สหรัฐฯ-จีน เดินหน้า ขึ้นภาษี

 

ระดับความเสี่ยงของตลาด

High Volatility

 

Weight: Stock 40%, Cash 60%

 

สะสม EA

ราคาปิด 47.25 บาท

ราคาเหมาะสม 60.25 บาท

     เราเริ่มต้นคำแนะนำด้วย "ซื้อ" จากปัจจัยบวกได้แก่ 1) คาดกำไรปกติ 2H62 เติบโต YoY และ 3Q62 มีโอกาสทำระดับสูงสุดใหม่รายไตรมาส หนุนกำไรปกติปี 2562 ทำระดับสูงสุดใหม่ที่ 6.06 พันลบ. +57% YoY 2) แนวโน้มกำไรปี 2563-2565 มีโอกาสทำ New High ต่อเนื่อง จากแรงหนุนของธุรกิจใหม่ คือ Green Diesel, Bio PCM และแบตเตอรี่เฟสแรก เรามีมุมมองบวกต่อการเติบโตในระยะกลาง-ยาว ขณะที่แผน PDP 2018 ช่วยหนุนความต้องการใช้ที่กักเก็บพลังงาน (Energy Storage) เป็น Upside ต่อประมาณการกำไร

 

เก็งกำไร DTAC

ราคาปิด 61.50 บาท

แนวต้านทางเทคนิค 64.00 บาท

     เราคาดว่าหุ้นกลุ่ม Defensive จะฟื้นตัวได้ในสัปดาห์นี้ หลังเคลื่อนไหว Underperform ตลาดในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยกลุ่ม ICT -1.3% เทียบกับ SET INDEX +0.5%

     ขณะที่การเจรจาการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯไม่มีความคืบหน้า และเริ่มเก็บภาษีสินค้าเพิ่มตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. คาดว่าจะส่งผลให้ภาพรวมตลาดหุ้นเอเซียเช้านี้ถูกกดดัน และเห็นการหมุนเข้าพักในหุ้นกลุ่มสื่อสารอีกครั้ง ทางเทคนิคแนวรับ 61.00 บาท แนวต้าน 64.00 บาท

 

เก็งกำไร TASCO

ราคาปิด 20.50 บาท

แนวต้านทางเทคนิค 21.00 บาท

     TASCO มีปัจจัยหนุน ได้แก่ 1) ผลของพายุโพดุลส่งผลให้เกิดพื้นที่ประสบอุทกภัย 19 จังหวัด จึงคาดว่าจะต้องเร่งซ่อมแซมถนนหลังผ่านพ้นอุทกภัยเป็นบวกต่อความต้องการใช้ยางมะตอย 2) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ลดลง -2.8% เหลือ US$55.10

     ขณะที่ภาพปี 2562 ได้แรงหนุนจากการเริ่มใช้ IMO ส่งผลให้ TASCO ได้ประโยชน์โดยตรงจาก Demand ของ High Sulphur Fuel Oil (HSFO) ที่ลดลงทำให้ส่วนต่างราคายางมะตอยมีแนวโน้มกว้างขึ้น ทางเทคนิคแนวต้าน 21.00 บาท แนวรับ 20.00 บาท

 

เก็งกำไร BBL

ราคาปิด 171.00 บาท

แนวต้านทางเทคนิค 175.00 บาท

     ภาพทางเทคนิคมีโอกาสฟื้นตัว แนวต้าน 175.00 บาท แนวรับ 169.50 บาท และ Stop loss หากต่ำกว่า 165.00 บาท

     BBL ขึ้น XD วันที่ 4 ก.ย. หุ้นละ 2.00 บาท ให้ Yield 1.2% ขณะที่ Downside Risk จำกัด เนื่องจากซื้อขายที่ PBV เพียง 0.7 เท่า

 

SBL Idea IVL/PTG

 

กลยุทธ์วันนี้

 

     ช่วงสุดสัปดาห์ผ่านไป โดยที่สหรัฐฯและจีน ยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงด้านการค้าร่วมกันได้ ส่งผลให้มาตรการกำแพงภาษี มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 ก.ย. โดยสหรัฐฯตั้งกำแพงภาษีสินค้านำเข้าจากจีน วงเงิน US$1.1 แสนล้าน อัตรา 15% และจีนขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ วงเงิน US$7.5 หมื่นล้าน ทำให้ประเด็นสงครามการค้ายังคงกดดันจิตวิทยาการลงทุนในตลาดหุ้นโลก สะท้อนจาก DJ Futures เคลื่อนไหวในแดนลบช่วงเช้าวันนี้ เช่นเดียวกับ ดัชนีตลาดหุ้นเอเชียที่เปิดตัวในแดนลบเล็กน้อย

     ด้านราคาน้ำมันดิบ NYMEX และ Brent พักฐานแรงราว 2-3% บนความไม่แน่นอนของการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน แม้ว่า จำนวนแท่นขุดเจาะสัปดาห์ล่าสุด จะลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 2 ก็ตาม เป็น Sentiment เชิงลบระยะสั้นต่อกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี ในตลาดหุ้นไทย ให้มีทิศทางพักตัววันนี้ หลังจากฟื้นตัวเด่นในรอบ 2 วันทำการที่ผ่านมา

     เราประเมินทิศทาง SET INDEX วันนี้ แกว่งทรงตัวจนถึงพักตัว (Sideways-to-sideways-down) แนวรับ 1,645-1,650 จุด และแนวต้าน 1,660 จุด กลยุทธ์การลงทุน เราให้น้ำหนักกับกลุ่ม Domestic Play  เช่น กลุ่มสื่อสาร คาดว่า ราคาหุ้นจะทรงตัวได้ดีกว่ากลุ่ม Global Play วันนี้ เนื่องจากราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงแรงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา  

     เช้านี้ เราออกบทวิเคราะห์ Initiate หุ้น EA เริ่มต้นคำแนะนำ "ซื้อ" ประเมินราคาเหมาะสมปี 2563 เท่ากับ 60.24 บาท อิงวิธี SOTP เราคาดกำไรปกติปี 2562 อยู่ที่ราว 6 พันล้านบาท จะทำระดับสูงสุดใหม่ตามกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น ขณะที่แผน PDP ฉบับใหม่ เป็นบวกต่อหลายธุรกิจของ EA ทั้งแบตเตอรี่, พลังงานทดแทน, ไบโอดีเซล

 

Strategist Team

 

Padon Vannarat

Strategist 662-009-8060

 

Natapon Khamthakrue

Strategist 662-009-8059

 

Piyapat Patarapuvadol

Strategist 662-009-8062

 

Suvichak Thappang

Assistant Strategist