- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 04 September 2019 15:58
- Hits: 2901
บล.เออีซี : Daily Focus
Market Outlook
วันนี้มอง SET Index ลุ้นพักตัวไม่หลุด 1,630 จุด จากรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาแย่กว่าคาด กดดันบรรยากาศการลงทุนช่วงสั้น เช่นเดียวกับปัจจัยในประเทศหลังตัวเลขคาดการณ์กำไรสุทธิของบริษัทจดทะเบียนปรับลดลงต่อเนื่อง
Market Factor
(-) ตัวเลข ISM Manufacturing PMI สหรัฐฯ เดือน ส.ค. ปรับลดลงอยู่ที่ระดับ 49.1 ต่ำสุดในรอบ 3 ปี ต่ำกว่าที่ตลาดคาดที่ระดับ 51.25 บวกกับต่ำกว่า 50 แสดงถึงภาคการผลิตที่ถดถอย
(-) สรท.เผยตัวเลขส่งออกเดือน ก.ค.ขยายตัว 4.28%YoY มูลค่ารวม 21,205.0 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ดี ภาพรวมมูลค่าส่งออกไทยช่วงเดือน ม.ค-ก.ค.2562 อยู่ที่ 144,176 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หดตัว1.9% YoY พร้อมประเมินว่าการส่งออกปี 62 จะติดลบราว 1% (แนวหน้า)
(-) สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) ปรับประมาณการทั้งปีของผลิตภัณฑ์มวลรวมภาคเกษตร (GDP ภาคเกษตร) เหลือ 2-2.3% จากเดิม 3.0-3.5% ลดลงกว่า 4.6%YoY ผลจากสถานการณ์ภัยแล้ง และน้ำท่วมในภาคเหนือ ภาคอีสาน ส่งผลให้พื้นที่ทางการเกษตรเสียหาย (ข่าวสด)
(+) ที่ประชุมครม.วานนี้ มีมติเห็นชอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายปี 2563 วงเงินรวม 3.2 ล้าน ลบ.สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ 7 ด้าน โดยมุ่งเน้นการลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม (ข่าวสด)
(-) Consensus ปรับลดประมาณการ EPS โดยข้อมูลจาก Bloomberg Consensus พบว่าเมื่อต้นปี EPS ปี 62 ที่ 115.14 บาท ขณะที่ปัจจุบันเหลือเพียง 99.95 บาท หรือลดลง 13.19%YTD
Update Flow เมื่อวานนี้ต่างชาติคงขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 1,541.11 ลบ.ส่งผลภาพรวม WTD ต่างชาติขายสุทธิอยู่ที่ 2,671.92 ลบ. (สวนทางกับรายย่อยและสถาบันที่ซื้อสุทธิรวมกัน 2,957.84 ลบ.)
Investment Strategy
สัปดาห์นี้ เรายังมอง SET Index แกว่งในกรอบ 1,630-1,670 จุด โดยคาดตลาดที่ปรับขึ้นมาเมื่อสัปดาห์ที่แล้วจะถูกเทขายทำกำไร อีกทั้งขาดปัจจัยบวกจากต่างประเทศ อย่างไรก็ดีปัจจัยในประเทศยังมีประเด็นหนุนจากการที่ประชุมครม.มีมติเห็นชอบงบฯ ปี 2563 บวกกับการประชุม ครม.เพื่อพิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปลายสัปดาห์นี้หรือต้นสัปดาห์หน้า เรายังคงแนะนำให้นักลงทุนติดตามสถานการณ์ในต่างประเทศโดยแนะนำเลือกหุ้นรายตัวโดยทยอยเก็บเข้าพอร์ตในหุ้นหลัก 3 กลุ่ม ดังนี้
หุ้นกลุ่มที่จะได้ประโยชน์จากแผนกระตุ้นศก.ของรัฐฯ: เรามองว่า ครม. ชุดใหม่ที่มีการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการจะเร่งออกนโยบายกระตุ้น ศก. ในระยะสั้นเพื่อพยุง ศก. เราจึงแนะนำหุ้นที่ได้ประโยชน์และมี Upside ได้แก่ BJC (ช่วง 2H62 คาดเห็นการฟื้นตัวHoHจากการขยายสาขา BigC มากขึ้นจากสาขาทั้งในประเทศ 7 สาขาและสาขาที่กัมพูชา 1 สาขาBigC Food Place 1 สาขา และ Mini BigC ราว 200 สาขา), SEAFCO (แม้ช่วง 2H62 คาดรับรู้งานลดลง แต่ยังมี Backlog 2.3 พัน ลบ. คาด Secured Revenue 100% ในช่วงที่เหลือของปีนี้ บวกกับยังมี Upside Risk จากงานประมูลใหม่อีก 1.9 หมื่น ลบ.), CPALL ( ช่วง 3Q62 แม้เข้าสู่ Low Season แต่ด้วยการจัดโปรโมชั่น แสตมป์จัดหนักกระตุ้นยอดขาย และการได้ประโยชน์จากฐานที่ต่ำปีก่อนจะหนุนSSSG เติบโตต่อเนื่อง พร้อมยังคงเป้าขยายสาขาร้านสะดวกซื้อปีนี้ที่ 700 สาขา), ERW (แม้ช่วง 2Q62 กำไรปกติหดตัว แต่ในช่วงครึ่งปีหลังคาดฟื้นตัวจากปัจจัยฤดูกาล บวกกับมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวจาก ครม. อีกทั้งมีสัญญาณฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวชาวจีน หลังจำนวนนักท่องเที่ยวจีนเดือน ก.ค. โต 5.8%YoY)
กลุ่ม Defensive Stock: เราเลือกหุ้นที่มีอัตราจ่ายปันผลน่าดึงดูดบวกกับกำไรช่วง 2H62 มีแนวโน้มโตดี แนะนำ ASK (ช่วง 2H62 คาดกำไรสุทธิมีแนวโน้มโตต่อ หนุนด้วยสินเชื่อรถพาณิชย์ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามงานก่อสร้างภาครัฐฯที่จะทยอยเร่งตัวขึ้นบวกกับคาดได้ประโยชน์จากการทยอยเปลี่ยนรถตู้เป็นรถ มินิบัสของผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะตามมาตรการของ ขสมก.
กลุ่มที่คาดผลดำเนินงานมีแนวโน้มดีต่อเนื่อง: เหมาะกับการทยอยซื้อสะสม โดยเน้นหุ้นที่กำไรช่วง 2Q62 คาดโต YoY และช่วง 2H62 โตต่อ แนะนำSAWAD (คาดกำไรปี62 โต30.8%YoY หนุนด้วยเป้าพอร์ตสินเชื่อโต 20-30% พร้อมแผนเปิดสาขาใหม่อีก 300 สาขา, Asset Yield ฟื้นตัวตามสัดส่วนการรับรู้รายได้ผ่านสัญญาเงินกู้ผ่าน BFIT ที่มากขึ้นโดยล่าสุด SAWAD รายงานการถือครองหุ้น BFIT หลังTender Offer ที่82.04% บวกกับต้นทุนทางการเงินที่ปรับลงหลังได้รับเงินเพิ่มทุนจากพันธมิตร), SELIC (คาดปี 62 เห็นการ Turnaround ของกำไรสุทธิหลังเริ่มรวมงบการเงินกับPMCT ซึ่งคาดเห็น Synergy ชัดเจนขึ้นตามลำดับทั้งในด้านการพัฒนาสินค้าใหม่และการขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มใหม่อีกทั้งยังไม่มีค่าใช้จ่ายเพื่อปรับโครงสร้างธุรกิจมากเช่นปีก่อน), III (ช่วง 2Q62 กำไรโต 45.8%YoY หนุนด้วยธุรกิจขนส่งสินค้าทางอากาศและธุรกิจบริหารจัดการโลจิสติกส์ บวกกับมีส่วนแบ่งกำไรที่โต 364%YoY จากธุรกิจที่เข้าซื้อกิจการสิงคโปร์และฮ่องกงในปี 61-62 ตามลำดับ)
Trading Idea
กลุ่มเดินเรือ : เราเลือก PSL, TTA หลังค่าระวางเรือ (BDI) วานนี้ยังคงปรับขึ้นทำจุดสูงสุดในรอบ 8 ปีที่ระดับ 2,501.00จุด +2.42%DoD
หุ้นที่ได้รับผลประโยชน์จากพายุ "โพดุล": เราเลือก SPC, DOHOME, GLOBAL
AECS - Fundamental and Strategic Team
ตฤณ สิทธิสวัสดิ์ (ID. 091364) [email protected]
จิรภัทร โบสุวรรณ (ID. 040051) [email protected]
ภัทรพล จันทร์อินทร์ (ID. 089932) [email protected]
ธีรยุทธ ฤทธิเผ่าพันธุ์ ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์ Data Support / Secretary
โดย บริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด (มหาชน) ประจำวันที่ 4 ก.ย. 2562