- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 27 August 2019 16:37
- Hits: 1148
บล.เออีซี : Daily Focus
AECS Daily Focus
--------------
Market Outlook
• วันนี้มอง SET Index แกว่งผันผวนในกรอบกว้าง ตลาดให้น้ำหนักประเด็นสงครามการค้าต่อท่าทีของทั้งฝ่ายสหรัฐฯ และจีน ก่อนมาตรการทางภาษีเริ่มมีผลบังคับใช้ 1 ก.ย.นี้ ประเมินกรอบเคลื่อนไหวในวัน 1,600 -1,630
• Market Factor
• (watch) ติดตามการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีนอย่างใกล้ชิดหลังประธานาธิบดีหสรัฐฯ กล่าวว่าจีนโทรมาและพร้อมที่จะกลับเข้าสู่โต๊ะเจรจาอย่างไรก็ดีทางจีนยังไม่ได้ยืนยันว่ามีการโทรหาสหรัฐฯ
• (+) ททท. รายงานยอดนักท่องเที่ยวต่างชาติเดือน ก.ค.เติบโต 4.72%YoY (จำนวนอยู่ที่ 3.33 ล้านคน) คิดเป็นมูลค่าราว 1.67 แสนล้านบาทเพิ่มขึ้น 3.11%YoY หนุนโดยยอดนักท่องเที่ยวจีนที่ยังเติบโต 5.81%YoY
• (watch) ติดตามมาตรการรับมือความผันผวนจากภาวะสงครามการค้า และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม จากที่ประชุม ครม.เศรษฐกิจวันศุกร์ที่ 30 ส.ค. นี้ (กรุงเทพธุรกิจ)
• (-) Consensus ปรับลดประมาณการ EPS โดยข้อมูลจาก Bloomberg Consensus พบว่าเมื่อต้นปี EPS ปี 62 ที่ 115.14 บาท ขณะที่ปัจจุบันเหลือเพียง 101.03บาท หรือลดลง 12.27%YTD
• Update Flow เมื่อวานนี้ต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 1,392.54 ลบ.ส่งผลภาพรวม MTD ต่างชาติขายสุทธิอยู่ที่ 49,931.91 ลบ. (สวนทางกับรายย่อยและสถาบันที่ซื้อสุทธิรวมกัน 57,519.0 ลบ.)
• Investment Strategy
• สัปดาห์นี้เรายังมีมุมมองเป็นลบ โดยประเมินกรอบ SET Index รายสัปดาห์ จะเปิด Downside Risk ลงมาที่แนวรับที่ 1,590 และแนวต้าน 1,650 จุด โดยมีปัจจัยกดดันจากปัจจัยต่างประเทศหลังประเด็น Trade war ระหว่างสหรัฐฯ-จีนกลับมาตึงเครียดอีกครั้ง โดยเราแนะนำให้นักลงทุนติดตามสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด อย่างไรก็ดี เราแนะนำให้นักลงทุนระมัดระวังในการลงทุน ถือเงินสดมากขึ้น และทยอยเลือกหุ้นรายตัวในหุ้นหลัก 3 กลุ่ม ดังนี้
• หุ้นกลุ่มที่จะได้ประโยชน์จากแผนกระตุ้นศก.ของรัฐฯ: เรามองว่า ครม. ชุดใหม่ที่มีการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการจะเร่งออกนโยบายกระตุ้น ศก. ในระยะสั้นเพื่อพยุง ศก. เราจึงแนะนำหุ้นที่ได้ประโยชน์และมี Upside ได้แก่ BJC (ช่วง 2H62 คาดเห็นการฟื้นตัว HoH จากการขยายสาขา BigC มากขึ้นจากสาขาทั้งในประเทศ 7 สาขา และสาขาที่กัมพูชา 1 สาขา BigC Food Place 1 สาขาและ Mini BigC ราว 200 สาขา), SEAFCO (แม้ช่วง 2H62 คาดรับรู้งานลดลง แต่ยังมี Backlog 2.3 พันลบ. คาด Secured Revenue 100% ในช่วงที่เหลือของปีนี้ บวกกับยังมี Upside Risk จากงานประมูลใหม่อีก 1.9 หมื่นลบ.), CPALL (ช่วง 3Q62 แม้เข้าสู่ Low Season แต่ด้วยการจัดโปรโมชั่น แสตมป์จัดหนักกระตุ้นยอดขาย และการได้ประโยชน์จากฐานที่ต่ำปีก่อนจะหนุนSSSG เติบโตต่อเนื่อง พร้อมยังคงเป้าขยายสาขาร้านสะดวกซื้อปีนี้ที่ 700 สาขา) และ ERW (แม้ช่วง 2Q62 กำไรปกติหดตัว แต่คาดฟื้นในช่วงครึ่งปีหลังจากปัจจัยฤดูกาล บวกกับมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวจาก ครม.)
• กลุ่ม Defensive Stock: เราเลือกหุ้นที่มีอัตราจ่ายปันผลน่าดึงดูดบวกกับกำไรช่วง 2H62 มีแนวโน้มโตดี แนะนำ ASK (ช่วง 2H62 คาดกำไรสุทธิมีแนวโน้มโตต่อ หนุนด้วยสินเชื่อรถพาณิชย์ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามงานก่อสร้างภาครัฐฯ ที่จะทยอยเร่งตัวขึ้นบวกกับคาดได้ประโยชน์จากการทยอยเปลี่ยนรถตู้เป็นรถ มินิบัสของผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะตามมาตรการของ ขสมก.
• กลุ่มที่คาดผลดำเนินงานมีแนวโน้มดีต่อเนื่อง: เหมาะกับการทยอยซื้อสะสม โดยเน้นหุ้นที่กำไรช่วง 2Q62 คาดโต YoYและช่วง 2H62 โตต่อ แนะนำSAWAD (คาดกำไรปี62 โต30.8%YoY หนุนด้วยเป้าพอร์ตสินเชื่อโต 20-30% พร้อมแผนเปิดสาขาใหม่อีก 300 สาขา, Asset Yield ฟื้นตัวตามสัดส่วนการรับรู้รายได้ผ่านสัญญาเงินกู้ผ่าน BFIT ที่มากขึ้นโดยล่าสุด SAWAD รายงานการถือครองหุ้น BFIT หลังTender Offer ที่ 82.04% บวกกับต้นทุนทางการเงินที่ปรับลงหลังได้รับเงินเพิ่มทุนจากพันธมิตร), SELIC (คาดปี 62 เห็นการ Turnaround ของกำไรสุทธิหลังเริ่มรวมงบการเงินกับ PMCT ซึ่งคาดเห็น Synergy ชัดเจนขึ้นตามลำดับทั้งในด้านการพัฒนาสินค้าใหม่และการขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มใหม่อีกทั้งยังไม่มีค่าใช้จ่ายเพื่อปรับโครงสร้างธุรกิจมากเช่นปีก่อน), III (ช่วง 2Q62 กำไรโต 45.8%YoY หนุนด้วยธุรกิจขนส่งสินค้าทางอากาศและธุรกิจบริหารจัดการโลจิสติกส์ บวกกับมีส่วนแบ่งกำไรที่โต 364%YoY จากธุรกิจที่เข้าซื้อกิจการสิงคโปร์และฮ่องกงในปี 61-62 ตามลำดับ) และ ARROW (ช่วง 2Q62 กำไรโต YoYหลังมาร์จิ้นเริ่มฟื้นตัวจากต้นทุนเหล็กที่ลดลงและนโยบายการปรับราคาขายที่ดี จึงปรับเพิ่มประมาณการคาดปี 62 กำไรทั้งปีโต 10.3%YoY)
26-Aug-19 Change (pts.) 23-Aug-19
SET Index 1,622.73 -23.95 1,646.68
SET50 Index 1,071.74 -16.95 1,088.69
SET100 Index 2,367.14 -39.01 2,406.15
High 1,624.77 Gainers 409
Low 1,609.40 Unchanged 293
Value (Bt m) 64,691.57 Losers 1,342
Volume (*000) 24,356,278
Market Valuation
SET Data 2018F 2019F Long Term
Fwd PER (x) 15.9 14.3 14.3
EPS Growth (%) 13.9 9.3 1.8
EV/EBITDA (x) 10.9 10.0 9.6
FWD PBV (x) 1.8 1.7 1.6
Dividend Yield (%) 3.1 3.5 3.7
ROE 11.0 11.2 11.2
Net Buy/Sell by Investor Types
Unit : M Bt 26-Aug-19 WTD MTD YTD
Institution (4,180.82) (4,180.82) 25,509.33 22,332.14
Proprietary 843.05 843.05 (7,587.05) 10,949.90
Foreign (1,392.54) (1,392.54) (49,931.91) 10,770.88
Individual 4,730.32 4,730.32 32,009.63 (44,052.92)
AECS ( Fundamental and Strategic Team )
จิรภัทร โบสุวรรณ (ID. 040051) [email protected]
ตฤณ สิทธิสวัสดิ์ (ID. 091364) [email protected]
ภัทรพล จันทร์อินทร์ (ID. 089932) [email protected]
ธีรยุทธ ฤทธิเผ่าพันธุ์ ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์ Data Support / Secretary