- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 05 September 2019 16:10
- Hits: 2227
บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ภาวะตลาดและปัจจัย : SET วานนี้ +16.39 จุด ปิดที่ 1658.64 จุด มูลค่าการซื้อขายเพิ่มเป็น 64.8.7 พันล้านบาท ดัชนีฯบ้านเราปรับขึ้นดีกว่าภูมิภาค หลังฮ่องกงผ่อนคลายจะยกเลิกส่งผู้ร้ายไปจีน และมีข่าวไทยอาจได้ปรับเครดิตเพิ่ม ผู้ขายสุทธิคือ รายย่อย 2.0 พันล้านบาท ส่วนซื้อสุทธิเป็นต่างชาติ สถาบัน และโบรกเกอร์ ต่างชาติกลับมาซื้อเป็นครั้งแรกในรอบเดือน ก.ย.นี้ ตั้งแต่ต้นเดือนถึงปัจจุบันต่างชาติขายสุทธิเป็น 1.8 พันล้านบาท ด้านแนวโน้มตลาดและกลยุทธ์คือ
# ปัจจัยสำคัญ: พลิกบวก สถานการณ์ฮ่องกงคลี่คลาย มูดี้ส์อาจปรับเพิ่มเครดิต น้ำมันพุ่ง รายงาน Beige Book ของเฟดออกมาดี เช่นเดียวกับ PMI ภาคบริการจีนออกมาเพิ่มเด่น Brexit ก็มีแนวโน้มดีขึ้น หลังรัฐสภาออกกฏปัองกันออกแบบไร้ข้อตกลง เงินบาทแข็งค่า มีเงินไหลเข้าไทย ดัชนีความกังวลลดลงเป็น 17.33 จุด ตลาดหุ้นเพื่อนบ้านเช้านี้บวกถ้วนหน้า ดาวโจนส์ล่วงหน้าปรับขึ้น และเช้านี้ไม่เกิด IYC อย่างไรก็ตามปัจจัยสำคัญที่ยังต้องติดตามคือ การเจรจาการค้าจีน-สหรัฐ ผลประชุมเฟด และนโยบายกระตุ้นศก.ไทยรอบ 2
# ระยะสั้นคาด SET- มีโมเมนตัมปรับขึ้นได้ต่อจากวานนี้ หลังมีปัจจัยบวกเข้ามามาก คาดซื้อขายในกรอบ 1650-1680 จุด ปัจจัยไม่แน่นอนยังเป็นการเจรจาการค้าจีน-สหรัฐ แต่ข่าวหนุนคือ ครม.เศรษฐกิจจะพิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้านการลงทุน ส่งออก ท่องเที่ยวเพิ่ม 6 ก.ย.นี้ และเฟดพิจารณาปรับลดดอกเบี้ย 17-18 ก.ย. น่าจะมีการปรับลดดอกเบี้ยอีกครั้ง และ กนง.ประชุม 25 ก.ย.จะลดดอกเบี้ยอีกหรือไม่ คาดว่าหลักทรัพย์ขนาดใหญ่ส่วนใหญ่จะแกว่งตัวขึ้นดี กลยุทธ์ คือ เลือกลงทุนเป็นรายกลุ่มและรายตัว (Selective) แนวต้านเป็น 1670-1680 จุด แนวรับอยู่ที่ 1610-1580 จุด สำหรับการลงทุนทยอยซื้อสะสม กลุ่มหลักทรัพย์ที่แนะนำ มีพื้นฐานแข็งแกร่ง หาจังหวะทยอยสะสมได้ คือ โรงกลั่น- TOP พาณิชย์- CPALL, BJC ท่องเที่ยว- ERW,MINT ขนส่ง AOT,BEM,BTS อาหาร CPF,TU,TKN สื่อสาร- ADVANC ธนาคาร,ไฟแนนซ์- KKP,TISCO, AEONTS,MTC การแพทย์- RJH,CHG นิคมฯ- AMATA, WHA ที่อยู่อาศัย- AP, ORI กลุ่ม REITs,IFF- AIMIRT,DREIT,HREIT,DIF และสื่อ- VGI
# Stock Pick Today : BJC อัตราภาษีเงินได้จะยังต่ำต่อไปในครึ่งหลังปีนี้ เพราะได้สิทธิประโยชน์ BOI ส่วนธุรกิจบรรจุภัณฑ์คาดว่าจะกลับมาฟื้นตัวดี ตั้งแต่งวดปีหน้าเป็นต้นไป เนื่องจากในช่วง 2H62 อยู่ในช่วงการปรับตัว จากลูกค้าคาราบาวที่ลดคำสั่งซื้อลง และจะรองรับลูกค้าใหม่ในกลุ่ม เครื่องดื่มชูกำลัง กาแฟ และน้ำผลไม้ทดแทน คาดการณ์อัตราการเติบกำไรปีนี้เป็น +6% y-o-y และเพิ่มขึ้น +13% y-o-y ในปี 63 คงคำแนะนำ ซื้อ เราประเมินราคาพื้นฐานเป็น 63.00 บาท ซึ่งประเมินด้วยวิธี DCF
การวิเคราะห์ทางเทคนิค ระยะสั้น สัญญาณ Candlestick & Indicators เปลี่ยนกลับเป็นบวกเล็กๆอีกครั้ง {"ปิดบวกแรง"เหนือ"SMA10 วัน" (แต่ยังถูกกดดันจาก"โครงสร้างขาลง - ระยะกลาง")} ชี้ความน่าจะเป็นของตลาดฯวันนี้"แกว่ง"แบบมีรีบาวด์ฯสั้นๆก่อน(แล้วจึงลงต่ำ,ตามมา)ได้ แนวต้าน 1670 (หรือ 1680) จุด {แนวตัดขาดทุน "ต่ำกว่า 1650" (แนวรับย่อย "1610 / 1590 - 1580" จุด}
สำหรับการ Scan หุ้นที่มีโอกาสทำ New high ที่เข้ามาใหม่เป็น ROJNA,BGRIM,TOP,MINT,AOT,JWD,GLOBAL ที่ยังคงอยู่ใน List ได้แก่ SISB,FPT หุ้นที่หลุด List คือ COM7,BCG,EPCO และที่ให้หาจังหวะTake profit TASCO,CENTEL,TPOLY,TPCH
Thailand Research Team : reseach-th.dbs.com