CNS Daily Strategy : คาดตลาด “ฟื้นตัว” ต้าน 1634/1640จุด รับ 1611/1606จุด จิตวิทยาการลงทุนมีสัญญาณที่ดีขึ้น หลังจีนเสนอให้กลับมาเจรจากัน ซึ่งทางสหรัฐฯก็ได้ตอบรับข้อเสนอดังกล่าว ทำให้นักลงทุนลดความกังวลคต่อความเสี่ยงสงครามการค้า ผสานกับยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐฯเติบโต 2.1% ดีกว่าคาดที่ 1.2% ซึ่งบางภาคส่วนของสหรัฐฯที่ยังมีสัญญาณเติบโต สะท้อนเศรษฐกิจสหรัฐฯยังไม่ได้เข้าสู่ภาวะถดถอย คลายกังวลต่อการชะลอตัวแรงของเศรษฐกิจโลกได้ เป็นปัจจัยบวกต่อสินทรัพย์เสี่ยง วันนี้แนะ Theme: “Selective Play” : AOT, TASCO, CPF

 

Nomura : Key Factors

• (+) Trade: จีนเสนอให้กลับมาเจรจากัน ซึ่งทางสหรัฐฯก็ได้ตอบรับข้อเสนอดังกล่าว

• (+) US: ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทน เดือนก.ค. ปรับตัวขึ้นสู่ 2.1% ดีกว่าคาดที่ 1.2%

• (*) TH: MSCI Rebalance จะมีผลราคาปิดวันนี้ โดยตลาดหุ้นไทยถูกปรับลดน้ำหนักลงสู่ 3.01% จากเดิม 3.08% คิดเป็นเม็ดเงินราว -4.4 พันล้านบาท ขณะที่มีการปรับเพิ่มน้ำหนัก INTUCH ราว 20 ล้านเหรียญ

• (*) Fund Flow: ขายหุ้น -1,392 ลบ, Short Future -11,019 สัญญา, ซื้อ Bond +1,838ลบ

 

Nomura Daily Top Picks: AOT, TASCO, CPF

 

Equity Daily Outlook : คาดตลาด “ฟื้นตัว” ต้าน 1634/1640จุด รับ 1611/1606จุด ประเด็นการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีนมีสัญญาณที่ดีขึ้น จากแนวโน้มที่ทั้งสองประเทศจะเจรจากันรอบใหม่ โดยจีนได้ทำการติดต่อกับสหรัฐฯและเสนอให้กลับมาเจรจากัน ซึ่งนายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน เผยว่า จีนพร้อมที่จะแก้ไขข้อพิพาททางการค้ากับสหรัฐ ผ่านทางการเจรจาอย่างสงบ และไม่ต้องการเพิ่มความขัดแย้งทางการค้า โดยสหรัฐฯก็ได้ทำการตอบรับข้อเสนอดังกล่าว ทำให้นักลงทุนลดความกังวลต่อความเสี่ยงสงครามการค้าลง หนุนสินทรัพย์เสี่ยงโลกฟื้นตัว ผสานกับตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทน เดือนก.ค. ปรับตัวขึ้นสู่ 2.1% ดีกว่าคาดที่ 1.2% และเติบโตจากเดือนก่อนที่ 1.9% ซึ่งบางภาคส่วนของสหรัฐฯที่ยังมีสัญญาณของการเติบโต สะท้อนเศรษฐกิจสหรัฐฯยังไม่ได้เข้าสู่ภาวะถดถอย คลายกังวลต่อการชะลอตัวแรงของเศรษฐกิจโลกได้ ส่วนปัจจัยในประเทศ MSCI Rebalance จะมีผลราคาปิดวันนี้ โดยตลาดหุ้นไทยถูกปรับลดน้ำหนักลงสู่ 3.00% จากเดิม 3.08% คิดเป็นเม็ดเงินราว -5พันล้านบาท ขณะที่มีการปรับเพิ่มน้ำหนัก INTUCH ราว 20 ล้านเหรียญ

 

Daily Strategy :  ตลาดยังแกว่งใน Fundamental Zone ในการสะสมหุ้นกรอบ 1640-1580จุด ให้ ถือหุ้น 82.5% แนะนำ “Selective Play”

1. Tourism : รายงานตัวเลขนักท่องเที่ยวเดือนก.ค.19 กลับมาโตครั้งแรกรอบ 6 เดือนที่ 3.3 ล้านคน +4.7% y-y (จี่น +6%, อาเซียน +7%, อินเดีย 26%) และจะเริ่มเห็นการเติบโตช่วงถัดไป ประโยชน์จาก Low base เหตุการณ์เรือล่มภูเก็ตครบ 1 ปีแล้ว บวกต่อ AOT MINT ERW CENTEL และ related play TKN DDD KAMART

2. TCAP ซื้อหุ้นคือ  97 ล้านหุ้น จำนวนเงิน 5,000 ล้านบาท จะคิดเป็นราคาเฉลี่ยต่อหุ้นที่ 51.5 บาท ซึ่งสูงกว่าราคาปิดเมื่อวานที่ 50.75 บาทเล็กน้อย เป็นการซื้อหุ้นที่ต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชีที่ 60.7 บาท/หุ้น และหาก TCAP ลดจำนวนหุ้นที่ซื้อมาทั้งหมด EPS จะเพิ่มขึ้น และ การจ่ายเงินปันผลพิศษ 4 บาท/หุ้น คิดเป็น yield สูงถึง 8%

3. มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ 1. บรรเทาช่วยเหลือเกษตรกรวงเงินรวม 3.1แสนล้านบาท และ 2. ปรับเพิ่มสวัสดิการสำหรับผู้มีรายได้น้อย และ 3.กระตุ้นการอุปโภคบริโภคและการลงทุนในประเทศ เช่น กระตุ้นการท่องเที่ยวเมืองรองใช้เงิน 15,000 ล้านบาท และยังเตรียมต่ออายุวีซ่าด่านตรวจคนเข้าเมือง Visa On arrival (VOA) บวกต่อกลุ่มการบริโภค(CPALL, BJC, GLOBAL, DOHOME, SABINA, KAMART) และกลุ่มท่องเที่ยว/โรงพยาบาล(AOT, MINT, ERW, BH)

4. กลุ่มที่ได้อานิสงค์บวกจากดอกเบี้ยขาลง ได้แก่ 1) Consumer Finance: SAWAD,  AMANAH, JMART 2) High Yield: ADVANC, INTUCH, KKP 3) Property: AP, SPALI 4) ส่งออกอาหาร : CPF 5) ท่องเที่ยว MINT, AOT, ERW 6) นิคม AMATA, WHA 7) โรงไฟฟ้า เน้นตัวที่ FTSE เพิ่มน้ำหนัก BGRIM 8) การบริโภค CPALL, KAMART, ICHI, ZEN

5. INTUCH MSCI เพิ่มน้ำหนัก 20ล้านเหรียญฯ มีผลพรุ่งนี้ราคาปิด

6. AUG 2019 Top Picks : SABINA, AMANAH, CPF, JMART, AMATA, TASCO, SCB

 

2019F Strategy : Wind of Change        

• 2H19 Best Picks :  ROBINS, CPF, CPALL, MINT, SCB, AMATA, WHA, STEC, PYLON, TASCO, KAMART    

 

 

Fundamental & Tactical Daily Top Picks :    

AOT (TP20F 74*): Support 69.5/69.0 Resistant 72.0/72.75            

• Theme: Tourism Play

• Earnings Outlook: แนวโน้ม 4QFY19F คาดจำนวนผู้โดยสารเข้าออกจะกลับมาเติบโตได้อีกครั้ง y-y จากฐานต่ำในปีก่อน โดยตัวเลข 1-17 ส.ค.19 กลับมาเติบโต +3.3% y-y จึงยังประเมินกำไร FY19F/20F เติบโต +3%/+9% y-y ตามลำดับ ประกอบกับ รายได้ส่วนเพิ่มจากการได้ผลตอบแทนขั้นต่ำ สัมปทาน Duty free ใหม่หนุนรายได้สัมปทานขยายตัวกว่า +92% y-y

• Valuation: มองเป็นจุดเข้าลงทุนที่ดี ในภาวะที่หุ้นปรับลงมาจากตลาดรวมและเหตุการณ์ระเบิดก่อนหน้านี้ แนะนำ “ซื้อ” ในช่วงที่มีปัจจัยลบกดดัน จะเป็นช่วงเวลาที่ให้ผลตอบแทนได้ดี

• Catalyst: ตัวเลขนักท่องเที่ยว ก.ค.19 กลับมาเติบโตครั้งแรกในรอบ 6 เดือนที่ 3.3 ล้านคน +4.7% y-y และช่วงถัดไปรับประโยชน์จาก Low base หลังเหตุการณ์เรือล่มภูเก็ตครบ 1 ปี + มาตรการระตุ้นการท่องเที่ยวกระตุ้นนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติเดินทางเข้าออกมากขึ้น ไม่ว่าในภาวะเงินบาทแข็งหรืออ่อน

 

TASCO (TP19F 26*): Support 18.2/17.8 Resistant 18.9/19.2            

• Theme: Infrastructure Spending

• Earnings Outlook: เป็นรายใหญ่ธุรกิจยางมะตอย ด้วย Market share กว่า 40% อยู่ในจุดดีสุดในรอบ 3 ปี จากปัจจัยบวกมาพร้อมกัน 1) ปริมาณขายโตแรงทั้งในและนอกประเทศรวม 28% 2) ราคาขายกลับมาเป็นขาขึ้นเป็นจุดสูงสุดในรอบ 25 เดือน 3) ต้นทุนปรับลงจากราคาน้ำมัน โดยรวมประเมินกำไร 2019F โตแรง +409% y-y และระยะสั้นคาด 2Q19F กำไร 1.03 พันลบ. โตแรง +750% y-y, +44% q-q จากทั้งธุรกิจปกติ ปริมาณขายโตแรง และกำไรพิเศษจากเงินประกัน +450 ลบ.

• Valuation: มองราคาพักตัวอยู่ในจุดที่เหมาะสม เป็นโอกาสสะสมรอบใหม่ มูลค่าพื้นฐาน 2019F ที่ 26 บาท ในขณะที่ ราคาปัจจุบันอิง PER19F เพียง 10.2x

• Catalyst: SPREAD ขายยางมะตอยล่วงหน้าใน 3Q19F อยู่ในระดับที่ดี + แนวโน้มจ่ายปันผลปี19F อยู่ในระดับสูงถึง 1.0 บาทต่อหุ้น หรือคำนวณ Dividend yield ได้เท่ากับ 4.7%

 

CPF (TP20F 32*): Support 29.0/28.5 Resistant 30.5/31.0            

• Theme: Earnings Play

• Earnings Outlook: ทิศทางกำไรปีนี้ +8% y-y ขับเคลื่อนจากราคาสุกรและไก่ในประเทศ เป็นขาขึ้น รวมถึงผลดำเนินงานในต่างประเทศก็ขยายตัวไปในทิศทางเดียวกัน และยังสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายโดยรวมได้ดี

• Valuation: เป็นหุ้นกลุ่มนำ Sector ที่มีความแข็งแกร่งในตลาดปัจจุบัน มูลค่าพื้นฐานอิงปี 2020F ที่ 32.0 บาท พร้อมจ่ายเงินปันผล 0.30 บาทต่อหุ้น ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 28 ส.ค.19

• Catalyst: Nomura มีมุมมองบวกขึ้นต่อราคาหมูจีน คาดกินเวลานานขึ้นถึง 2020F  และหลายองค์ประกอบกำไรอยู่ในทิศทางดี ทั้งราคาสุกรในจีนและไทย, ราคาไก่ไทย, ราคาวัตถุดิบเลี้ยงสัตว์เริ่มเป็นแนวโน้มลง ขณะที่ ปัญหาราคาสุกรในเวียดนามเป็นปัญหาระยะสั้นและน่าจะกลับมาฟื้นตัวใน 2H19F จาก Supply shortage รอบใหญ่

 

Note: TP (Bloomberg Consensus) , *TP(CNS), **TP(Nomura)