WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

logo aceบล.เออีซี : Daily Focus
AECS Daily Focus
--------------
Market Outlook
•    คงมุมมอง SET Index ลุ้นรีบาวด์ คาดหวังแนวต้านแรกที่ 1,680 จุด คาดตลาดได้ปัจจัยหนุนต่างประเทศ จากราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับเพิ่มขึ้นราว 2% วานนี้ ขณะที่ นลท.ติดตามการประชุม ECB สัปดาห์นี้ โดยคาดหวังต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และนโยบายทางการเงินที่ผ่อนคลายเพื่อรองรับการชะลอทางเศรษฐกิจ ประเมินกรอบเคลื่อนไหวของ SET วันนี้ที่ 1,665-1,680 จุด
•    Market Factor
•    (+) สัญญาน้ำมันดิบ WTI และ Brent วานนี้ปิดบวก 2.4%DoD และ 1.7%DoD ตามลำดับหลังรัฐมนตรีพลังงานคนใหม่ของซาอุฯ จะทำการลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบตามข้อตกลงเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
•    (watch) จับตาการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันที่ 12 ก.ย. 62 โดย ECB มีแนวโน้มที่จะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยใช้นโยบายการเงินครั้งใหม่
•    (+) ททท.เผยจำนวน นทท.ต่างชาติที่เดินทางมาไทย เดือน ส.ค.ราว 3.4 ล้านคน ขยายตัว 5.60%YoY      สร้างรายได้คิดเป็นมูลค่า 1.7 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.12%YoY นำโดย จีน มาเลเซีย และญี่ปุ่น เป็น 3ชาติแรกที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทยมากสุด
•    (-) กรมสรรพสามิต จะมีการปรับการเก็บภาษีความหวานจากผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มเป็นแบบภาษีขั้นบันได ในวันที่ 1 ต.ค.2562 นี้ คาดอัตราภาษีใหม่จะทำให้สามารถจัดเก็บภาษีความหวานเพิ่มเป็น 3,500-4,000 ลบ./ปี (จากเดิม 2,000-3,000 ลบ./ปี)  (โพสต์ทูเดย์)
•    (-) Consensus ปรับลดประมาณการ EPS โดยข้อมูลจาก Bloomberg Consensus พบว่าเมื่อต้นปี EPS ปี 62 ที่ 115.14 บาท ขณะที่ปัจจุบันเหลือเพียง 99.82 บาท หรือลดลง 13.31%YTD
•    Update Flow เมื่อวานนี้ต่างชาติพลิกกลับมาซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทย 898.74 ลบ.ส่งผลภาพรวม MTD ต่างชาติขายสุทธิลดลงเหลือ 2,563.24 ลบ. (ขณะที่รายย่อยและสถาบันซื้อสุทธิรวมกัน 1,601.48 ลบ.)
•    Investment Strategy
•    สัปดาห์นี้ เรามอง SET Index ปรับขึ้นด้วย Upside จำกัดในโซน 1,690 จุด แต่หากย่อคาดไม่หลุด 1,650 จุด โดยมีปัจจัยบวกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากการประชุม ครม.บวกกับนักลงทุนรอติดตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจาก ECB ในการประชุมสัปดาห์นี้ ดังนั้นเรายังคงแนะนำให้นักลงทุนทยอยเก็บเข้าพอร์ตในหุ้นหลัก 3 กลุ่ม ดังนี้
•    หุ้นกลุ่มที่จะได้ประโยชน์จากแผนกระตุ้น ศก.ของรัฐฯ: เรามองว่า ครม. ชุดใหม่ที่มีการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการจะเร่งออกนโยบายกระตุ้น ศก. ในระยะสั้นเพื่อพยุง ศก. เราจึงแนะนำหุ้นที่ได้ประโยชน์และมี Upside ได้แก่ BJC (ช่วง 2H62 คาดเห็นการฟื้นตัว HoH จากการขยายสาขา BigC มากขึ้นจากสาขาทั้งในประเทศ 7 สาขา และสาขาที่กัมพูชา 1 สาขา BigC Food Place 1 สาขา และ Mini BigC ราว 200 สาขา), SEAFCO (แม้ช่วง 2H62 คาดรับรู้งานลดลง แต่ยังมี Backlog 2.3 พัน ลบ. คาด Secured Revenue 100% ในช่วงที่เหลือของปีนี้ บวกกับยังมี Upside Risk จากงานประมูลใหม่อีก 1.9 หมื่นลบ.), CPALL (ช่วง 3Q62 แม้เข้าสู่ Low Season แต่ด้วยการจัดโปรโมชั่น แสตมป์จัดหนักกระตุ้นยอดขาย และการได้ประโยชน์จากฐานที่ต่ำของปีก่อนจะหนุน SSSG เติบโตต่อเนื่อง พร้อมยังคงเป้าขยายสาขาร้านสะดวกซื้อปีนี้ที่ 700 สาขา), ERW (ช่วง 2H6 หลังคาดฟื้นตัวจากปัจจัยฤดูกาล บวกกับการกลับมาเปิดโรงแรมใหม่ 9 แห่ง อีกทั้งมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวจาก ครม.และมีสัญญาณฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวชาวจีน หลังจำนวนนักท่องเที่ยวจีนเดือน ส.ค. โต 15.6%YoY)
•    กลุ่ม Defensive Stock: เราเลือกหุ้นที่มีอัตราจ่ายปันผลน่าดึงดูดบวกกับกำไรช่วง 2H62 มีแนวโน้มโตดี แนะนำ ASK (ช่วง 2H62 คาดกำไรสุทธิมีแนวโน้มโตต่อ หนุนด้วยสินเชื่อรถพาณิชย์ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามงานก่อสร้างภาครัฐฯที่จะทยอยเร่งตัวขึ้นบวกกับคาดได้ประโยชน์จากการทยอยเปลี่ยนรถตู้เป็นรถ   มินิบัสของผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะตามมาตรการของ ขสมก.
•    กลุ่มที่คาดผลดำเนินงานมีแนวโน้มดีต่อเนื่อง: เหมาะกับการทยอยซื้อสะสม โดยเน้นหุ้นที่กำไรช่วง 2Q62 คาดโต YoY และช่วง 2H62 โตต่อ แนะนำ SAWAD (คาดกำไรปี 62 โต30.8%YoY หนุนด้วยเป้าพอร์ตสินเชื่อโต 20-30% และอีก 300 สาขา,  Asset Yield ฟื้นตัวตามสัดส่วนการรับรู้รายได้ผ่านสัญญาเงินกู้ผ่าน BFIT ที่มากขึ้นโดยล่าสุด SAWAD รายงานการถือครองหุ้น BFIT หลัง Tender Offer ที่ 82.04% บวกกับต้นทุนทางการเงินที่ปรับลงหลังได้รับเงินเพิ่มทุนจากพันธมิตร), SELIC (คาดปี 62 เห็นการ Turnaround ของกำไรสุทธิหลังเริ่มรวมงบการเงินกับ PMCT  ซึ่งคาดเห็น Synergy ชัดเจนขึ้นตามลำดับทั้งในด้านการพัฒนาสินค้าใหม่และการขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มใหม่อีกทั้งยังไม่มีค่าใช้จ่ายเพื่อปรับโครงสร้างธุรกิจมากเช่นปีก่อน), III (ช่วง 2Q62 กำไรโต 45.8%YoY หนุนด้วยธุรกิจขนส่งสินค้าทางอากาศและธุรกิจบริหารจัดการโลจิสติกส์ บวกกับมีส่วนแบ่งกำไรที่โต 364%YoY จากธุรกิจที่เข้าซื้อกิจการสิงคโปร์และฮ่องกงในปี 61-62 ตามลำดับ)
•    Trading Idea
•    หุ้นที่ได้รับผลประโยชน์หลังพายุ “โพดุล” สงบ: เราเลือก SPC, DOHOME, GLOBAL,DCC
•    กลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นภาษีความหวานของเครื่องดื่ม : เราแนะนำ Short Selling หรือ Short  Aginst Port ในหุ้น ICH Iและ MALEE
    9-Sep-19    Change (pts.)    6-Sep-19
SET Index    1,671.22    1.16    1,670.06
SET50 Index    1,110.57    1.37    1,109.20
SET100 Index    2,450.79    1.90    2,448.89
 
High    1,676.62    Gainers    456
Low    1,666.61    Unchanged    505
Value (Bt m)    46,745.68    Losers    925
Volume (*000)    16,597,193         
Market Valuation
SET Data    2018F    2019F    Long Term
Fwd PER (x)    15.9    14.3    14.3
EPS Growth (%)    13.9    9.3    1.8
EV/EBITDA (x)    10.9    10.0    9.6
FWD PBV (x)    1.8    1.7    1.6
Dividend Yield (%)    3.1    3.5    3.7
ROE    11.0    11.2    11.2
Net Buy/Sell by Investor Types
Unit : M Bt    9-Sep-19    WTD    MTD    YTD
Institution    (1,310.29)    (1,310.29)    2,767.05    35,185.69
Proprietary    275.00    275.00    961.74    8,370.38
Foreign     898.74    898.74    (2,563.24)    3,865.71
Individual    136.55    136.55    (1,165.55)    (47,421.78)
AECS ( Fundamental and Strategic Team )
จิรภัทร  โบสุวรรณ (ID. 040051)    [email protected]
ภัทรพล จันทร์อินทร์ (ID. 089932)    [email protected]
ธีรยุทธ  ฤทธิเผ่าพันธุ์    ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์    Data Support / Secretary
 
 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!