- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 19 August 2019 16:03
- Hits: 1129
บล.เออีซี : Daily Focus
AECS Daily Focus
-------------
Market Outlook
• วันนี้มอง SET Index ฟื้นตัวต่อเนื่อง หลังครม.เห็นชอบมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศวงเงินกว่า 3.16 แสนล้านบาท ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศนลท.ลดความกังวลประเด็น Inverted Yield Curve ลงบวกกับยังคงติดตามถ้อยแถลงจาก FED ช่วงกลางสัปดาห์ ประเมินกรอบเคลื่อนไหวที่1,625-1,650 จุด
• Market Factor
• (+) ความกังวลของนักลงทุนต่อภาวะ Inverted Yield Curve บรรเทาลง หลังตัวเลข ศก. สหรัฐฯ ยังดี ทำให้ 10Y US Bond Yield เริ่มปรับสูงขึ้นเป็น 1.5332 สูงกว่า 2Y US Bond Yield และ VIX Index ปรับลง 12.8%DoD
• (+) ครม.เศรษฐกิจ เห็นชอบวงเงินรวม 3.16 แสนล้านบาท ครอบคุลม 3 ด้าน ดังนี้ 1)มาตการเพื่อบรรเทาค่าครองชีพสำหรับเกษตรกรทั่วไป และเกษตรกรผู้ประสบภัยแล้ง2)มาตการกระตุ้นการบริโภคและการลงทุนภายในประเทศผ่านมาตรการสนับสนุนท่องเที่ยว ชิม ช้อป ใช้ โดยให้เงินสนับสนุนผ่าน e-wallet 3)มาตรการด้านค่าครองชีพ ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและมาตรการพักชำระหนี้ พร้อมวางเป้า GDP ปี62 ขยายตัวได้ไม่ต่ำกว่า 3% และไม่ต่ำกว่า 3.5%ในปี 63 (ข่าวสด)
• (-) Consensus ปรับลดประมาณการ EPS โดยข้อมูลจาก Bloomberg Consensus พบว่าเมื่อต้นปี EPS ปี 62 ที่ 115.14 บาท ขณะที่ปัจจุบันเหลือเพียง 101.11บาท หรือลดลง 12.19%YTD
• Update Flow เมื่อวานศุกร์ที่ผ่านมาต่างชาติคงขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 5,068.91ลบ.ส่งผลภาพรวม MTD ต่างชาติขายสุทธิเพิ่มเป็น 40,489.39 ลบ.
• Investment Strategy
• สัปดาห์นี้เราประเมินดัชนี SET Index สามารถปรับตัวขึ้นต่อเพื่อทดสอบแนวต้าน 1,670 จุด (แนวรับ 1,620 จุด) โดยแม้จะมีปัจจัยกดดันหลัง Consensus ยังคงปรับลด EPS อย่างต่อเนื่อง แต่คาดถูกกลบด้วยปัจจัยหนุนหลักจากมาตรการที่กระตุ้นเศรษฐกิจจากรัฐบาล ขณะที่ปัจจัยกดดันจากต่างประเทศเริ่มคลี่คลายลง ซึ่งคาดช่วยพยุงตลาดหุ้นไว้ได้ อย่างไรก็ดีในช่วงสั้นเรายังแนะนำให้นักลงทุนทยอยเลือกหุ้นรายตัวในหุ้นหลัก 4 กลุ่ม ดังนี้
• หุ้นกลุ่มที่จะได้ประโยชน์จากแผนกระตุ้นศก.ของรัฐฯ: เรามองว่าครม. ชุดใหม่ที่มีการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการจะเร่งออกนโยบายกระตุ้น ศก. ในระยะสั้นเพื่อพยุง ศก. เราจึงแนะนำหุ้นที่ได้ประโยชน์และมี Upside ได้แก่ BJC (ช่วง 2H62 คาดเห็นการฟื้นตัว HoH จากการขยายสาขา BigC มากขึ้นจากสาขาทั้งในประเทศ 7 สาขาและสาขาที่กัมพูชา 1 สาขาBigC Food Place 1 สาขาและ Mini BigCราว 200 สาขา), SEAFCO (ช่วง 2Q62 กำไรปกติหด 3.5%QoQ จากการปิดโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ แม้คาดครึ่งปีหลังจะรับรู้งานลดลง แต่ยังมี Upside Risk จากงานประมูลใหม่ๆ จากทั้งภาครัฐ/เอกชน) และ CPALL (ช่วง 3Q62 แม้เข้าสู่ Low Season แต่ด้วยการจัดโปรโมชั่น แสตมป์จัดหนักกระตุ้นยอดขาย และการได้ประโยชน์จากฐานที่ต่ำปีก่อนจะหนุนSSSG เติบโตต่อเนื่อง พร้อมยังคงเป้าขยายสาขาร้านสะดวกซื้อปีนี้ที่ 700 สาขา)
• กลุ่ม Defensive Stock: เราเลือกหุ้นที่มีอัตราจ่ายปันผลน่าดึงดูดบวกกับกำไรช่วง 2H62 มีแนวโน้มโตดี แนะนำ ASK (ช่วง 2H62 คาดกำไรสุทธิมีแนวโน้มโตต่อ หนุนด้วยสินเชื่อรถพาณิชย์ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามงานก่อสร้างภาครัฐฯ ที่จะทยอยเร่งตัวขึ้นบวกกับคาดได้ประโยชน์จากการทยอยเปลี่ยนรถตู้เป็นรถมินิบัสของผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะตามมาตรการของ ขสมก., GPI แม้กำไรช่วง 2Q62 ลดลงYoYและ QoQ จากการรับรู้ ค่าเช่าของจำนวนวันการจัดงานมอเตอร์โชว์ลดลง YoY รวมถึง 3Q62และ4Q62 ยังคงรับรู้ขาดทุนจากผลของฤดูกาล แต่คาดธุรกิจกลับมาฟื้นตัวได้ในปี 63 จากการรุกจัดงานมอเตอร์โชว์ที่เมียนมาร์ และการเพิ่มรูปแบบ Event ใหม่ GP eRacing หนุนธุรกิจหลัก และต่อยอดสู่ธุรกิจ Gaming ในอนาคต บวกกับ GPI มีจุดเด่นที่ปันผลสูง จ่ายปันผล 0.10 บ. (คิดเป็น Div. Yield5%)
• กลุ่มที่คาดผลดำเนินงานมีแนวโน้มดีต่อเนื่อง: เหมาะกับการทยอยซื้อสะสม โดยเน้นหุ้นที่กำไรช่วง 2Q62 คาดโต YoY และช่วง 2H62 โตต่อ แนะนำ SAWAD (คาดกำไรปี 62 โต30.8%YoY หนุนด้วยเป้าพอร์ตสินเชื่อโต20-30% พร้อมแผนเปิดสาขาใหม่อีก 300 สาขา, Asset Yield ฟื้นตัวตามสัดส่วนการรับรู้รายได้ผ่านสัญญาเงินกู้ผ่าน BFIT ที่มากขึ้นโดยล่าสุด SAWAD รายงานการถือครองหุ้น BFIT หลัง Tender Offer ที่82.04% บวกกับต้นทุนทางการเงินที่ปรับลงหลังได้รับเงินเพิ่มทุนจากพันธมิตร), SELIC (คาดปี 62 เห็นการTurnaround ของกำไรสุทธิหลังเริ่มรวมงบการเงินกับPMCT ซึ่งคาดเห็นSynergy ชัดเจนขึ้นตามลำดับทั้งในด้านการพัฒนาสินค้าใหม่และการขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มใหม่อีกทั้งยังไม่มีค่าใช้จ่ายเพื่อปรับโครงสร้างธุรกิจมากเช่นปีก่อน), III (ช่วง 2Q62 กำไรโต 45.8%YoY หนุนด้วยธุรกิจขนส่งสินค้าทางอากาศและธุรกิจบริหารจัดการโลจิสติกส์ บวกกับมีส่วนแบ่งกำไรที่โต 364%YoY จากธุรกิจที่เข้าซื้อกิจการสิงคโปร์และฮ่องกงในปี 61-62 ตามลำดับ)และ ARROW (ช่วง 2Q62 กำไรโต YoYหลังมาร์จิ้นเริ่มฟื้นตัวจากต้นทุนเหล็กที่ลดลงและนโยบายการปรับราคาขายที่ดี จึงปรับเพิ่มประมาณการคาดปี 62 กำไรทั้งปีโต 10.3%YoY)
• หุ้นกลุ่มที่จะได้จากมาตรการผ่อนปรน LTV สำหรับผู้กู้ร่วม : จากข้อมูลสรุปผลการดำเนินงานของธพ.ช่วง2Q62 พบว่าผลของมาตรการ LTV หลังบังคับใช้มา 3 เดือนผู้กู้สัญญาที่2 ขึ้นไปการกู้ซื้อบ้านยังมีการขยายตัว3.3% แต่การกู้ซื้อคอนโดหดตัว 24.8% ทำให้เรามองว่าหุ้นที่จะได้รับประโยชน์จากมาตรการนี้คือหุ้นกลุ่ม อสังหาฯ ที่มีพอร์ตคอนโดเป็นหลัก ได้แก่ ANAN (ช่วง2H62 มีแผนเปิดตัวคอนโดอีก6 โครงการและ ORI (ช่วง2H62 มีแผนเปิดโครงการใหม่ เช่น The origin,Park origin และ District rayong คิดเป็น 65% ของพอร์ตในปีนี้)
16-Aug-19 Change (pts.) 15-Aug-19
SET Index 1,631.40 27.37 1,604.03
SET50 Index 1,075.84 19.52 1,056.32
SET100 Index 2,379.08 43.46 2,335.62
High 1,632.42 Gainers 1,207
Low 1,607.22 Unchanged 315
Value (Bt m) 66,019.24 Losers 479
Volume (*000) 23,700,408
Market Valuation
SET Data 2018F 2019F Long Term
Fwd PER (x) 15.9 14.3 14.3
EPS Growth (%) 13.9 9.3 1.8
EV/EBITDA (x) 10.9 10.0 9.6
FWD PBV (x) 1.8 1.7 1.6
Dividend Yield (%) 3.1 3.5 3.7
ROE 11.0 11.2 11.2
Net Buy/Sell by Investor Types
Unit : M Bt 16-Aug-19 WTD MTD YTD
Institution 7,716.26 17,033.55 19,523.63 16,346.44
Proprietary (1,722.70) (3,050.96) (7,423.35) 11,113.60
Foreign (5,068.91) (24,376.24) (40,489.38) 20,213.41
Individual (924.66) 10,393.65 28,389.11 (47,673.45)
AECS ( Fundamental and Strategic Team )
จิรภัทร โบสุวรรณ (ID. 040051) [email protected]
ตฤณ สิทธิสวัสดิ์ (ID. 091364) [email protected]
ภัทรพล จันทร์อินทร์ (ID. 089932) [email protected]
ธีรยุทธ ฤทธิเผ่าพันธุ์ ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์ Data Support / Secretary