้างธุรกิจมากเช่นปีก่อน), III (ช่วง 2Q62 กำไรโต 45.8%YoY หนุนด้วยธุรกิจขนส่งสินค้าทางอากาศและธุรกิจบริหารจัดการโลจิสติกส์ บวกกับมีส่วนแบ่งกำไรที่โต 364%YoY จากธุรกิจที่เข้าซื้อกิจการสิงคโปร์และฮ่องกงในปี 61-62 ตามลำดับ)
• Trading Idea
• หุ้นที่ได้รับผลประโยชน์หลังพายุ “โพดุล” สงบ: เราเลือก SPC, DOHOME, GLOBAL, DCC
• กลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นภาษีความหวานของเครื่องดื่ม : เราแนะนำ Short Selling หรือ Short Aginst Port ในหุ้น ICHI
11-Sep-19 Change (pts.) 10-Sep-19
SET Index 1,674.03 8.10 1,665.93
SET50 Index 1,115.39 7.98 1,107.41
SET100 Index 2,460.53 16.73 2,443.80
High 1,674.73 Gainers 771
Low 1,661.66 Unchanged 376
Value (Bt m) 71,227.76 Losers 855
Volume (*000) 19,837,745
Market Valuation
SET Data 2018F 2019F Long Term
Fwd PER (x) 15.9 14.3 14.3
EPS Growth (%) 13.9 9.3 1.8
EV/EBITDA (x) 10.9 10.0 9.6
FWD PBV (x) 1.8 1.7 1.6
Dividend Yield (%) 3.1 3.5 3.7
ROE 11.0 11.2 11.2
Net Buy/Sell by Investor Types
Unit : M Bt 11-Sep-19 WTD MTD YTD
Institution (932.32) (142.86) 3,934.48 37,285.44
Proprietary 1,288.48 1,775.32 1,173.58 2,462.06
Foreign 1,446.30 (292.21) (5,200.49) (3,754.19)
Individual (1,802.46) (1,340.25) (839.90) (2,642.35)
AECS ( Fundamental and Strategic Team )
จิรภัทร โบสุวรรณ (ID. 040051) [email protected]
ภัทรพล จันทร์อินทร์ (ID. 089932) [email protected]
ธีรยุทธ ฤทธิเผ่าพันธุ์ ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์ Data Support / Secretary