หุ้นที่เปลี่ยนคําแนะนําทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : -- ภาวะตลาดและปัจจัย : SET วานนี้ +22.21 จุด ปดที่ 1639.14 จุด มูลค่าการซื้อขายเป็น 59.6 พันล้านบาท ดัชนีฯบ้านเราปรับตัวขึ้นดีกว่าภูมิภาค มีการเก็งกําไร หุ้นกลุ่มพลังงาน หลังราคาน้ํามันปรับขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มโรงกลั่นที่ได้ประโยชน์จากนโยบาย IMO 2020 แม้ปัจจัยต่างประเทศโดยรวมยังเป็นลบ ทั้ง IYC และ สงครามการค้า ผู้ซื้อสุทธิรายเดียวคือ สถาบัน 4.9 พันล้านบาท ส่วนขายสุทธิเป็นต่างชาติ รายย่อย และโบรกเกอร์ ตั้งแต่ต้นเดือนถึงปัจจุบันต่างชาติขายสุทธิสูงขึ้น เป็น 54.2 พันล้านบาท

 

ด้านแนวโน้มตลาดและกลยุทธ์คือ # ปัจจัยสําคัญ: ปัจจัยต่างประเทศเป็นบวก จีนต้องการแก้ปัญหาสงครามการค้า ดาวโจนส์และน้ํามันดีดตัวรับ ทองคําปรับลง นักลงทุนกลับเข้าหาสินทรัพย์ เสี่ยง ครม.เศรษฐกิจจะหารือเรื่องมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบสอง ธปท.ยังไม่มีแผนนํา DSR มาใช้ปีนี้ ตลาดหุ้นเพื่อนบ้านเช้านี้บวกทุกตลาด ดาวโจนส์ล่วงหน้า บวกต่อ ด้านปัจจัยลบคือ การเกิด IYC ตัวเลขการรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกสหรัฐเพิ่ม และ GDP ไตรมาส 2 สหรัฐทบทวน พบว่าต่ํากว่าครั้งแรกเป็น 2.0% จาก ครั้งแรก 2.1% # ระยะสั้นคาด SET- แนวโน้มปรับขึ้นต้อ แต่ยังต้องระมัดระวังแรงขายเช่นเคย ปัจจัยบวกคือ ปัจจัยต่างประเทศ ครม.เศรษฐกิจจะพิจารณามาตรการ กระตุ้นเศรษฐกิจด้านการลงทุน ส่งออก ท่องเที่ยวเพิ่ม 30 ส.ค. ตัดสินราวกลาง ก.ย. และเฟดพิจารณาปรับลดดอกเบี้ยกลาง ก.ย.เช่นกัน คาดว่าหลักทรัพย์ขนาด ใหญ่ส่วนใหญ่จะแกว่งตัวสูงขึ้น เข้าเก็งกําไรได้ โดยเฉพาะหุ้นพลังงาน โรงกลั่น และที่ปรับลงมากไป เช่น รับเหมาก่อสร้าง ตัวเด่นคือ STEC, CK ส่วน HANA อาจมี การเก็งกําไร เพราะเจรจาการค่าดีขึ้น กลยุทธ์ คือ ซื้อเล่นสั้น เข้าไว-ออกไว การลงทุนให้ทยอยสะสม แนวต้านเป็น 1645-1650 จุด ส่วนแนวรับที่ 1610-1580 จุด

 

สําหรับการลงทุนทยอยซื้อสะสม ส่วนกลุ่มหลักทรัพย์ที่แนะนํา มีพื้นฐานแข็งแกร่ง หาจังหวะทยอยสะสมได้ คือ โรงกลั่น- TOP พาณิชย์- CPALL, BJC ท่องเที่ยว- ERW,MINT ขนส่ง AOT,BEM,BTS อาหาร CPF,TU,TKN สื่อสาร- ADVANC ไฟแนนซ์- KKP,TISCO, AEONTS,MTC การแพทย์- RJH,CHG และสื่อ- VGI # Stock Pick Today : BJC อัตราภาษีเงินได้จะยังต่ําต่อไปในครึ่งหลังปีนี้ เพราะได้สิทธิประโยชน์ BOI ส่วนธุรกิจบรรจุภัณฑ์คาดว่าจะกลับมาฟื้นตัวดี ตั้งแต่งวดปี หน้าเป็นต้นไป เนื่องจากในช่วง 2H62 อยู่ในช่วงการปรับตัว จากลูกค้าคาราบาวที่ลดคําสั่งซื้อลง และจะรองรับลูกค้าใหม่ในกลุ่ม เครื่องดื่มชูกําลัง กาแฟ และน้ํา ผลไม้ทดแทน คาดการณ์อัตราการเติบกําไรปีนี้เป็น +6% y-o-y และเพิ่มขึ้น +13% y-o-y ในปี 63 คงคําแนะนํา ซื้อ เราประเมินราคาพื้นฐานเป็น 63.00 บาท ซึ่ง ประเมินด้วยวิธี DCF การวิเคราะห์ทางเทคนิค ระยะสั้น สัญญาณ Candlestick & Indicators เปลี่ยนกลับเป็นบวกเล็กๆ {“ปิดบวกแรง”เหนือ“SMA10 วัน”อีกครั้ง (แต่ยังถูกกดดันจาก “โครงสร้างขาลง – ระยะกลาง”)} ชี้ความน่าจะเป็นของตลาดฯวันนี้“แกว่ง”แบบมีรีบาวด์ฯสั้นๆก่อน(แล้วจึงลงต่ํา,ตามมา)ได้ แนวต้าน 1645 – 1650 (หรือ 1660) จุด {แนวตัดขาดทุน “ต่ํากว่า 1630” (แนวรับย่อย “1610 / 1590 – 1580” จุด} สําหรับการ Scan หุ้นที่มีโอกาสทํา New high ที่เข้ามาใหม่เป็น KBANK,SAWAD,PTT,PTTGC,HMPRO,BCH,ERW ที่ยังคงอยู่ใน List ได้แก่ COM7,SISB,RS, RJH, ROJNA, BCPG หุ้นที่หลุด List คือ ไม่มี และที่ให้หาจังหวะTake profit TQM,PRM,JWD Thailand Research Team : reseach-th.dbs.com