WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

logo aceบล.เออีซี : Daily Focus
 
AECS Daily Focus
--------------------
Market Outlook
•    วันนี้มอง SET Index แกว่ง Sideway ในกรอบ 1,600-1,625 จุด แม้ปัจจัยในประเทศมี Sentiment บวกมากขึ้นจากมาตรการช่วยเหลือภาคเกษตร แต่ถูกกลบด้วยปัจจัยต่างประเทศที่ต้องติดตามประเด็นสงครามการค้าที่ยังมีความไม่แน่นอนสูง
•    Market Factor
•    (watch) จับตาภาวะ Inverted Yield Curve สะท้อนจากYield ของ 10Y US Bond กลับมาเพิ่มสูงกว่า 2Y US Bond ทำให้ 2-10 Spread ติดลบที่ระดับ 5 bps บวกกับ VIX Index ที่ปิดบวก 4.87%DoD สะท้อนถึงความกังวลของนักลงทุนที่มีต่อภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวในอนาคต
•    (watch) ประเด็นสงครามการค้าที่ยังมีความไม่แน่นอนสูงหลังนายเกิงชวง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีนยืนยันว่าจีนไม่ได้โทรศัพท์ไปเจรจากับทางสหรัฐฯ ตามที่ประธานาธิบดีสหรัฐกล่าวอ้าง
•    (+) รัฐบาลจีนพิจารณาประกาศใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศเช่นการผ่อนคลายข้อจำกัดในการซื้อขายรถยนต์และสนับสนุนให้มีการซื้อรถยนต์ประหยัดพลังงานหลังเศรษฐกิจมีแนวโน้มชะลอตัวจากผลกระทบจากสงครามทางการค้า
•    (-) สศอ.เผยดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือนก.ค.62 อยู่ที่ 100.7 หดตัวลง 3.23%YoY  โดยอุตสาหกรรมหลักที่ส่งผลลบต่อดัชนี ได้แก่ รถยนต์และเครื่องยนต์ น้ำมันปิโตรเลียม เหล็กสาเหตุหลัก    มาจากผลกระทบจากเศรษฐกิจและการค้าโลกที่ชะลอตัว (สำนักข่าวอินโฟเควสท์)
•    (+) ครม.เห็นชอบโครงการประกันรายได้ให้กับชาวนาที่ปลูกข้าวนาปี และชาวสวนปาล์มน้ำมัน ปีการผลิต 2562/63 วงเงินรวม 60,355 ลบ. แบ่งเป็นการประกันรายได้ข้าวนาปี 21,495 ลบ. ประกันรายได้ปาล์มน้ำมัน 13,378 ลบ. และการสนับสนุนต้นทุนการผลิตข้าวนาปี มีวงเงิน 25,482 ลบ. (กรุงเทพธุรกิจ)
•    (watch) ติดตามมาตรการรับมือความผันผวนจากภาวะสงครามการค้า และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม จากที่ประชุมครม.เศรษฐกิจวันศุกร์ที่ 30 ส.ค. นี้  (กรุงเทพธุรกิจ)
•    (-) Consensus ปรับลดประมาณการ EPS โดยข้อมูลจาก Bloomberg Consensus พบว่าเมื่อต้นปี EPS ปี 62 ที่ 115.14 บาท ขณะที่ปัจจุบันเหลือเพียง 101.0บาท หรือลดลง 12.28%YTD
•    Update Flow เมื่อวานนี้ต่างชาติคงขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 1,727.4 ลบ. ส่งผลภาพรวมMTD ต่างชาติขายสุทธิอยู่ที่ 51,659.31 ลบ. (สวนทางกับรายย่อยและสถาบันที่ซื้อสุทธิรวมกัน 59,780.9 ลบ.)
•    Investment Strategy
•    สัปดาห์นี้เรายังมีมุมมองเป็นลบ โดยประเมินกรอบ SET Indexรายสัปดาห์ จะเปิด Downside Risk ลงมาที่แนวรับที่ 1,590 และแนวต้าน 1,640 จุด โดยมีปัจจัยต่างประเทศยังคงกดดันหลังประเด็น Trade war ระหว่างสหรัฐฯ-จีนยังมีความไม่แน่นอนต่อเนื่อง โดยเราแนะนำให้นักลงทุนระมัดระวังในการลงทุน ถือเงินสดมากขึ้น และแนะนำเลือกหุ้นรายตัวโดยทยอยเก็บเข้าพอร์ตในหุ้นหลัก 3 กลุ่ม ดังนี้
•    หุ้นกลุ่มที่จะได้ประโยชน์จากแผนกระตุ้น ศก.ของรัฐฯ: เรามองว่า ครม. ชุดใหม่ที่มีการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการจะเร่งออกนโยบายกระตุ้น ศก. ในระยะสั้นเพื่อพยุง ศก. เราจึงแนะนำหุ้นที่ได้ประโยชน์และมี Upside ได้แก่ BJC (ช่วง 2H62 คาดเห็นการฟื้นตัวHoHจากการขยายสาขา BigC มากขึ้นจากสาขาทั้งในประเทศ 7 สาขา และสาขาที่กัมพูชา 1 สาขา BigC Food Place 1 สาขา และ Mini BigCราว 200 สาขา), SEAFCO (แม้ช่วง 2H62 คาดรับรู้งานลดลง แต่ยังมี Backlog 2.3 พัน ลบ. คาด Secured Revenue 100% ในช่วงที่เหลือของปีนี้ บวกกับยังมี Upside Risk จากงานประมูลใหม่อีก 1.9 หมื่น ลบ.), CPALL (ช่วง 3Q62 แม้เข้าสู่ Low Season แต่ด้วยการจัดโปรโมชั่น แสตมป์จัดหนักกระตุ้นยอดขาย และการได้ประโยชน์จากฐานที่ต่ำปีก่อนจะหนุนSSSG เติบโตต่อเนื่อง พร้อมยังคงเป้าขยายสาขาร้านสะดวกซื้อปีนี้ที่ 700 สาขา)
•    กลุ่ม Defensive Stock: เราเลือกหุ้นที่มีอัตราจ่ายปันผลน่าดึงดูดบวกกับกำไรช่วง 2H62 มีแนวโน้มโตดี แนะนำ ASK (ช่วง 2H62 คาดกำไรสุทธิมีแนวโน้มโตต่อ หนุนด้วยสินเชื่อรถพาณิชย์ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามงานก่อสร้างภาครัฐฯที่จะทยอยเร่งตัวขึ้นบวกกับคาดได้ประโยชน์จากการทยอยเปลี่ยนรถตู้เป็นรถ   มินิบัสของผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะตามมาตรการของ ขสมก.
•    กลุ่มที่คาดผลดำเนินงานมีแนวโน้มดีต่อเนื่อง: เหมาะกับการทยอยซื้อสะสม โดยเน้นหุ้นที่กำไรช่วง 2Q62 คาดโต YoYและช่วง 2H62 โตต่อ แนะนำSAWAD (คาดกำไรปี62 โต30.8%YoY หนุนด้วยเป้าพอร์ตสินเชื่อโต 20-30% พร้อมแผนเปิดสาขาใหม่อีก 300 สาขา, Asset Yield ฟื้นตัวตามสัดส่วนการรับรู้รายได้ผ่านสัญญาเงินกู้ผ่าน BFIT ที่มากขึ้นโดยล่าสุด SAWAD รายงานการถือครองหุ้น BFIT หลังTender Offer ที่ 82.04% บวกกับต้นทุนทางการเงินที่ปรับลงหลังได้รับเงินเพิ่มทุนจากพันธมิตร), SELIC (คาดปี 62 เห็นการ Turnaround ของกำไรสุทธิหลังเริ่มรวมงบการเงินกับ PMCT ซึ่งคาดเห็น Synergy ชัดเจนขึ้นตามลำดับทั้งในด้านการพัฒนาสินค้าใหม่และการขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มใหม่อีกทั้งยังไม่มีค่าใช้จ่ายเพื่อปรับโครงสร้างธุรกิจมากเช่นปีก่อน), III (ช่วง 2Q62 กำไรโต 45.8%YoY หนุนด้วยธุรกิจขนส่งสินค้าทางอากาศและธุรกิจบริหารจัดการโลจิสติกส์ บวกกับมีส่วนแบ่งกำไรที่โต 364%YoY จากธุรกิจที่เข้าซื้อกิจการสิงคโปร์และฮ่องกงในปี 61-62 ตามลำดับ) และ ARROW (ช่วง 2Q62 กำไรโต YoYหลังมาร์จิ้นเริ่มฟื้นตัวจากต้นทุนเหล็กที่ลดลงและนโยบายการปรับราคาขายที่ดี จึงปรับเพิ่มประมาณการคาดปี 62 กำไรทั้งปีโต 10.3%YoY)
 
 
 
    27-Aug-19    Change (pts.)    26-Aug-19
SET Index    1,615.47    -7.26    1,622.73
SET50 Index    1,065.29    -6.45    1,071.74
SET100 Index    2,353.67    -13.47    2,367.14
 
 
 
High    1,630.55    Gainers    673
Low    1,612.10    Unchanged    493
Value (Bt m)    69,671.89    Losers    825
Volume (*000)    20,271,634          
 
Market Valuation
SET Data    2018F    2019F    Long Term
Fwd PER (x)    15.9    14.3    14.3
EPS Growth (%)    13.9    9.3    1.8
EV/EBITDA (x)    10.9    10.0    9.6
FWD PBV (x)    1.8    1.7    1.6
Dividend Yield (%)    3.1    3.5    3.7
ROE    11.0    11.2    11.2
 
Net Buy/Sell by Investor Types
Unit : M Bt    27-Aug-19    WTD    MTD    YTD
Institution    578.15    (3,602.67)    26,087.48    22,910.29
Proprietary    (534.57)    308.47    (8,121.62)    10,415.33
Foreign     (1,727.40)    (3,119.94)    (51,659.31)    9,043.49
Individual    1,683.82    6,414.14    33,693.45    (42,369.11)
 
AECS ( Fundamental and Strategic Team )
 
จิรภัทร  โบสุวรรณ (ID. 040051)    [email protected]
ตฤณ  สิทธิสวัสดิ์ (ID. 091364)    [email protected]
ภัทรพล จันทร์อินทร์ (ID. 089932)    [email protected]
ธีรยุทธ  ฤทธิเผ่าพันธุ์    ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์    Data Support / Secretary
 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!