WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

AIRAMarket Outlook : บล.ไอร่า
 
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
 
SET 1,638.24  +12.67
SET50 1,080.46  +10.23
SET100  2,390.14  +22.77
 
 มูลค่าการซื้อขาย
 หน่วย (ลบ.)
 
มูลค่าการซื้อขาย
 56,879.09
 
สถาบัน
 -212.02
 
บัญชีหลักทรัพย์
 +587.92
 
ต่างประเทศ
 +753.31
 
ในประเทศ
 -1,129.20
 
P/E (เท่า) 18.64
 P/BV (เท่า) 1.82
 Dividend Yield (%)  3.11
 
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
 
(-) ตลาดต่างประเทศ DJIA +240.29, NASDAQ +71.65, S&P +23.92, FTSE +78.97, CAC +90.84 และ DAX +151.67
 
ภายใต้ปัจจัยหนุนจากหุ้นกลุ่มค้าปลีก หลังทาร์เก็ต และโลว์ส ซึ่งเป็นบริษัทจำหน่ายสินค้าตกแต่งบ้านรายใหญ่ของสหรัฐฯ เปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งและสูงกว่าคาด พร้อมปัจจัยบวก จากการประชุมเฟดเมื่อ 30-31/7/62 กรรมการบางส่วนเสนอให้มีปรับลงมากถึง 0.50% เพื่อกระตุ้นอัตราเงินเฟ้อให้ดีดตัวขึ้นสู่เป้าหมายของเฟด และลดผลกระทบจากข้อพิพาทการค้าที่เกิดขึ้นทั่วโลก
 
ขณะที่จับตาการกล่าวสุนทรพจน์ของประธานเฟด ที่เมืองแจ็กสัน โฮล 23/8/62 เวลา 10.00 น. ตามเวลาสหรัฐฯ หรือ 21.00 น. ตามเวลาไทย คาดเฟดส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย. (17 -18/9/62)
ทางด้านตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ล่าสุด (+) ยอดขายบ้านมือสอง - ก.ค. เพิ่มขึ้น 2.5% อยู่ที่ 5.42 ล้านยูนิต แต่ (-) จำนวนผู้ยื่นขอสินเชื่อเพื่อการจำนองลดลง 0.9% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา
 
ทางด้านตลาดหุ้นยุโรป ภายใต้ปัจจัยหนุนจากตลาดหุ้นอิตาลีดีดตัวขึ้น พร้อมการส่งสัญญาณของธนาคารกลางที่เป็นรูปธรรมมากขึ้นในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ช่วยคลายกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก และยังได้รับปัจจัยบวกจากหุ้นกลุ่มรถยนต์ หลังมีการเจรจาควบกิจการระหว่างบริษัทเฟียต ไครสเลอร์และเรโนลต์
ราคาน้ำมันดิบ(NYMEX) ส่งมอบเดือน ก.ย. +US$0.45 อยู่ที่ US$55.68ต่อบาร์เรล หลัง EIA เปิดเผย สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ล่าสุด ลดลง 2.7 ล้านบาร์เรล สูงกว่าที่คาดว่าจะลดลง 1.9 ล้านบาร์เรล
 
อย่างไรก็ตามสต็อกน้ำมันเบนซิน เพิ่มขึ้น 300,000 บาร์เรล สวนทางกับที่คาดว่าจะลดลง 1.6 ล้านบาร์เรล
 
พร้อมความกังวลการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก และผลกระทบจากสงครามการค้าส่งผลต่อความต้องการใช้น้ำมันลดลง
นอกจากนี้ยังได้รับปัจจัยลบจากการที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของอุปสงค์น้ำมันทั่วโลก ลง 40,000 บาร์เรล/วันในปี’62 สู่ 1.10 ล้านบาร์เรล/วัน และคาดว่าตลาดจะเผชิญภาวะน้ำมันล้นตลาดในปี’63
ราคาทองคำ(COMEX) ส่งมอบเดือน ธ.ค. ทรงตัวที่ US$ 1,515.70 ต่อออนซ์  โดยเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ  และปิดทรงตัว ก่อนที่เฟดจะเปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 30 - 31 ก.ค. โดยตลาดทองคำนิวยอร์กปิดทำการซื้อขายก่อนที่เฟดจะเปิดเผยรายงานดังกล่าว
 
(+) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ +753 ล้านบาท ยอดสะสม
+13,863 ล้านบาท (ปี’57 และ 58 ยอดขายสุทธิสะสม 36,173 ล้านบาทและ 154,346 ล้านบาท ตามลำดับ ขณะที่ปี’59 ซื้อสุทธิสะสม 77,927 ล้านบาท ส่วนปี’60 และ 61 ขายสุทธิสะสม 25,755 ล้านบาท และ 287,459 ล้านบาท)
 
ประเด็นที่ต้องติดตาม 22 - 26 ส.ค.’62
 
22/8/62 สหรัฐฯ เปิดเผย
 
ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้นเดือนส.ค.
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นต้นเดือนส.ค.
ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนก.ค.
23/8/62 สหรัฐฯ เปิดเผย
 
ยอดขายบ้านใหม่เดือนก.ค.
26/8/62 สหรัฐฯ เปิดเผย
 
ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.ค.
ดัชนีกิจกรรมเศรษฐกิจทั่วประเทศเดือนก.ค.จากเฟดชิคาโก
 
ทิศทางตลาด
 
ผันผวน? คาดยังได้รับ Sentiment บวกจากประเด็นเดิมทั้งในประเทศและต่างประเทศ หลังกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยยอดส่งออก - ก.ค. เพิ่มขึ้น 4.3% สูงสุดในรอบ 5 เดือน ซึ่งดีกว่าความคาดหมายของตลาดฯ พร้อมแนะติดตาม (1) มาตรการกระตุ้นการลงทุนและการส่งออก ในการประชุม ครม.เศรษฐกิจครั้งต่อไป คาดจะมีขึ้นในช่วงวันที่ 30/8/62 – 2/9/62 หลังการกระตุ้นการบริโภคและการท่องเที่ยวไปแล้ว ทำให้คาดแนวโน้มเศรษฐกิจ 2H/62 ดีกว่า  1H/62 (2) Fund Flow แนะติดตามแรงซื้อต่างชาติต่อเนื่อง? หลังล่าสุดกลับเข้ามาซื้อสุทธิ ประมาณ 753 ล้านบาท จากก่อนหน้าตั้งแต่ต้น ส.ค. ขายสุทธิออกมาสูงกว่า 46,800 ล้านบาท และ (3) การผ่อนคลายมาตรการ LTV โดยผ่อนปรนการนับสัญญากรณีกู้ร่วม โดยถ้าผู้กู้ไม่มีชื่อเป็นกรรมสิทธิ์ จะผ่อนปรนเสมือนยังไม่เป็นผู้กู้ในครั้งนั้น เนื่องจากไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่ออยู่อาศัย เพียงแค่ช่วยเหลือกันภายในครอบครัว คาดเป็น Sentiment บวกต่อกลุ่มที่อยู่อาศัย คาดเป็นการส่งสัญญาณในเชิงบวกในการเริ่มผ่อนคลายกฎเกณฑ์ LTV ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เม.ย. ที่ผ่านมา และส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของกลุ่มที่อยู่อาศัยใน 2Q/62
 
ทางด้านต่างประเทศ คาดได้รับ Sentiment บวกเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะประเด็นการส่งสัญญาณผ่อนคลายทางการเงินของเฟด ที่คาดมีโอกาสสูงที่จะพิจารณาลดอัตราดอกเบี้ยลงในการประชุม 17 – 18/6/62 หลังการเปิดเผยรายงานการประชุมเฟดเมื่อวันที่ 30-31/7/62 มีกรรมการบางส่วนเสนอให้มีการลดสูงถึง 0.50% พร้อมติดตามถ้อยแถลงประธานเฟด (23/8/62) ที่เมืองแจ๊กส้น โฮล คาดมีการส่งสัญญาณทิศทางอัตราดอกเบี้ย โดยเฉพาะในการประชุมเฟด 17 – 18/9/62
 
รวมถึงยังได้รับปัจจัยหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งจีนและเยอรมัน ซึ่งช่วยลดความกังวลต่อเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มถดถอย
 
ส่วนทางด้านราคาน้ำมัน คาดยังมีความผันผวน การลงทุนในกลุ่มกลุ่มพลังงาน ยังแนะนำเพียงเก็งกำไร คาดภาพรวมยังคงถูกดดันจากความต้องการพลังงาน ที่ได้รับผลกระทบจากสงครามการค้า รวมถึงสินค้า Commodity เช่น ผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี เป็นต้นอย่างไรก็ตามแนะติดตามการเจรจาของกลุ่มผู้ผลิตน้ำมัน ซึ่งก่อนหน้ามีการคาดการณ์ว่าอาจมีการปรับลดการผลิตเพิ่ม (ปัจจุบันลดการผลิต 1.2 ล้านบาร์เรล/วัน ถึง 1Q/63) หลังราคาน้ำมันลดลงต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา
 
ทางด้านสงครามการค้า แนะจับตาการเจรจาระดับเจ้าหน้าที่ของทั้ง 2 ประเทศในเดือนก.ย. หลังสหรัฐฯ ประกาศเลื่อนการจัดเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีน จาก 1/9/62 เป็น 15/12/62 พร้อมถอดสินค้าบางรายการออกจากรายการสินค้าของจีนที่จะถูกเรียกเก็บครั้งใหม่ ทำให้คาดมูลค่าลดลงจากเดิมประมาณ 300,000 ล้านUSD พร้อมท่าทีที่อ่อนลงของจีน คาดหากการเจรจาในครั้งนี้มีความคืบหน้า ชัดเจน และส่งสัญญาณที่ดี คาดกลับมาเป็นปัจจัยหนุนภาพรวมตลาด
และยังแนะจับตา
 
(1) กลุ่มโรงไฟฟ้า ซึ่งเป็นกลุ่มที่รายได้มีความมั่นคง เช่น BGRIM, GULF และ CKP เป็นต้น
 
(2) กลุ่มการเงิน คาดผลการดำเนินงานเติบโตต่อเนื่อง เช่น MTC และ SAWAD เป็นต้น
 
(3) กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม จากโครงการ EEC เช่น AMATA และ WHA เป็นต้น
 
(4) กลุ่มรับเหมาก่อสร้างจากแผนการลงทุนโครงการภาครัฐต่อเนื่อง จากรัฐบาลใหม่ เช่น STEC และ CK เป็นต้น
 
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ อายุ 10 ปี +0.016 อยู่ที่ 1.577% (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54)
 
ดัชนีความเสี่ยง (VIX) -1.70 มาอยู่ที่ 15.80
 
หุ้นแนะนำ - ประจำวัน : BGRIM
 
หุ้นแนะนำ - ส.ค.’62 : ADVANC, AP, CK, JKN, KBANK และ PTTEP
 
หุ้นแนะนำ
 
BGRIM : คาดกำไรสุทธิมีโอกาสทำ New High ต่อเนื่อง อย่างน้อยถึงปี’64
 
คาด BGRIM จะมีผลการดำเนินงานเติบโตต่อเนื่อง 6 - 7 ปีข้างหน้า จากการเปิดดำเนินงานโรงไฟฟ้าในไทย ลาว และเวียดนาม ซึ่งส่งผลให้มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 3,245 MW ในปี’68 จาก 2,076 MW เมื่อปี’61
เมื่อ 17 มิ.ย.’62 BGRIM แจ้งตลาดฯ เริ่มเปิดดำเนินงานเชิงพาณิชย์ โครงการโรงไฟฟ้าที่เวียดนาม (1) โครงการ DT1 (BGRIM ถือหุ้น 55%) และ DT2 (BGRIM ถือหุ้น 55%) กำลังการผลิตรวม 420 MW ซึ่ง COD เมื่อวันที่ 3  มิ.ย. และ 13 มิ.ย.’62 และ (2) โครงการ Phu Yen TPP (BGRIM ถือหุ้น 80%) เริ่ม COD เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.’62 
BGRIM อยู่ระหว่างเจรจาโรงไฟฟ้าเพิ่มเติมในอีกหลายประเทศ เช่น เกาหลี ไต้หวัน ฟิลิปปินส์ และมาเลเซีย โดยอาศัยความแข็งแกร่ง จากเครือข่ายของ BGRIM ในต่างประเทศ
ปัจจุบันหุ้นซื้อขาย บน PE ปี’63 ประมาณ 28 เท่า พร้อมคาดผลตอบแทนจากเงินปันผลปี’62 อยู่ที่ 1.2% แนะนำ “ซื้อลงทุน” ประเมินราคาเป้าหมายปี’62 ที่ 39.00 บาท (DCF)
 
หุ้นในข่าว (ข่าวหุ้น 22/08/62)
 
MSCIเพิ่มน้ำหนัก'อินทัช’ฝรั่งเข้าลงทุน600ล้านบ. โบรกฯอัพเป้ากำไร8หุ้นนำโดยTRUE-CPF-SCB-JAS
 
ต่างชาติรุมเพิ่มน้ำหนักลงทุน INTUCH ล่าสุด MSCI ทำเซอร์ไพรส์ เพิ่มน้ำหนักลงทุนอินทัช 20 ล้านเหรียญฯ หรือ 600 ล้านบาท มีผล 27 ส.ค.นี้ หลังจากฟุตซี่เพิ่มไปก่อนหน้านี้ เหตุฟรีโฟลตที่เพิ่ม โบรกฯปรับกำไร INTUCH เพิ่มเป็น 1.26 หมื่นล้านบาท เป้า 73 บาท ส่วนแนวโน้มตลาดฯ วันนี้ลุ้นดัชนีวิ่งต่อ ด้าน บล.เอเซีย พลัส เพิ่มเป้ากำไรปีนี้กับ 8 บจ. TRUE, CPF, SCB, ADVANC, KTB, JAS, TTCL และ OISHI
 
ข้อมูล Consensus (www.settrade.com) : ราคาเป้าหมายเฉลี่ย INTUCH 72.60 บาท, TRUE 6.43 บาท, CPF 33.48 บาท, SCB 153.20 บาท, ADVANC 225.00 บาท, KTB 20.91 บาท, JAS 5.93 บาท, TTCL 10.60 บาท, OISHI – บาท
 
AOT ลั่นรายได้ปีนี้โต 6% ชี้กำไรยืน 2.5 หมื่นล้าน
 
AOT คาดรายได้ปีนี้เติบโต 6% เหตุผู้โดยสารต่างประเทศเพิ่มขึ้น 4-5% ส่วนกำไรทั้งปีใกล้เคียง 2.5 หมื่นล้านบาท จับตาผลงานปี 64 โตก้าวกระโดด โชว์รายได้ Non Aero เพิ่มอีก 1.7 หมื่นล้านบาท จากสัญญาดิวตี้ฟรี ล่าสุดเปิดตัวแอปพลิเคชัน AOT DIGITAL AIRPORTS
 
ข้อมูล Consensus (www.settrade.com) : ราคาเป้าหมายเฉลี่ย 81.00 บาท
 
ซื้อ PSH-ANAN รับปันผล ก่อนแขวน XD วันพรุ่งนี้
 
วันนี้โอกาสสุดท้าย ซื้อ PSH-ANAN ได้รับเงินปันผล ก่อนขึ้น XD พรุ่งนี้ PSH จ่ายปันผล 0.60 บาท ส่วน ANAN ปันผล 0.091 บาท โบรกฯเชียร์ “ซื้อ” PSH ราคาเป้าหมาย 23 บาท และ ANAN ราคาเป้าหมาย 4.50 บาท
 
ข้อมูล Consensus (www.settrade.com) : ราคาเป้าหมายเฉลี่ย PSH 21.56 บาท, ANAN 4.20 บาท
 
'สนธิรัตน์' จ่อชง กพช. กลางเดือนกันยายนนี้ หนุนชุมชนผลิตไฟฟ้า
 
“สนธิรัตน์” เตรียมชง “กพช.” กลางก.ย.นี้ พิจารณาหนุนชุมชนมีส่วนร่วมผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน พร้อมปรับแผนพีดีพี 2018 พร้อมเปิดใจรับฟังความคิดเห็นกลุ่มคปพ.เสนอปรับแผนพลังงาน
 
RATCH ซื้อของดีราคาถูก ฮุบไฟฟ้านวนคร 110 MW
 
RATCH ซื้อของดีราคาถูก ทุ่มงบ 1,998 ล้านบาท ซื้อหุ้น “NNE” 99.97% ฮุบโรงไฟฟ้านวนครการไฟฟ้า กำลังผลิต 110 MW มูลค่ากิจการสูงกว่า 5,727 ล้านบาท คาดดำเนินการแล้วเสร็จไตรมาส 3/62 หวังผลักดันการเติบโตตามเป้าหมาย
 
ข้อมูล Consensus (www.settrade.com) : ราคาเป้าหมายเฉลี่ย 71.48 บาท
 
'DIF’ ขึ้น XD 26 ส.ค.นี้ ราคาใหม่ 19.40 บาท
 
โบรกฯแนะลงทุนกองทุน DIF และใช้สิทธิ์รับหุ้นเพิ่มทุน เคาะราคาพื้นฐานหลังเพิ่มทุน 19.40 บาท กองทุนมีความมั่นคงเพิ่มหลังซื้อสินทรัพย์รอบใหม่ จ่ายปันผลไม่ลดลงจาก 1.04 บาท ทุกไตรมาส เก็บก่อนขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 26 สิงหาคมนี้
 
ข้อมูล Consensus (www.settrade.com) : ราคาเป้าหมายเฉลี่ย 18.18 บาท
 
BCPG เร่งขยายกำลังการผลิต เล็งลงทุนโรงไฟฟ้าในมาเลย์-เวียดนาม-ลาว
 
“บีซีพีจี”เล็งขยายลงทุนโรงไฟฟ้าในมาเลเซีย-เวียดนาม-ลาว เพื่อเพิ่มกำลังการผลิต พร้อมรับผลดีหลังกระทรวงพลังงานปรับสัดส่วนพลังงานทดแทนเพิ่มในแผนพีดีพี 2018 คาดครึ่งปีหลังอีบิทด้าโต 15%
 
ข้อมูล Consensus (www.settrade.com) : ราคาเป้าหมายเฉลี่ย 17.68 บาท
 
ดีอีตั้งคณะกรรมการ แก้ปัญหาข่าวปลอม สรุปกก.ย่อย 29 ส.ค.
 
“รมว.ดีอี” ตั้งคณะกรรมการประสานงานและแก้ไขปัญหาข่าวปลอมที่กระทบต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินประชาชน จ่อสรุปตั้งคณะกรรมการย่อย 29 ส.ค.นี้ คาดศูนย์ตรวจสอบข่าวปลอมพร้อมทำงานต.ค.นี้
 
ข้อมูล Consensus (www.settrade.com) : ราคาเป้าหมายเฉลี่ย - บาท
 
ACG เดินหน้าเปิดสาขาทุกภูมิภาค ครึ่งหลังแจ่มรับดีมานด์รถยนต์โต
 
“ACG” ลุยขยายสาขาครอบคลุมทุกภูมิภาคทั่วไทย เน้นเพิ่มพื้นที่ให้บริการลูกค้า พร้อมมอบบริการที่ดีเยี่ยมอย่างต่อเนื่อง ฟาก “ซีอีโอ” ลั่นผลงานครึ่งปีหลังแนวโน้มสดใส รับความต้องการใช้รถยนต์เติบโต
 
ข้อมูล Consensus (www.settrade.com) : ราคาเป้าหมายเฉลี่ย - บาท
 
นักวิเคราะห์ : จิตรลดา เลขาพันธ์     โทร. 02-080-2630

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!