- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 11 September 2019 15:43
- Hits: 3263
บล.เออีซี : Daily Focus
AECS Daily Focus
--------------
Market Outlook
• วันนี้คาด SET Index แกว่งพักตัวในกรอบ 1,660-1,670 จุด มองตลาดให้น้ำหนักกับปัจจัยต่างประเทศจากการประชุม ECB ในวันพรุ่งนี้และ FED ช่วงกลางสัปดาห์หน้า โดยมีความคาดหวังต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และนโยบายทางการเงินที่ผ่อนคลายเพื่อรองรับการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ
• Market Factor
• (watch) จับตาการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันที่12 ก.ย. 62 โดยECB มีแนวโน้มที่จะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยใช้นโยบายการเงินครั้งใหม่และจับตาการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ในวันที่ 17-18 ก.ย. 62 โดยตลาดคาดจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 25 bps
• (+) ที่ประชุม ครม. วานนี้มีมติอนุมัติให้ขยายเวลาการใช้อัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ที่ 7% ออกไปอีก 1 ปี(จากเดิมสิ้นสุด 30 ก.ย. 62), และมีการปรับปรุงเงื่อนไขมาตรการ "ชิม ช็อป ใช้" ให้ร้านค้าเข้าร่วมมากขึ้นพร้อมไฟเขียวมาตรการลงทุนลดหย่อนภาษี 50% นาน 5 ปี ตามแผนกระตุ้นของ ครม.เศรษฐกิจ เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา นอกจากนี้ได้เสนอกรอบงบประมาณปี 63โดยกระทรวงคลัง วงเงิน 60,000 ล้านบาท สำหรับใช้ทำโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (สำนักข่าวอินโฟเควสท์)
• (+) กทท.รายงานตัวเลขนักท่องเที่ยวช่วงเดือน ม.ค.-ส.ค.62 อยู่ที่ 26.50 ล้านคน เพิ่มขึ้น 2.61%YoY ขณะที่รายได้อยู่ที่ 1.3 ล้านล้านบาท ขยายตัว 3.04%YoY (สำนักข่าวอินโฟเควสท์)
• (-) Consensus ปรับลดประมาณการ EPS โดยข้อมูลจาก Bloomberg Consensus พบว่าเมื่อต้นปี EPS ปี 62 ที่ 115.14 บาท ขณะที่ปัจจุบันเหลือเพียง 99.56บาท หรือลดลง 13.53%YTD
• Update Flow เมื่อวานนี้ต่างชาติกลับมาขายสุทธิในตลาดหุ้นไทยอีก 2,637.25 ลบ.ส่งผลภาพรวม MTD ต่างชาติขายสุทธิลดลงเหลือ 5,200.49 ลบ.(ขณะที่รายย่อยและสถาบันซื้อสุทธิรวมกัน 4,026.89 ลบ.)
• Investment Strategy
• สัปดาห์นี้ เรามอง SET Index ยังคงแกว่งในกรอบ 1,650-1,690 จุด โดยนักลงทุนให้ความสนใจกับผลECB ในการประชุมคืนวันพฤหัสบดีนี้เพื่อติดตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ออกมา ขณะที่ ครม.ยังคงมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ดังนั้นเรายังคงแนะนำให้นักลงทุนทยอยเก็บเข้าพอร์ตในหุ้นหลัก 3 กลุ่ม ดังนี้
• หุ้นกลุ่มที่จะได้ประโยชน์จากแผนกระตุ้น ศก.ของรัฐฯ: เรามองว่า ครม. ชุดใหม่ที่มีการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการจะเร่งออกนโยบายกระตุ้น ศก. ในระยะสั้นเพื่อพยุง ศก. เราจึงแนะนำหุ้นที่ได้ประโยชน์และมี Upside ได้แก่ BJC (ช่วง 2H62 คาดเห็นการฟื้นตัว HoH จากการขยายสาขา BigC มากขึ้นจากสาขาทั้งในประเทศ 7 สาขาและสาขาที่กัมพูชา 1 สาขา BigC Food Place 1 สาขาและ Mini BigC ราว 200 สาขา), SEAFCO (แม้ช่วง 2H62 คาดรับรู้งานลดลง แต่ยังมี Backlog 2.3 พัน ลบ. คาด Secured Revenue 100% ในช่วงที่เหลือของปีนี้ บวกกับยังมี Upside Risk จากงานประมูลใหม่อีก 1.9 หมื่นลบ.), CPALL (ช่วง 3Q62 แม้เข้าสู่ Low Season แต่ด้วยการจัดโปรโมชั่น แสตมป์จัดหนักกระตุ้นยอดขาย และการได้ประโยชน์จากฐานที่ต่ำของปีก่อนจะหนุน SSSG เติบโตต่อเนื่อง พร้อมยังคงเป้าขยายสาขาร้านสะดวกซื้อปีนี้ที่ 700 สาขา), ERW (ช่วง 2H6 หลังคาดฟื้นตัวจากปัจจัยฤดูกาล บวกกับการกลับมาเปิดโรงแรมใหม่ 9 แห่ง อีกทั้งมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวจาก ครม.และมีสัญญาณฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวชาวจีน หลังจำนวนนักท่องเที่ยวจีนเดือน ส.ค. โต 15.6%YoY)
• กลุ่ม Defensive Stock: เราเลือกหุ้นที่มีอัตราจ่ายปันผลน่าดึงดูดบวกกับกำไรช่วง 2H62 มีแนวโน้มโตดี แนะนำ ASK (ช่วง 2H62 คาดกำไรสุทธิมีแนวโน้มโตต่อ หนุนด้วยสินเชื่อรถพาณิชย์ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามงานก่อสร้างภาครัฐฯ ที่จะทยอยเร่งตัวขึ้นบวกกับคาดได้ประโยชน์จากการทยอยเปลี่ยนรถตู้เป็นรถ มินิบัสของผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะตามมาตรการของ ขสมก.
• กลุ่มที่คาดผลดำเนินงานมีแนวโน้มดีต่อเนื่อง: เหมาะกับการทยอยซื้อสะสม โดยเน้นหุ้นที่กำไรช่วง 2Q62 คาดโต YoYและช่วง 2H62 โตต่อ แนะนำ SAWAD (คาดกำไรปี 62 โต 30.8%YoY หนุนด้วยเป้าพอร์ตสินเชื่อโต 20-30% และอีก 300 สาขา, Asset Yield ฟื้นตัวตามสัดส่วนการรับรู้รายได้ผ่านสัญญาเงินกู้ผ่าน BFIT ที่มากขึ้นโดยล่าสุด SAWAD รายงานการถือครองหุ้น BFIT หลัง Tender Offer ที่ 82.04% บวกกับต้นทุนทางการเงินที่ปรับลงหลังได้รับเงินเพิ่มทุนจากพันธมิตร), SELIC (คาดปี62 เห็นการTurnaround ของกำไรสุทธิหลังเริ่มรวมงบการเงินกับ PMCT ซึ่งคาดเห็น Synergy ชัดเจนขึ้นตามลำดับทั้งในด้านการพัฒนาสินค้าใหม่และการขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มใหม่อีกทั้งยังไม่มีค่าใช้จ่ายเพื่อปรับโครงสร้างธุรกิจมากเช่นปีก่อน), III (ช่วง 2Q62 กำไรโต 45.8%YoY หนุนด้วยธุรกิจขนส่งสินค้าทางอากาศและธุรกิจบริหารจัดการโลจิสติกส์ บวกกับมีส่วนแบ่งกำไรที่โต 364%YoY จากธุรกิจที่เข้าซื้อกิจการสิงคโปร์และฮ่องกงในปี 61-62 ตามลำดับ)
• Trading Idea
• หุ้นที่ได้รับผลประโยชน์หลังพายุ “โพดุล”สงบ: เราเลือก SPC, DOHOME, GLOBAL, DCC
• กลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นภาษีความหวานของเครื่องดื่ม : เราแนะนำShort Selling หรือ Short Aginst Port ในหุ้น ICHI และ MALEE
10-Sep-19 Change (pts.) 9-Sep-19
SET Index 1,665.93 -5.29 1,671.22
SET50 Index 1,107.41 -3.16 1,110.57
SET100 Index 2,443.80 -6.99 2,450.79
High 1,677.47 Gainers 528
Low 1,662.28 Unchanged 463
Value (Bt m) 58,277.80 Losers 988
Volume (*000) 19,431,289
Market Valuation
SET Data 2018F 2019F Long Term
Fwd PER (x) 15.9 14.3 14.3
EPS Growth (%) 13.9 9.3 1.8
EV/EBITDA (x) 10.9 10.0 9.6
FWD PBV (x) 1.8 1.7 1.6
Dividend Yield (%) 3.1 3.5 3.7
ROE 11.0 11.2 11.2
Net Buy/Sell by Investor Types
Unit : M Bt 10-Sep-19 WTD MTD YTD
Institution 2,099.75 789.46 4,866.80 37,285.44
Proprietary 211.84 486.84 1,173.58 8,582.21
Foreign (2,637.25) (1,738.51) (5,200.49) 1,228.46
Individual 325.66 462.21 (839.90) (47,096.12)
AECS ( Fundamental and Strategic Team )
จิรภัทร โบสุวรรณ (ID. 040051) [email protected]
ภัทรพล จันทร์อินทร์ (ID. 089932) [email protected]
ธีรยุทธ ฤทธิเผ่าพันธุ์ ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์ Data Support / Secretary