- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 09 September 2019 17:09
- Hits: 4211
บล.ทิสโก้ : M a r k e t I n s i g h t
สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET +0.27 จุด แกว่งขึ้น 3 วันติด ปัจจัยตปท.ผ่อนคลาย
SET ปรับขึ้น 3 วันติด จากปัจจัยตปท.ผ่อนคลาย ทั้งความชัดเจนในการเริ่มสู่โต๊ะเจรจาการค้าสหรัฐฯ-จีนอีกครั้งในต้นเดือนหน้า และความเสี่ยงเชิงภูมิรัฐศาสตร์ที่ลดลง อย่างไรก็ดี มีแรงขายล็อกกำไรระยะสั้น ทำให้ SET แกว่งตัวลดช่วงบวกลง ต่างชาติขายสุทธิ 1.52 พันลบ. 2 วันติด แต่ยัง Long S50 Futures 4,049 สัญญา 8 วันติด
ทิศทางตลาดวันนี้ : ซิกแซกขึ้น ปธ.FED เชื่อมั่นศก.สหรัฐฯ ไม่เข้าสู่ภาวะถดถอย
หุ้นโลกเมื่อวันศุกร์ (6 ก.ย.) ส่วนใหญ่บวกต่อ แม้การจ้างงานสหรัฐฯ น้อยกว่าคาด (จริง 130K vs คาด 160K) แต่ปธ.FED ระบุศก.สหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่ง ไม่ได้กำลังตกอยู่ในภาวะศก.ถดถอย และพร้อมสนับสนุนการขยายตัวทางศก. โดยตลาดขณะนี้มองโอกาสที่ FED จะลดดบ. 0.25% ในการประชุม 17-18 ก.ย. อยู่สูงกว่าระดับ 90% ด้านราคาน้ำมันดิบ WTI ขยับขึ้น 22 เซนต์ หรือ +0.4% มาปิดที่ 56.52 $/บาร์เรล ได้แรงหนุนจาก FED จะลดดบ.ลงในเดือนนี้ และจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐฯ ลดลง 3 สัปดาห์ติด มอง SET ยังมีทิศทางแกว่งซิกแซกขึ้น ปัจจัยตปท.ทยอยผ่อนคลายไปในทางที่ดีขึ้นต่อเนื่อง นอกจากการเข้าสู่โต๊ะเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีนในต้นเดือนหน้า และความเสี่ยงเชิงภูมิรัฐศาสตร์ที่ลดลงแล้ว ล่าสุด ธ.กลางจีนประกาศลดสัดส่วนกันสำรองธนาคาร (RRR) ลง 0.50% มีผล 16 ก.ย. คาดจะหนุนสภาพคล่องในระบบเพิ่มขึ้น 9 แสนล้านหยวน หรือ 1.26 แสนล้านดอลลาร์ฯ เป็นผลดีต่อบรรยากาศการลงทุนโดยรวม นอกจากนี้ การประชุม ECB (12 ก.ย.) และ FED (17-18 ก.ย.) คาดจะผ่อนคลายการเงินเพิ่ม ด้านปัจจัยในปท. ครม.ศก.เคาะแพคเกจกระตุ้นการลงทุน 7 ด้าน แนวรับ 1665+/-, 1656 แนวต้าน 1675-80 อนึ่ง DOD-W1 ไม่ติด Cash Balance แล้ว กลับมาซื้อขายตามเกณฑ์ปกติวันนี้เป็นวันแรก
กลยุทธ์การลงทุน : ขึ้นขาย-ย่อซื้อคืน, กรอบเก็งกำไร 1640-1700
แนะเก็งกำไรอย่างระมัดระวัง ขึ้นเน้นขายล็อกกำไร ย่อตัวซื้อคืน เล็งเป้า SET 1690-1700 แต่หาก SET ปิดต่ำกว่า 1660 มองจะเข้าสู่ช่วงพักฐาน และยังใช้ Stop เมื่อ SET ปิดต่ำวก่า 1640
• ประเด็นหุ้นน่าสนใจ Fundamental Pick ORI – บ.คาดว่ายอดขายปีนี้จะทำได้เกินเป้าที่ 2.8 หมื่นลบ. โดยปัจจุบันทำได้แล้ว 1.85 หมื่นลบ. ขณะที่ในช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้จะเปิด 8 โครงการใหม่ รวมมูลค่า 1.2 หมื่นลบ., ปัจจุบันมียอดขายรอโอน 3.6 หมื่นลบ. ทยอยรับรู้รายได้ในช่วง 3 ปีข้างหน้า, PER ปีนี้จะอยู่ที่ประมาณ 9x ปีหน้าจะลดลงเป็น 8x และ 7x ในปี 2021F ขณะที่มี Div. Yield 3% ต่อปี, เป้าพื้นฐาน 11.1 บ. / หุ้นคาดจะได้ประโยชน์จากซ่อมแซมหลังพายุถล่ม – HMPRO, GLOBAL, SCC, TASCO / FTSE ทบทวนดัชนีฯ เริ่มมีผล 23 ก.ย. (ใช้ราคาปิด 20 ก.ย.) ปรับขึ้นจาก Mid to Large Cap – EGCO / ปรับขึ้นจาก Small to Mid Cap – BGRIM, KTC / เข้า Small Cap – PLANB, THANI, THG ไม่มีออก / Micro Cap เข้า – AMANAH, QHHR, SSP, TWZ, ZEN ออก – AJ, APCS, AQ, BOFFICE, CM, CTW, FNS, FSS, IT, LEE, MILL, MJLF, MODERN, PAP, PL, PRM, SGP, SITHAI, SKN, SSSC, SUC, THIP, TPRIME, TR, TRUBB, TWPC, VNG / หุ้นรับมาตรการรัฐกระตุ้นบริโภคฐานราก – CPALL, BJC, AEONTS, KTC, MTC / การลงทุน – AMATA, ROJNA, WHA, EASTW, CK, SEAFCO, PYLON การท่องเที่ยว - AOT, MINT, ERW / หุ้น 3 กลุ่มที่พิสูจน์แล้วว่า “Outperform” จากสงครามการค้ารอบก่อน (1) TRANS – ชอบ BEM, BTS (2) HELTH – BDMS, EKH (3) COMM – BJC, CPALL ผสานหุ้นเชิงรับปันผลดี - EASTW, EGCO, MAJOR, RATCH รวมทั้งหุ้นใน PF&REIT&IFF - QHPF, CPNREIT, WHART, EGATIF, JASIF, DIF, TFFIF
• หุ้นเด่น ก.ย. (Smart Tactics) AOT, BDMS, CK, EASTW, PLANB, SABINA
ปัจจัยติดตาม
วันที่ ปท. เหตุการณ์
9 ก.ย. JP GDP ญี่ปุ่นใน 2Q19 (สุดท้าย), ดุลบัญชีเดินสะพัดญี่ปุ่นใน ก.ค.
CH ปริมาณเงินในระบบ (M0 & M1 & M2) และการปล่อยสินเชื่อเงินหยวนของจีนใน ส.ค.
10 ก.ย. JP, CH การเปลี่ยนแปลงปริมาณเงินญี่ปุ่นใน ส.ค., ดัชนีราคาผู้ผลิต-ผู้บริโภคจีนใน ส.ค.
11 ก.ย. CH ตัวเลขการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศของจีนในเดือน ส.ค.
US ดัชนีราคาผู้ผลิตสหรัฐฯ ใน ส.ค., สต็อกสินค้าภาคค้าส่งสหรัฐฯ ใน ก.ค. (สุดท้าย)
ที่มา : Bloomberg, TISCO Research
Market Insight
E-mail :[email protected]