- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 01 October 2014 16:06
- Hits: 1914
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ Selective Buy
ประเด็นสำคัญวันนี้ ตลาดหุ้นไทยวานนี้เริ่มทรงตัว ปิดลบเพียง 0.12 จุด มาอยู่ที่ 1,585.67 จุด มูลค่าการซื้อขายลดลงเหลือ 49,519 ล้านบาท
กระแสเงินทุนต่างชาติชะลอตัวชัดจน แม้ว่าจะขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย แต่ก็เพียง 425 ล้านบาท การคง Short สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันที่ 2 เพียง 155 สัญญา และขายสุทธิในตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 2 แค่ 407 ล้านบาท
MBKET ยังคงให้น้ำหนักต่อโอกาสการฟื้นตัวของ SET INDEX วันนี้ แม้วานนี้ SET INDEX จะไม่สามารถยืนเหนือ 1,590 จุดได้ก็ตาม ด้วยปัจจัยเอื้อเชิงบวกต่อตลาดหุ้นไทยได้แก่
•กบง.มีมติปรับราคาก๊าซ LPG / NGV เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. นำเสนอต่อ ครม. วันนี้ ซึ่งเป็นบวกต่อ PTT โดยทุกๆ การขึ้น 1.00 บาทของ NGV ส่งผลบวกต่อราคาเหมาะสมของ PTT ที่ 10.00 บาท
•รมว.คลัง นายสมหมาย ภาษี เตรียมเสนอแผนกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น เสนอต่อครม.วันนี้
•ตลาดหุ้นฮ่องกง ปิดทำการวันที่ 1-2 ต.ค. ส่วนตลาดหุ้นจีนปิดวันที่ 1-7 ต.ค. ทำให้แรงกดดันต่อการลงทุนในตลาดหุ้นอื่นๆ
นอกจากนี้ MBKET คาดว่าตลาดหุ้นอื่นๆ ทั่วโลกจะแกว่งในกรอบแคบ เพื่อรอดูผลการประชุม ECB ในวันพรุ่งนี้ ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญในคืนนี้คือ ตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐฯ
ดังนั้น กลยุทธ์การลงทุน MBKET แนะนำ “รอขายทำกำไรบริเวณเหนือ 1,600 จุด หลังแนะนำให้เข้าสะสมเมื่อราคาหุ้นเป้าหมายอ่อนตัวระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย”
กลยุทธ์การลงทุนช่วงสั้น MBKET แนะนำ “ทยอยสะสม” BBL / PTT
Portfolio Top Pick in 3Q14: AAV /AP/ IFEC/ TRUE
HOLD: SAMART/ SPCG/ IFEC/ BTS/ SIM/ MACO/ CK/ LPN/ VGI
Accumulative Buy: BBL / PTT
Action and Stock of the Day
SET INDEX แกว่งในกรอบแคบ
MBKET ยังคงให้น้ำหนักต่อการฟื้นตัวของ SET INDEX แต่ยังไม่ผ่าน 1,600 จุด
ติดตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นของ ครม.วันนี้
กลยุทธ์การลงทุน ถือพอร์ตรอขายทำกำไรบริเวณ 1,600 จุดหรือสูงกว่า
ตลาดหุ้นเอเชียวานนี้ ตลาดหุ้นญี่ปุ่น และ ฮ่องกง ปรับตัวลง แรงสุดในเอเชีย จากความอ่อนแอด้านเศรษฐกิจในญี่ปุ่น และความวุ่นวายทางการเมืองในฮ่องกง ส่วนตลาดหุ้นอื่นๆ แกว่งในกรอบแคบ
ด้านตลาดหุ้นไทยวานนี้ SET INDEX มีความพยายามฟื้นตัวขึ้นแกว่งระหว่าง 1,590-1,595 จุด นำโดย BBL / PTT แต่ด้วยบรรยากาศการลงทุนรอบเอเชียที่ไม่เอื้อ บวกกับตัวเลขเศรษฐกิจไทยที่ยังอ่อนแอ ทำให้เกิดแรงขายหุ้นออกมามากขึ้นในช่วงบ่าย ส่งผลให้ SET INDEX ย่อตัวลงปิดที่ 1,585.67 จุด ลบเล็กน้อย 0.12 จุด มูลค่าการซื้อขาย 49,519 ล้านบาท
กลุ่มที่ปิดฟื้นตัวแรงสุดวานนี้ได้แก่ กลุ่ม Home +1.99%, กลุ่มสื่อและสิ่งพิมพ์ +1.40% และกลุ่มประกันภัย +0.80% ส่วนกลุ่มหลักกลุ่มธนาคาร -0.09%, กลุ่มวัสดุก่อสร้าง +0.64% และกลุ่มพลังงาน +0.62%
ภาพตลาดหุ้นไทยวันนี้
ตลาดหุ้นเอเชีย (7.24 น.) เช้านี้ Nikkei – Kospi เปิดลบเล็กน้อย คาดว่านักลงทุนส่วนใหญ่ต่อรอดูผลการประชุม ECB ในวันพรุ่งนี้ จึงชะลอการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง
MBKET คงมุมมองต่อการลงทุนเป็น “กลาง” เป็นวันที่ 4 SET INDEX ยังไม่สามารถฟื้นตัวปิดบวกได้ แต่ SET INDEX ยังคงสามารถปิดยืนเหนือ 1,585 จุด พร้อมกับประเด็นบวกเฉพาะตลาดหุ้นไทยที่ช่วยจำกัด Downside risk ให้แก่ตลาดหุ้นไทยโดยรวม ภาพรวมของการลงทุน MBKET ยังคงให้น้ำหนักกับการฟื้นตัวของ SET INDEX ในรอบนี้เพื่อทดสอบและยืนเหนือ 1,600 จุด สู่เป้าหมายในรอบนี้ 1,620-1,630 จุดในช่วงกลางเดือนต.ค. ก่อนเข้าสู่ช่วงของการปรับฐานในช่วงครึ่งหลังของเดือนต.ค. จากความกังวลต่อทิศทางนโยบายการเงินของเฟดในการประชุมนปลายเดือนต.ค.นี้
ปัจจัยบวกที่เอื้อต่อการลงทุนในตลาดหุ้นไทยในช่วงสั้นนี้ได้แก่
•ปัจจัยบวกด้านพื้นฐานการลงทุนภายในประเทศ
oการประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว มูลค่าโครงการ 2.9 หมื่นล้านบาท วานนี้ คาดว่าจะประกาศผลการประมูลในเดือนม.ค. 2558 โดยมี CK / STEC / ITD / UNIQ เข้าร่วมการประมูลในรอบนี้
oกบง.จัดสินใจขึ้นราคาก๊าซ LPG ภาคขนส่ง 0.62 บาท/กก. และ ราคาก๊าซ NGV สำหรับยานยนต์ ขึ้นอีก 1.00 บาท/กก. เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. เป็นบวกต่อ PTT
oการเสนอ แผนกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น ของ รมว.คลัง นายสมหมาย ภาษี ต่อครม. วันนี้ เพื่อให้มีผลบวกในอัตราเร่งในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ คาดหวัง GDP ในปีนี้ จะเติบโต 1.5% หรือเป็น V-Shape ใน 2H57
•ปัจจัยบวกในต่างประเทศ
oการปิดตลาดหุ้นฮ่องกงวันที่ 1-2 ต.ค. และตลาดหุ้นจีน ปิดทำการวันที่ 1-7 ต.ค. ส่งผลให้แรงกดดันต่อตลาดหุ้นเอเชีย จากความวุ่นวายทางการเมืองในเกาะฮ่องกงผ่านตลาดหุ้นจีนคลายตัวลง อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรติดตามการเคลื่อนไหวทางการเมืองในเกาะฮ่องกงอย่างใกล้ชิด
oติดตามการประชุม ECB ในวันที่ 2 ต.ค. MBKET และตลาดต่างคาดหวัง ECB จะตัดสินใจเริ่มโครงการ QE ด้วยการเข้าซื้อตราสารหนี้ ABS ในตลาดตราสารหนี้ เพื่อเป็นการอัดฉีดสภาพคล่องทางการเงิน และลดต้นทุนทางการเงินให้แก่ภาคเอกชน ถือเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งทางตรง และทางอ้อม ต่ออียู หากเป็นไปตามที่ประเมินข้างต้น เท่ากับเป็นการเปิดโอกาสทำ Euro Carry Trade
กลยุทธ์การลงทุน MBKET แนะนำ “ถือพอร์ตเก็งกำไร เพื่อรอขายทำกำไรบริเวณ 1,600 จุดหรือสูงกว่า ขณะที่นักลงทุนอาจเพิ่มพอร์ตเก็งกำไร หากราคาหุ้นเป้าหมายย่อตัวระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย แบบจำกัดวงเงิน” เพราะ MBKET ประเมินว่า ยิ่ง SET INDEX แกว่งตัวเหนือ 1,600 จุด ความผันผวนของ SET INDEX จะยิ่งมากขึ้นเป็นลำดับ
ปัจจัยสำคัญวันนี้
1.ภาคการท่องเที่ยวเดือนส.ค.ฟื้นตัวต่อเนื่อง: ตัวเลขเศรษฐกิจไทยเดือนส.ค. ภาคการบริโภค และการลงทุนภาคเอกชนยังคงชะลอตัว -0.20% mom และ -1.20% mom ตามลำดับ ขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวเป็นตัวเลขเศรษฐกิจเดียวที่ส่งสัญญาณฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง เดือนส.ค.จำนวนนักท่องเที่ยว 2.08 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ 1.92 ล้านคน หรือ เพิ่มขึ้นถึง 8.33% mom เป็นการฟื้นตัว mom เดือนที่ 2
MBKET: มีความเห็นเป็นบวก ต่อภาคการท่องเที่ยว หลัง คสช.ตัดสินใจยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่าให้แก่นักท่องเที่ยวจีนและไต้หวัน ทำให้นักท่องเที่ยวกลุ่มหลักของตลาดไทยเริ่มกลับเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และแนวโน้มน่าจะเพิ่มขึ้นในช่วงที่เหลือของปีนี้ โดยเฉพาะในช่วงความวุ่นวายทางการเมืองในเกาะฮ่องกง ระหว่างวันชาติจีนวันที่ 1-7 ต.ค. อาจทำให้ชาวจีนเปลี่ยนที่ท่องเที่ยวมายังประเทศไทย ซึ่งสถานการณ์ทางการเมืองกลับสู่ระดับปกตินับตั้งแต่เดือนมิ.ย. ทั้งนี้กลุ่มสายการบิน low cost airline / กลุ่มโรงแรม / กลุ่มสนามบิน ย่อมเป็นบวกต่อประเด็นนี้
2.ติดตามแผนกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นของรมว.คลัง: การประชุม ครม. บ่ายวันนี้ จะมีการพิจารณาแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ นำเสนอโดย รมว.คลัง นายสมหมาย ภาษี เพื่อพิจารณา
MBKET คาดว่าจะมีแผนกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวภายในประเทศ รวมถึงแผนเร่งการเบิกจ่ายงบค้างจ่าย / งบตกเบิก / งบไทยเข้มแข็ง เพื่อนำไปกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ ซึ่งรายละเอียดเป็นจุดสำคัญที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด
3.ติดตามรายละเอียดของแผนปรับโครงสร้างราคาก๊าซ LPG / NGV: วานนี้ กบง. ตัดสินในขึ้นราคาก๊าว LPG ภาคขนส่ง 0.62 บาท/กก. และ ราคาก๊าซ NGV ภาคยานยนต์ 1.00 บาท/ กก. แต่ราคาทั้ง 2 หลังปรับขึ้นในครั้งนี้ จะยังเกิดความเหลื่อมล้ำ และต่ำกว่าต้นทุนที่แท้จริง ดังนั้น แนวทางการปรับราคาก๊าซทั้ง 2 ประเภทจากนี้ไปจะมีแนวทางอย่างไร หรือเป็นการทยอยขึ้นในอัตราดังกล่าว จนกว่าจะเกิดความสมดุลย์ของแต่ละภาคส่วน หรือ ต้นทุนพลังงานที่แท้จริง
MBKET มีความเห็นเป็นบวกต่อการตัดสินใจของกบง. และส่งผลทางตรงกับ PTT ลดภาระด้านต้นทุนของการผลิตและจำหน่ายก๊าซ NGV
4.คืนนี้ติดตามตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนสหรัฐฯ: เดือนก.ย. Bloomberg consensus คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2.05 แสนตำแหน่ง ใกล้เคียงกับเดือนก่อนหน้าที่เพิ่มขึ้น 2.04 แสนตำแหน่ง
5.ตลาดหุ้นในฮ่องกง และ จีนปิดทำการ เนื่องในวันชาติจีน
•ตลาดหุ้นฮ่องกง ปิดทำการวันที่ 1-2 ต.ค.
•ตลาดหุ้นจีน ปิดทำการวันที่ 1-7 ต.ค.
วานนี้ วันก่อนหน้า
PER14 PER15 PER14 PER15
SET INDEX 16.15 13.86 16.15 13.85
PSE 20.62 17.77 20.59 17.75
JSE 16.64 14.13 16.66 14.15
KOSPI 10.24 8.92 10.32 8.99
TAIEX 14.12 12.93 14.12 12.93
Straits Time 14.47 13.32 14.52 13.37
SHCOMP 9.39 8.31 9.37 8.30
ที่มา: Bloomberg
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำ “ทยอยสะสม” ได้แก่
1.PTT : ราคาปิด 360.00 บาท ราคาเหมาะสม 400.00 บาท
a)MBKET ประเมินว่าราคาหุ้น PTT จะตอบรับเชิงบวก หลังกบง.มีมติปรับเพิ่มราคา LPG และ NGV ขึ้นสอดคล้องกับมติของคสช.ที่อนุมัติการปรับโครงสร้างราคาพลังงานตั้งแต่ เดือน ก.ย.ที่ผ่านมา
b)โดยปรับเพิ่มราคา LPG ภาคขนส่งขึ้น 0.62 บาท / ก.ก. เป็น 22 บาท / ก.ก.และ NGV ขึ้น 1 บาท / ก.ก. เป็น 11.50 บาท / ก.ก.แต่ยังคงราคา NGV สำหรับรถสาธารณะไว้ที่ 8.50 บาท / ก.ก. ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2557 เป็นต้นไป
c)ผลจากการปรับราคา LPG ภาคขนส่งขึ้นจะส่งผลให้รายจ่ายของกองทุนน้ำมันลดลง และยังไม่ส่งผลบวกต่อ PTT แต่เชื่อว่าจะมีการปรับราคา LPG ภาคขนส่งขึ้นอีก 0.63 บาทเพื่อให้ราคาเท่ากับภาคครัวเรือน ก่อนที่จะปรับขึ้นไปพร้อมๆกันทั้งภาคครัวเรือและภาคขนส่ง และจะส่งผลบวกต่อ PTT ในอนาคต
d)ขณะที่การปรับราคา NGV ขึ้น 1.00 บาท / ก.ก. จะส่งผลบวกต่อ PTT เนื่องจากจะส่งผลให้แบกรับผลขาดทุนลดลง โดยทุก 1.00 บาท ที่ปรับขึ้นจะเป็นบวกต่อประมาณการกำไรราว 2,570 ล้านบาท
e)เราเชื่อว่าราคาหุ้น PTT จะได้รับการ Re-Rating ในแง่ Valuation หลังมีความชัดเจนเรื่องการปรับโครงสร้างราคาพลังงาน ราคาปัจจุบันซื้อขายระดับ PER 2558 เพียง 9.9 เท่า ต่ำกว่า SET INDEX ที่ 13.9 เท่า และราคาเหมาะสมถูกปรับขึ้นเป็น 400.00 บาท เป็น 357.00 บาท
2.BBL : ราคาปิด 204.00 บาท ราคาเหมาะสม 240.00 บาท
a)ราคาหุ้น BBL ปรับตัวลง -4.7% ตั้งแต่วันที่ 24 ก.ย.ที่ผ่านมา จากผลกระทบหลังถูกปรับลดน้ำหนักการลงทุนจากดัชนี MSCI
b)MBKET เชื่อว่าราคาหุ้นมีโอกาสรีบาวน์ หลังดัชนี MSCI ได้ปรับน้ำหนักการลงทุนเสร็จสิ้นแล้วตั้งแต่วันจันทร์ที่ 29 ก.ย.ที่ผ่านมา
c)คาดกำไรสุทธิ 3Q57 เติบโตทั้ง yoy และ qoq จากสินเชื่อที่ส่งสัญญาณฟื้นตัว โดยสินเชื่อเดือน ส.ค.ของ BBL เพิ่มขึ้น +1.4% mom สูงที่สุดในกลุ่มธนาคาร เทียบกับ KBANK, SCB, KTB +0.2% mom, BAY +1.3% mom และ TMB +0.7% mom
d)เนื่องจาก BBL มีสัดส่วนสินเชื่อภาคธุรกิจในสัดส่วนสูงจึงได้ประโยชน์โดยตรงจากความเชื่อมั่นภาคธุรกิจที่ปรับตัวขึ้น จากเสถียรภาพของปัจจัยการเมือง
e)ราคาหุ้นยัง Laggard โดย YTD หุ้น BBL +14.6% น้อยกว่า KBANK +50.6%, SCB +26.8%, KTB +43.6% และ BAY +59.8% ขณะที่ SETBANK +35.1% และ SET INDEX +22.1%
f)Valuation ค่อนข้างถูก โดยซื้อขายระดับ PBV 2558 เพียง 1.1 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ (BAY, BBL, KBANK, KTB, SCB) ที่ 1.7 เท่า และให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลปีละ 3.5%
What will DJIA move tonight? คืนนี้มีรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนี ISM ภาคการผลิต, ดัชนี PMI ภาคการผลิต และยอดการจ้างงานภาคเอกชน
Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
เงินทุนต่างชาติวานนี้ขายสุทธิเป็นวันที่ 7 อีกเล็กน้อย US$27 ล้าน จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ US$423 ล้าน
ทั้งนี้ KOSPI เป็นตลาดเดียวที่ต่างชาติซื้อสุทธิวานนี้
ตลาดหุ้น วานนี้(US$ ล้าน) วันก่อนหน้า(US$ ล้าน) YTD(US$ ล้าน) 2556(US$ ล้าน)
TAIEX -159.8 -404.4 11,177.4 9,188.0
KOSPI 228.9 15.0 8,097.9 4,875.1
JSE -74.2 -44.8 4,227.4 -1,806.4
PSE -3.2 66.7 1,323.0 678.4
ตลาดหุ้นเวียดนาม -5.2 -1.6 222.8 263.2
SET INDEX -13.1 -54.0 -87.9 -6,210.5
Foreign Investors Action วานนี้
เงินทุนต่างชาติชะลอการลงทุน
วานนี้ วันก่อนหน้า
ตลาดหุ้น (ล้านบาท) -425 -1,746
SET50 Index Futures (สัญญา) -155 -17,228
SSF (สัญญา) -49 +5,728
Metal Futures (สัญญา) +89 -192
ตลาดตราสารหนี้ (ล้านบาท) -407 -3,197
นักลงทุนต่างชาติคงการขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 3 เพียง 425 ล้านบาท รวม 3 วันทำการขายสุทธิ 2,293 ล้านบาท และทำให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ขายสุทธิขยับขึ้นเล็กน้อยเป็น 4,605 ล้านบาท
ขณะที่นักลงทุนต่างชาติคงการ Short สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันที่ 2 เพียง 155 สัญญา ขณะที่วันก่อนหน้า Short สุทธิหนาแน่น คาดว่าจะเป็นการเร่งปิดสถานะใน S50U14 ที่หมดอายุสัญญาวันที่ 29 ก.ย. ส่วนสถานะสุทธิวานนี้ คาดว่าเป็นการเปิดสถานะ Short ใน S50Z14 เมื่อ S50Z14 ยังคงปิดสูงกว่า SET50 Index แต่แคบลงเหลือ 0.78 จุด จากวันก่อนหน้า Premium 1.20 จุด
และตลาดตราสารหนี้ไทย นักลงทุนกลุ่มนี้คงการขายสุทธิเป็นวันที่ 2 แต่ก็เพียง 407 ล้านบาท รวม 2 วันทำการขายสุทธิ 3,604 ล้านบาท เมื่อราคาพันธบัตรรัฐบาลไทยขยับขึ้นต่อเนื่อง อายุ 10 ปี ผลตอบแทนลดลงมากถึง 3.30bps ปิดที่ 3.470%
Short-Selling วานนี้
มูลค่า Short-selling เพิ่มขึ้นเป็นวันที่ 2 เท่ากับ 571 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 512 ล้านบาท
Stock Total Value(mn Bt) % of trading Volume Avg.Price(Bt)
KBANK 145.48 16.21% 234.15
TRUE 80.55 2.93% 12.09
ADVANC 71.00 6.24% 222.91
PTT 47.60 1.38% 357.91
KTB 28.48 4.71% 23.72
NVDR กลับมาซื้อสุทธิ เป็นที่น่าสนใจถึงการเน้นสะสมกลุ่มพลังงาน และโรงพยาบาล
การซื้อขายผ่าน NVDR วานนี้กลับมาซื้อสุทธิ 982 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ 265 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากการปรับลดน้ำหนักการลงทุนใน BBL / BBL-F ของ MSCI ในวันจันทร์ที่ 29 ก.ย. สรุปภาพการลงทุนได้ดังนี้
1.กลุ่มธนาคารถูกขายสุทธิสูงสุดเป็นวันที่ 4 อีก 396 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า ขายสุทธิมากถึง 2,027 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มเหล็ก ขายสุทธิ 56 ล้านบาท
2.ส่วนกลุ่มพลังงาน ซื้อสุทธิสูงสุดเป็นวันที่ 3 อีก 419 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 670 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มโรงพยาบาล ซื้อสุทธิ 305 ล้านบาท กลุ่มวัสดุก่อสร้าง ซื้อสุทธิ 195 ล้านบาท และกลุ่มอสังหาฯ ซื้อสุทธิ 171 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 116 ล้านบาท
ซื้อสุทธิสูงสุด มูลค่าสุทธิ(ล้านบาท) % มูลค่าการซื้อขาย ขายสุทธิสูงสุด มูลค่าสุทธิ(ล้านบาท) % มูลค่าการขาย
PTT 280.53 7.69 BBL -825.10 25.20
KBANK 269.58 40.21 DTAC -136.72 31.31
SCC 216.98 47.70 TRUE -62.14 4.43
ADVANC 201.16 30.48 DELTA -61.24 44.79
BGH 157.02 31.15 SPALI -54.56 32.07
Strategist Team Maybank KimEng
Mayuree Chowvikran, CISA
Strategist / Analyst
662-6586300 x 1440
Padon Vannarat
Equity Analyst
662-6586300 x 1450
Rinrada Lianghathaitham
Assistant Analyst
662-6586300 x 1530
Twitter Channel
http://twitter.com/YipNgenYipTong