•    วันนี้มอง SET Index แกว่งตั้งหลักในกรอบ 1,615-1,635 จุด  หลังที่ประชุม ครม. วานนี้อนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงินกว่า 3.16 แสนล้านบาท ขณะที่ปัจจัย ตปท.ความกังวล Trade warลดลง พร้อมแนะนำติดตามรายงานการประชุม FED คืนนี้และถ้อยแถลงจากประธาน FED  ปลายสัปดาห์นี้

•    Market Factor

•    (watch) ติดตามรายงานการประชุม Fed เดือน ก.ค. ในวันนี้เพื่อจับตาทิศทางภาวะเศรษฐกิจและอัตรา เงินเฟ้อบวกกับการกล่าวสุนทรพจน์จากประธาน Fed นายเจอโรม พาวเวลในวันที่ 23 ส.ค. เพื่อกำหนดทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางในอนาคต

•    (+) ที่ประชุม ครม.มีมติเห็นชอบมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจปี 3.16 แสนล้านครอบคลุม 4 เรื่องหลักดังนี้   1) บรรเทาค่าครองชีพผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและกองทุนหมู่บ้าน 2) บรรเทาค่าครองชีพสำหรับเกษตรกรผู้ประสบภัยแล้ง และเกษตรกรรายย่อย 3)กระตุ้นการบริโภคและการลงทุนภายในประเทศ และ 4) แต่งตั้งคณะกรรมการติดตามเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยเป็นการอุมัติตามแผนมาตรการที่อนุมัติเมื่อวันศุกร์ ยกเว้นประเด็นมาตรการเว้นวีซ่า นทท.จีน และอินเดีย เนื่องจากต้องคำนึงถึงความมั่นคงและความปลอดภัยเป็นหลัก ( สำนักข่าวอินโฟเควสท์)

•    (watch) ก.ล.ต.เตรียมเฮียริ่งปรับเกณฑ์คุมเข้มหุ้นกู้เสี่ยงสูง สำหรับหุ้นกู้ไม่มีเรตติ้งหรือเครดิตต่ำกว่า BBB ปิดประตูรายย่อยลงทุนลง ให้นักลงทุนสถาบัน-กรรมการบริษัทลงทุนเท่านั้น หลัง 7 เดือนแรกพบหุ้นกู้ผิดนัดชำระกว่า 1.7 พันล้านบาท หวัง "โบรกเกอร์-แบงก์" ทำโปรดักส์สกรีนนิ่งก่อนขาย พร้อมเพิ่มความเข้มงวดติดตามผู้ออกหุ้นกู้ (ประชาชาติธุรกิจ)

•    (-) Consensus ปรับลดประมาณการ EPS โดยข้อมูลจาก Bloomberg Consensus พบว่าเมื่อต้นปี EPS ปี 62 ที่ 115.14 บาท ขณะที่ปัจจุบันเหลือเพียง 101.26บาท หรือลดลง 12.05%YTD

•    Update Flow เมื่อวานนี้ต่างชาติคงขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 2,990.50 ลบ.ส่งผลภาพรวม MTD ต่างชาติขายสุทธิเพิ่มเป็น 47,592.85 ลบ. (สวนทางกับรายย่อยและสถาบันที่ซื้อสุทธิรวมกัน 55,353.18 ลบ.)

•    Investment Strategy

•    สัปดาห์นี้ เราประเมินดัชนี SET Index จะ Sideway ในกรอบ 1,610-1,650 จุด  โดยมีปัจจัยหนุนหลักในระยะกลางจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากรัฐบาล ขณะที่ยังต้องติดตามรายงานประชุม Fed รวมถึงถ้อยแถลงของประธาน Fed และการประชุม G7 ในช่วงปลายสัปดาห์ อย่างไรก็ดีในช่วงสั้นเรายังแนะนำให้นักลงทุนทยอยเลือกหุ้นรายตัวในหุ้นหลัก 4 กลุ่ม ดังนี้

•    หุ้นกลุ่มที่จะได้ประโยชน์จากแผนกระตุ้นศก.ของรัฐฯ: เรามองว่า ครม. ชุดใหม่ที่มีการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการจะเร่งออกนโยบายกระตุ้น ศก. ในระยะสั้นเพื่อพยุง ศก. เราจึงแนะนำหุ้นที่ได้ประโยชน์และมี Upside ได้แก่ BJC (ช่วง 2H62 คาดเห็นการฟื้นตัวHoHจากการขยายสาขาBigCมากขึ้นจากสาขาทั้งในประเทศ 7 สาขาและสาขาที่กัมพูชา 1 สาขา BigC Food Place 1 สาขาและ Mini BigC ราว 200 สาขา), SEAFCO (แม้คาดครึ่งปีหลังจะรับรู้งานลดลง แต่ยังมี Upside Risk จากงานประมูลใหม่ๆจากทั้งภาครัฐ/เอกชน), CPALL (ช่วง 3Q62 แม้เข้าสู่ Low Season แต่ด้วยการจัดโปรโมชั่น แสตมป์จัดหนักกระตุ้นยอดขาย และการได้ประโยชน์จากฐานที่ต่ำปีก่อนจะหนุน SSSG เติบโตต่อเนื่อง พร้อมยังคงเป้าขยายสาขาร้านสะดวกซื้อปีนี้ที่ 700 สาขา) และ ERW (แม้ช่วง 2Q62 กำไรปกติหดตัว แต่คาดฟื้นในช่วงครึ่ง     ปีหลังจากปัจจัยฤดูกาล บวกกับมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวจาก ครม.)

•    กลุ่ม Defensive Stock: เราเลือกหุ้นที่มีอัตราจ่ายปันผลน่าดึงดูดบวกกับกำไรช่วง 2H62 มีแนวโน้มโตดี แนะนำ ASK (ช่วง 2H62 คาดกำไรสุทธิมีแนวโน้มโตต่อ หนุนด้วยสินเชื่อรถพาณิชย์ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามงานก่อสร้างภาครัฐฯที่จะทยอยเร่งตัวขึ้นบวกกับคาดได้ประโยชน์จากการทยอยเปลี่ยนรถตู้เป็นรถมินิบัสของผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะตามมาตรการของ ขสมก., GPI แม้กำไรช่วง 2Q62 ลดลง YoYและ QoQ จากการรับรู้ค่าเช่าของจำนวนวันการจัดงานมอเตอร์โชว์ลดลง YoY รวมถึง 3Q62และ 4Q62 ยังคงรับรู้ขาดทุนจากผลของฤดูกาล แต่คาดธุรกิจกลับมาฟื้นตัวได้ในปี 63 จากการรุกจัดงานมอเตอร์โชว์ที่เมียนมาร์ และการเพิ่มรูปแบบ Event ใหม่ GP eRacing หนุนธุรกิจหลัก และต่อยอดสู่ธุรกิจ Gaming ในอนาคต บวกกับGPI มีจุดเด่นที่ปันผลสูง จ่ายปันผล 0.10 บ. XD 22 ส.ค. (คิดเป็น Div. Yield5%)

•    กลุ่มที่คาดผลดำเนินงานมีแนวโน้มดีต่อเนื่อง: เหมาะกับการทยอยซื้อสะสม โดยเน้นหุ้นที่กำไรช่วง 2Q62 คาดโต YoYและช่วง 2H62 โตต่อ แนะนำ SAWAD (คาดกำไรปี62 โต30.8%YoY หนุนด้วยเป้าพอร์ตสินเชื่อโต 20-30% พร้อมแผนเปิดสาขาใหม่อีก300 สาขา,  Asset Yield ฟื้นตัวตามสัดส่วนการรับรู้รายได้ผ่านสัญญาเงินกู้ผ่าน BFIT ที่มากขึ้นโดยล่าสุด SAWAD รายงานการถือครองหุ้น BFIT หลังTender Offer ที่ 82.04% บวกกับต้นทุนทางการเงินที่ปรับลงหลังได้รับเงินเพิ่มทุนจากพันธมิตร), SELIC (คาดปี 62 เห็นการ Turnaround ของกำไรสุทธิหลังเริ่มรวมงบการเงินกับPMCT ซึ่งคาดเห็น Synergy ชัดเจนขึ้นตามลำดับทั้งในด้านการพัฒนาสินค้าใหม่และการขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มใหม่อีกทั้งยังไม่มีค่าใช้จ่ายเพื่อปรับโครงสร้างธุรกิจมากเช่นปีก่อน), III (ช่วง 2Q62 กำไรโต 45.8%YoY หนุนด้วยธุรกิจขนส่งสินค้าทางอากาศและธุรกิจบริหารจัดการโลจิสติกส์ บวกกับมีส่วนแบ่งกำไรที่โต 364%YoY จากธุรกิจที่เข้าซื้อกิจการสิงคโปร์และฮ่องกงในปี 61-62 ตามลำดับ) และ ARROW (ช่วง 2Q62 กำไรโต YoYหลังมาร์จิ้นเริ่มฟื้นตัวจากต้นทุนเหล็กที่ลดลงและนโยบายการปรับราคาขายที่ดี จึงปรับเพิ่มประมาณการคาดปี 62 กำไรทั้งปีโต 10.3%YoY)

•    หุ้นกลุ่มที่จะได้จากมาตรการผ่อนปรน LTV สำหรับผู้กู้ร่วม: จากข้อมูลสรุปผลการดำเนินงานของ ธพ.ช่วง 2Q62 พบว่าผลของมาตรการLTV หลังบังคับใช้มา3 เดือนผู้กู้สัญญาที่2 ขึ้นไปการกู้ซื้อบ้านยังมีการขยายตัว3.3% แต่การกู้ซื้อคอนโดหดตัว24.8% ทำให้เรามองว่าหุ้นที่จะได้รับประโยชน์จากมาตรการนี้คือหุ้นกลุ่มอสังหาฯที่มีพอร์ตคอนโดเป็นหลักได้แก่ ANAN (ช่วง2H62 มีแผนเปิดตัวคอนโดอีก6 โครงการและ ORI (ช่วง 2H62 มีแผนเปิดโครงการใหม่ เช่น Theorigin, Park origin และ District rayong คิดเป็น65% ของพอร์ตในปีนี้)

 

 20-Aug-19    Change (pts.)    19-Aug-19

SET Index    1,625.57    -11.69    1,637.26

SET50 Index    1,070.23    -9.52    1,079.75

SET100 Index    2,367.37    -20.62    2,387.99

 

High    1,643.41    Gainers    545

Low    1,621.85    Unchanged    366

Value (Bt m)    56,866.61    Losers    1,034

Volume (*000)    20,451,724          

 

Market Valuation

SET Data    2018F    2019F    Long Term

Fwd PER (x)    15.9    14.3    14.3

EPS Growth (%)    13.9    9.3    1.8

EV/EBITDA (x)    10.9    10.0    9.6

FWD PBV (x)    1.8    1.7    1.6

Dividend Yield (%)    3.1    3.5    3.7

ROE    11.0    11.2    11.2

 

Net Buy/Sell by Investor Types

Unit : M Bt    20-Aug-19    WTD    MTD    YTD

Institution    1,247.50    6,925.39    26,449.01    23,271.82

Proprietary    256.21    (336.98)    (7,760.33)    10,776.62

Foreign     (2,990.50)    (7,103.47)    (47,592.85)    13,109.95

Individual    1,486.78    515.06    28,904.17    (47,158.39)

 

AECS ( Fundamental and Strategic Team )

 

จิรภัทร  โบสุวรรณ (ID. 040051)    [email protected]

ตฤณ  สิทธิสวัสดิ์ (ID. 091364)    [email protected]

ภัทรพล จันทร์อินทร์ (ID. 089932)    [email protected]

ธีรยุทธ  ฤทธิเผ่าพันธุ์    ผู้ช่วยนักวิเคราะห์

สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์    Data Support / Secretary