- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 30 August 2019 15:59
- Hits: 4870
รู้ทันหุ้น : บล.เคจีไอ
ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ ( รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
ปรับขึ้น... ประเด็นเศรษฐกิจโลกดีขึ้น หนุนตลาดต่อ
KGI ประเมิน SET Index วันศุกร์ขึ้นต่อ... หลังเมื่อวานนี้หุ้นไทยฟื้นตัวแรงกว่าเราประเมิน ตามการแรลลี่ของหุ้นพลังงานและปิโตรเคมี รับข่าวสต็อกน้ำมันดิบร่วงหนัก + โบรกเกอร์ต่างชาติเจ้าใหญ่ปรับมุมมองต่อหุ้นกลุ่มโรงกลั่นขึ้น + ความคาดหวังเชิงบวกต่อการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน... ทั้งนี้จิตวิทยาเชิงบวกต่อตลาดฯ น่าจะต่อเนื่องในวันนี้ และหุ้นเชื่อมโยงเศรษฐกิจโลกยังน่าจะโดดเด่นต่อไป เพราะ i) หุ้นสหรัฐฯ ฟื้นตัวต่อเมื่อคืน หลังทางการจีนสร้างเซอร์ไพรส์แถลงข่าวว่า'จีนจะยังไม่ปรับขึ้นภาษีเพื่อตอบโต้การขึ้นภาษีรอบล่าสุดของทรัมป์' และ 'จีนต้องการกลับสู่การเจรจาเพื่อลดแรงกดดันด้านภาษีกับทั้งสองฝ่าย' ii) แรงขายจากนักลงทุนต่างชาติน่าจะค่อยๆ ซาลงไป หลังขายสุทธิสะสมไปแล้ว 5.4 หมื่นล้านบาทนับจากต้นเดือน ส.ค. ส่งผลให้ยอดซื้อสุทธิสะสมนับจากต้นปี 2562 เหลืออยู่เพียง 6.5 พันล้านบาท... ขณะที่ผลจากการปรับน้ำหนักตลาดหุ้นจากทาง MSCI ได้ผ่านพ้นไปแล้ว ผนวกกับในเดือน ก.ย. ฝ่ายวิจัยฯ คาดว่า ธ.กลางหลักๆ ทั้ง ธ.กลางสหรัฐฯ และ ธ.กลางยุโรปจะประกาศลดดอกเบี้ย / ผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติม น่าจะเป็นปัจจัยบวกที่รออยู่ ด้านปัจจัยภายในประเทศ ธปท. จะรายงานชุดข้อมูลเศรษฐกิจไทย ก.ค. ในช่วงบ่ายวันนี้ จะเป็นเครื่องชี้เบื้องต้นต่อแนวโน้ม GDP ไตรมาส 3/2562... ทั้งนี้ฝ่ายวิจัยฯ ประเมินหาก SET Index ฟื้นตัวถึงระดับ 1,650 จุด น่าจะเริ่มชะลอ อิงเป้าหมายดัชนีฯ ปีนี้ที่เรามองไว้ที่ 1,680 จุด (มีอัพไซด์จำกัด)
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน ( สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
เก็งกำไร ALL, TFG, BCPG*
ALL (ยังไม่มีเป้าหมายใน Consensus) 1) ประเมินแนวรับ 4.14 บาท / แนวต้าน 4.30 - 4.40 บาท (Stop loss 4.04 บาท) 2) ประเมินValuation น่าสนใจ โดยประเมินข้อมูลจากบทวิเคราะห์ IPO ของฝ่ายวิจัยฯ คาดกำไรปีนี้ที่ 555 ล้านบาท EPS fully dilute 0.99 บาท/หุ้น (กำไร 1H62 = 213 ล้านบาท) และนโยบายปันผล 40% ของกำไร เท่ากับว่า PE จะต่ำเพียง 4.2 เท่า และปันผล 9.4% 3) รับ Sentiment บวกจากการที่ ธปท. ผ่อนปรนมาตรการคุมภาระหนี้ต่อรายได้ออกไป เป็นบวกต่อกลุ่มอสังหาฯ โดยนักลงทุนอาจพิจารณาเก็งกำไรหุ้นในกลุ่มฯตัวอื่น ที่น่าสนใจ อาทิ PSH*, AP*, ANAN* เป็นต้น
TFG (เป้าพื้นฐาน 5.35 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 4.96 บาท / แนวต้าน 5.25 บาท หากผ่านได้ประเมินแนวต้านถัดไปที่ 5.45 บาท (Trailing stop ล๊อกกำไร 4.8 บาท) 2) วานนี้ฝ่ายวิจัยฯออกบทวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานกลุ่มอาหาร โดยยังคงประเมินผลกระทบจากโรคระบาดหมูในเอเชีย (จีน เวียดนาม เป็นต้น) จะยังคงต่อเนื่องอีกนาน (FAO คาดต้องใช้เวลา 5 ปี อุปทานหมูของโลกจึงจะกลับสู่ปกติ เนื่องจากปัจจุบันยังไม่มีวัคซีน) ซึ่งจะเป็นบวกต่อการส่งออกเนื้อไก่ของไทย (สินค้าทดแทน) โดยคาดการส่งเนื้อไก่ 3Q62 จะยังโตเด่นต่อเนื่อง 3) ราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ในตลาดโลก (ถั่วเหลือง ข้าวโพด) ยังตกต่ำ รวมกับผลของค่าเงินบาทแข็งค่า คาดเป็นบวกต่ออัตรากำไรของธุรกิจ
BCPG* (เป้า Consensus 19.9 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 18.4 บาท / หากยืนเหนือ 18.6 บาทได้ประเมินแนวต้านถัดไป 19.1 - 19.7 บาท (Stop loss 17.8 บาท) 2) แนวโน้มดอกเบี้ยต่ำคาดทำให้หุ้นที่มีโครงสร้างกระแสเงินสดคล้ายพันธบัตรอย่างกลุ่มโรงไฟฟ้า Outperform ตลาดฯ + โอกาสในการ Re-finance ลดต้นทุนดอกเบี้ย ... ล่าสุด EA*, BGRIM* ออกหุ้นกู้รีไฟแนนซ์แล้ว 3) BCPG* มี Valuation ที่ไม่แพง เทียบกับหุ้นตัวอื่นในกลุ่มโดยมี PE ปี 2562 - 63 เท่ากับ ±18.5 เท่าและ ±16 เท่า ตามลำดับ และปันผล ±3.5% ต่อปี สูงกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มโรงไฟฟ้าที่ +2.5% ต่อปี
หุ้นเชิงปริมาณ & พื้นฐาน "Quantamental"
กลยุทธ์ Pair trade i) แนะนำ Long STEC* + Short CK* (กำไร +2.2%) และ ii) แนะนำ Long MTC* / Short SAWAD* (กำไร +0.1%) ... แนะนำตัดขาดทุน หากผลตอบแทนรวมของกลยุทธ์ขาดทุนเกิน -5%
หุ้นมีข่าว
(0) BoT - ยังไม่ใช้มาตการคุมหนี้ DRS ในปีนี้ นายรณดล นุ่มนนท์ รองผู้ว่าการเผยว่าธปท. ยังไม่ได้มีแผนที่จะนำมาตรการนี้มาบังคับใช้ภายในปีนี้ แต่อยู่ระหว่างดำเนินการร่วมกับสถาบันการเงินใน 2 เรื่อง 1) การกำหนดมาตรฐานกลางในการคำนวณ DSR ในแง่การคำนวณรายได้ให้ ธปท. ได้ภายในไตรมาส 4 ปีนี้ (2) ให้สถาบันการเงินใช้ปล่อยสินเชื่ออย่างรับผิดชอบ (responsible lending) โดยลูกหนี้ต้องมีเงินเพียงพอสำหรับดำรงชีพหลังชำระหนี้แล้ว (affordability) ที่มา: Post Today ความเห็น: การผ่อนปรนมาตรการดังกล่าวจะเป็นบวกเล็กน้อยกับกลุ่มนอนแบงก์ และธนาคารที่เน้นปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อ และที่อยู่อาศัย อย่างไรก็ตามธปท.ยังคงดูแลในกรอบใหญ่เรื่องหนี้ครัวเรือนดังนั้นเราเชื่อผลบวกที่เกิดขึ้นยังไม่ได้ทำให้มุมมองที่เป็นลบกับนอนแบงก์เปลี่ยนไป เพราะเชื่อว่าหนี้ครัวเรือนที่สูงทำให้โอกาสการเติบโตสินเชื่อจำนวนมากเป็นไปได้ยาก และสุดท้ายจะเข้ามากำกับในเชิงการปฏิบัติที่เป็นธรรมกับลูกหนี้ (market conduct)
(0) BANPU* แจ้งตลาดหลักทรัพย์เมื่อวานนี้ว่า บริษัทอนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืนสูงสุดไม่เกิน 5 พันล้านบาท และไม่เกิน 385 ล้านหุ้น (SET) ความเห็น: ราคาเฉลี่ยของการซื้อหุ้นคืนครั้งนี้คิดเป็นประมาณ 13.00 บาท/หุ้น แม้ว่าการซื้อหุ้นคืนจะช่วยบรรเทาผลกระทบจากราคาหุ้น BANPU ที่อ่อนตัวลงจากราคาถ่านหินที่ลดลง ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบริษัท แต่เราคิดว่าการซื้อหุ้นคืนนี้ไม่เกี่ยวข้องกับผลการดำเนินงาน ดังนั้นเรายังคงคำแนะนำ "ถือ" ที่ราคาเป้าหมายไม่เปลี่ยนแปลง 12.50 บาท
(0) หย่าศึก AOT*-CPN* วันนี้ (ไทยรัฐ) "วิษณุ" ชี้ "เซ็นทรัลวิลเลจ" เปิดบริการก่อนได้ "ศักดิ์สยาม" เป็นกรรมการหย่าศึก เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพร้อมเซ็นทรัลประชุมด่วน! วันนี้ เคลียร์ข้อพิพาท "ทอท.-เซ็นทรัล" ด้าน "วิษณุ" บอกไม่ห้าม "เซ็นทรัลวิลเลจ" เปิดให้บริการชั่วคราวได้ ข้อสรุปจากนี้จะออกมาอย่างไรผิดก็ว่าไปตามผิดขณะที่สหภาพ ทอท.ห่วงความปลอดภัยด้านการบิน ร่อนหนังสือถามสมาคมนักบินทั้งไทย-เทศ ให้ช่วยตัดสิน ขณะที่เซ็นทรัลยันทำถูกต้องทุกขั้นตอน
(+) DCC จ่อทำเทนเดอร์ฯ หุ้น RCI สัดส่วน 93.84% มูลค่า 2.3 พันล้าน (ข่าวหุ้น) บอร์ด DCC ไฟเขียวทำเทนเดอร์ฯ หุ้น RCI ในสัดส่วน 93.84% ที่ราคา 4 บาท/หุ้น คิดเป็นมูลค่า 2,315.32 ล้านบาท พร้อมเล็งเพิกถอน RCI ออกจากตลาดหุ้น
(+) AMATA* ลูกค้าจีน-ญี่ปุ่นเจรจาซื้อที่ดิน 1,000 ไร่ (ทันหุ้น) AMATA* เจรจาซื้อขายที่ดินลูกค้าจีน-ญี่ปุ่นกว่า 1 พันไร่ ดันทั้งปียังคงเป้ายอดขายที่ 950 ไร่ โดยครึ่งปีแรกโกยยอดขายแล้ว 300 ไร่ หวังผลงานครึ่งปีหลังดีขึ้น ตุน Backlog ที่ 3.75 พันล้านบาท ทยอยโอน 70% พร้อมปรับเพิ่มราคาที่ดินรักษาระดับมาร์จิ้น ทุ่มงบลงทุน 4-5 พันล้านบาท ซื้อที่ดินเพิ่ม
(+) GPSC* ยิ้ม PTT* คว้างานที่เมียนมา พัฒนาระบบการผลิตไฟฟ้าในนิวย่างกุ้ง (ข่าวหุ้น) GPSC* เผย “กลุ่มปตท.” คว้างานพัฒนาระบบผลิตไฟฟ้าในนิวย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา ตามแผนพัฒนาเมืองใหม่ 3-5 ปีข้างหน้า เตรียมหารือกลุ่ม GAIL จากอินเดียในฐานะผู้จัดหาก๊าซ พร้อมรอลุ้นพัฒนาอีก 2 โครงการ
หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
WHAUP* (เป้าพื้นฐาน 9.4 บาท) ประเมินแนวรับ 7.0 บาท / แนวต้าน 7.15 บาท หากผ่านได้แนะนำ "Let profit run" (Trailign stop ล๊อกกำไร 6.8 บาท)
PLANB* (เป้าพื้นฐาน 9 บาท) ประเมินแนวรับ 8.65 บาท / แนวต้าน 9.1 บาท หากผ่านได้แนะนำ "Let profit run" (Trailign stop ล๊อกกำไร 8.6 บาท)
TCAP* (เป้าพื้นฐาน 61 บาท) ประเมินแนวรับ 53.25 บาท / หากยืนเหนือ 54 บาทได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 57.5 บาท (Trailing stop ล๊อกกำไร 52 บาท)
ADVANC* (เป้าพื้นฐาน 255 บาท) ประเมินแนวรับ 227 บาท / แนวต้าน 234 บาท (Stop loss 220 บาท)
GLOBAL* (เป้าพื้นฐาน 19.6 บาท) ประเมินแนวรับ 15 บาท / แนวต้าน 15.6 - 16.0 บาท (Stop loss 14.9 บาท)
SAMTEL (เป้าพื้นฐาน 14.3 บาท) ประเมินแนวรับ 10 บาท / แนวต้าน 11.2 บาท (Trailign stop ล๊อกกำไร 10 บาท)
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
TCAP* แนะนำ "ซื้อ" ราคาเหมาะสม 61 บาท ฝ่ายวิจัยฯปรับคำแนะนำการลงทุนในหุ้น TCAP* ขึ้นเป็น "ซื้อ" จากเดิม "ถือ" เนื่องจาก i) Valuation ที่น่าสนใจด้วย PBV 0.9 เท่า, PE 8 เท่า ii) ปันผลที่สูงถึง +12% (ปันผลปกติ+ปันผลพิเศษ) และคาดปันผลปกติหลังจากนี้อีกเฉลี่ยราว +7% ต่อปี iii) โอกาสในการเติบโต หลังดีล TMB*+TBANK เสร็จสิ้น
RS* แนะนำ "ถือ" ราคาเหมาะสม 16.9 บาท แม้ยอดขาย 1H62 จะลดลง -5% YoY แต่ฝ่ายวิจัยฯยังคงประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงาน 2H62 จะดีขึ้น จึงยังคงประมาณการทั้งปีไว้ตามเดิม โดยคาด EPS ปีนี้จะลดลงเล็กน้อย -0.4% YoY อย่างไรก็ดียังคงคาดหวัง Synergy benefit ที่จะเกิดขึ้นจากพันธมิตรใหม่ BTS* ซึ่งยังเป็นโอกาสที่จะปรับประมาณการฯได้ หาก Synergy benefit ชัดเจน จึงคงคำแนะนำ "ถือ"
Strategic SET daily
Market strategy Thailand
จิตวิทยาตลาดวันนี้: --- นัยรับ 1634 จุด
วันนี้ หากดัชนี SET ดีดขึ้นหรือปิดเหนือนัยรับ 1634 จุดนั้น อาจทรงราคาขึ้นในกรอบ 1634-1658 จุด แต่หากวันนี้ ดัชนี SET ลดลงปิดต่ำกว่านัยรับ 1634 จุดนั้น อาจทรงราคาลงในกรอบ 1634-1624 จุด
แนวรับวันนี้: 1634/1626 แนวต้านวันนี้: 1647/1655
หมายเหตุ: (1) ระยะสั้นคือ 1-5 วันทำการ; (2) ระยะกลาง คือ 14-30 วันทำการ; (3) ระยะยาวคือมากกว่า 30 วันทำการ
1 อดิศักดิ์ คำมูล
2 66.2658.8888 ต่อ 8843