ภาวะตลาดและปัจจัย : SET วันศุกร์ +27.37 จุด ปิดที่ 1631.40 จุด มูลค่าการซื้อขายบางลงเป็น 66 พันล้านบาท ดัชนีฯ บวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ผ่อนคลาย LTV ช่วยผู้กู้ร่วมซื้อบ้านได้ง่ายขึ้น ไม่ติดไปกับผู้กู้ตรง จีนมีทีท่าอ่อนข้อสงครามการค้ามากขึ้น จากก่อนหน้าจะมีมาตรการตอบโต้สหรัฐ ตัวเลขยอดค้าปลีกก.ค.สหรัฐดีกว่าคาด ผู้ซื้อสุทธิรายเดียวคือ สถาบัน 7.7 พันล้านบาท ส่วนขายสุทธิเป็นต่างชาติ 5.1 พันล้านบาท โบรกเกอร์ 1.7 พันล้านบาท และรายย่อย 0.9พันล้านบาท ตั้งแต่ต้นเดือนถึงปัจจุบันต่างชาติขายสุทธิเป็น 40.8 พันล้านบาท ด้านแนวโน้มตลาดและกลยุทธ์คือ

# ปัจจัยสำคัญ: บวก...จากบอนด์ยิลด์ปรับตัวดีขึ้น คลายกังวลเศรษฐกิจชะลอ จีน-เยอรมันมีแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ อีกทั้งมีข่าวว่าเรื่องอังกฤษจะออกจากอียูแบบไร้ข้อตกลง สถานการณ์ดีขึ้น ตัวเลขค้าปลีก ก.ค.สหรัฐเพิ่มขึ้น ดาวโจนส์และน้ำมันปรับขึ้นดีเช่นเดียวกับตลาดล่วงหน้า มีแรงขายทองคำเข้าสินทรัพย์เสี่ยงตลาดหุ้นเพื่อนบ้านเช้านี้ส่วนใหญ่บวก เงินบาทแข็งค่า มีโมเม็นตัมดีจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ ด้านปัจจัยลบคือ ต่างชาติขายสุทธิต่อเนื่อง MSCI ลดนํ้าหนักตลาดหุ้นไทย และดัชนีเป้าหมายถูกปรับลง หลัง 2Q ไม่ดี

# ระยะสั้นคาด SET-ลุ้นรีบาวด์ มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และช่วยอสังหาฯ ผ่อนคลาย LTV คาดมีแรงเก็งกำไรเข้ามา โดยเฉพาะหุ้นขนาดใหญ่ และหุ้นอสังหาฯ Top Pick AP, ORI หลังธปท.ผ่อนคลาย LTV หลักทรัพย์ได้ประโยชน์ลดดอกเบี้ย อสังหาฯ เช่าซื้อ และหุ้นมีหนี้เงินกู้มาก ดอกเบี้ยจะลด กลยุทธ์ คือ ซื้อสะสม แนวต้านเป็น 1650-1668 จุด แนวรับที่ 1620-1610 จุด สำหรับการลงทุนทยอยซื้อสะสมเมื่ออ่อนตัว ส่วนกลุ่มหลักทรัพย์ที่แนะนำเป็น Domestic Playพื้นฐานดี ได้รับผลบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ แต่หาจังหวะทยอยสะสมได้ คือ พาณิชย์- CPALL, BJC ท่องเที่ยว- ERW,MINT ขนส่ง AOTอาหาร CPF,TU,TKN สื่อสาร- ADVANC ไฟแนนซ์- KKP,TISCO, TCAP และสื่อ- VGI แต่หุ้นรับเหมา ระยะนี้ควรชะลอลงทุน เพราะ กำไร 2Q62 ส่งสัญญาณไม่ดีและเมกะโปรเจ็กต์ขาดช่วง

# Stock Pick Today : BBL ตั้งเป้าสินเชื่อปีนี้ขยายตัว 4% แม้ว่าสินเชื่อ 1H62 จะ-3.2% แต่ธนาคารคาดว่าการเติบโตสินเชื่อจะเร่งตัวขึ้นใน 2H62 โดยเฉพาะใน4Q ที่เป็นช่วง High ของการปล่อยสินเชื่อ ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย (NIM) ทรงตัวที่ 2.4% NPL ที่เพิ่มใน 2Q62 เป็น NPL ย้อนกลับ (Re-entry NPL) Valuation จูงใจ...คงคำแนะนำซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 250 บาท ณ ราคาปัจจุบัน 182.50 บาท ซื้อขายที่ P/BV ปีนี้ต่ำเพียง 0.75 เท่า และให้ Dividend yield ประมาณ 3.7%-4.2% ส่วนธุรกิจมีแนวโน้มจะดีขึ้นใน 2H62 

Thailand Research Team : reseach-th.dbs.com

 

Inside Story

Key Drivers TODAY : ปัจจัยต่างประเทศ / ปัจจัยในประเทศ

Company Guide : HUMAN (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 12.20)

Flash Note : CENTEL (ถือ -ราคาพื้นฐาน 35.00)

U (Not Rated)

In The News : มาตรการกระตุ้นการอุปโภคบริโภคของรัฐบาล @ 16 ส.ค.62

TISCO (ซื้อจังหวะอ่อนตัว -ราคาพื้นฐาน 102)

 

Key Drivers TODAY

ปัจจัยต่างประเทศ

+ สหรัฐ : บอนด์ยิลด์ยาว ปรับตัวดีขึ้น คลายกังวลเศรษฐกิจชะลอ

# อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐทั้งอายุ 10 ปีและ 30 ปีปรับตัวขึ้น หลังจากร่วงลงอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งได้ช่วยคลายความวิตกของนักลงทุนเกี่ยวกับแนวโน้มที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย

# อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1.56% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 2 ปี ปรับตัวขึ้นแตะระดับ 1.49%

 

+/- สหรัฐ : ตัวเลขค้าปลีกปรับตัวดีขึ้น แต่ความเชื่อมั่นผู้บริโภคยังลดลง

# รายงานการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่แข็งแกร่งในเดือนก.ค.เป็นแรงหนุนตลาด สำนักงานสำมะโนประชากรสหรัฐเปิดเผยว่าการใช้จ่ายของผู้บริโภคสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง โดยยอดค้าปลีกและบริการด้านอาหารเพิ่มขึ้น 0.7% สู่ระดับ 5.235 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนก.ค.ยอดค้าปลีกปรับตัวขึ้นในหลายธุรกิจในเดือนที่ผ่านมา รวมถึงการค้าปลีกออนไลน์ ร้านขายของชำรวมถึงร้านขายเสื้อผ้า, สินค้าอิเล็กทรอนิก และเครื่องใช้ไฟฟ้า

# ส่วนผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวลงแตะระดับ 92.1 ในเดือนส.ค.ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดในรอบ 7 เดือน โดยลดลงจากระดับ 98.4 ในเดือนก.ค. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ97.2

 

+ จีน-เยอรมัน: มีแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ อังกฤษดีขึ้นในเรื่อง Brexit

# มีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นจากแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน และรัฐบาลเยอรมนี อาจจะออกมาตรการกระตุ้นด้านการคลัง

# คลายความกังวลลงหลังมีข่าวอังกฤษอาจจะสามารถหลีกเลี่ยงภาวะ Brexit แบบไร้ข้อตกลงได้

 

+ ดาวโจนส์: ปรับตัวขึ้นดี คลายกังวลเศรษฐกิจชะลอ

# ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,886.01 จุด พุ่งขึ้น 306.62 จุด หรือ +1.20% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่2,888.68 จุด เพิ่มขึ้น 41.08 จุด หรือ +1.44% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,895.99 จุด เพิ่มขึ้น 129.38 จุด หรือ +1.67%

# ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดปรับตัวขึ้นเมื่อวันศุกร์ (16 ส.ค.) โดยได้แรงหนุนหลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐดีดตัวขึ้น ซึ่งช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย และนักลงทุนปรับตัวรับการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่เป็นไปอย่างไร้ทิศทาง

 

+ น้ำมัน: ปรับขึ้น คลายกังวลเศรษฐกิจชะลอ

# สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 40 เซนต์ หรือ 0.7% ปิดที่ 54.87 ดอลลาร์/บาร์เรล

# สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 41 เซนต์ หรือ 0.7% ปิดที่ 58.64 ดอลลาร์/บาร์เรล

# สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (16 ส.ค.) เนื่องจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่ฟื้นตัวขึ้น ได้ช่วยคลายความวิตกของนักลงทุนเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย

 

+ ทองคำ: ปรับลง หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฟื้นตัวขึ้น

# สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 7.60 ดอลลาร์ หรือ 0.5% ปิดที่1,523.60 ดอลลาร์/ออนซ์

# สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อวันศุกร์ (16 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนขายทองซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย ขณะที่ตลาดหุ้นและดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้น หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฟื้นตัว และรัฐบาลสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ซึ่งทำให้นักลงทุนคลายความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถอย

 

ปัจจัยในประเทศและข่าวหลักทรัพย์

+ กระทรวงการคลัง ชง 3 มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเร่งด่วน คาดเกิดเม็ดเงินหมุนเวียนไม่ต่ำกว่า 2 แสนลบ.

#1) มาตรการช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง เช่น การช่วยเหลือเกษตรกรผ่อนคลายหนี้สินสนับสนุนพิเศษด้านดอกเบี้ย ทั้งสนับสนุนสินเชื่อใหม่และต้นทุนการเพาะปลูก ด้วยการชดเชยการปลูกข้าว 4 ล้านครัวเรือน 500-800 บาทต่อไร่ จำนวนไม่เกิน 15 ไร่ วงเงินช่วยเหลือ 57,000 ล้านบาท ส่วนเงินกู้ฉุกเฉินรองรับภัยแล้ง ปล่อยกู้ 5 แสนบาท/ราย ยกเว้นดอกเบี้ยปีแรก รวมวงเงิน 55,000 ล้านบาท

2) มาตรการดูแลปรับเพิ่มสวัสดิการสำหรับผู้มีรายได้น้อยผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ แปรไปตามรายได้

3) มาตรการกระตุ้นการอุปโภคบริโภคและการลงทุนในประเทศ เช่น การกระตุ้นการท่องเที่ยวทั้งเมืองหลักและเมืองรองให้กระจายสู่ในท้องถิ่นทุกพื้นที่ จากการใช้จ่ายอุปโภคบริโภค ที่พัก และการช้อปสินค้าชุมชน เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเตรียมมอบเงินให้ 1,500 บาทสำหรับท่องเที่ยวทั่วประเทศ เป้าหมาย 10 ล้านคน

# สำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและผู้ประกอบการรายเล็กทั่วประเทศ รัฐบาลก็ได้เตรียมมาตรการพิเศษ เพื่อช่วยเหลือให้สามารถเข้าถึงเงินทุน เพื่อรักษาสภาพคล่อง รวมถึงสนับสนุนการลงทุนเพื่อปรับเปลี่ยนเครื่องจักรด้วย

 

+ รมว.คลัง สร้างความเชื่อมั่นต่อคณะสภาธุรกิจสหรัฐอเมริกา-อาเซียนพื้นฐานเศรษฐกิจไทยยังแข็งแกร่ง

# รมว.คลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ให้หน่วยงานเศรษฐกิจติดตามสถานการณ์ความผันผวนเศรษฐกิจโลก ตลาดหุ้นไทย และการเกิดภาวะพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐระยะสั้นสูงกว่าระยะยาว (อินเวิร์ท ยีลด์ เคิร์ฟ) เพื่อนำเข้าหารือในที่ประชุม ครม.เศรษฐกิจนัดแรก วันที่ 16 ส.ค. 62 โดยยอมรับว่าตลาดหุ้นไทยที่ปรับลดลงมากมีผลกระทบจากเศรษฐกิจภายนอก ซึ่งเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับตลาดหุ้นทั่วโลก โดยสิ่งที่รัฐบาลพยายามทำคือการทำให้เศรษฐกิจในประเทศเข้มแข็ง ซึ่งมั่นใจว่าการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะเร่งด่วนจะรับมือกับภาวะเศรษฐกิจโลกผันผวนได้

 

+ สหรัฐขึ้นภาษีสินค้าจีนรอบใหม่ ชี้เป็นโอกาสส่งออกสินค้าไทยขายสหรัฐ

# "พาณิชย์" ตามติดสหรัฐขึ้นภาษีสินค้าจีนรอบใหม่ ชี้เป็นโอกาสส่งออกสินค้าไทยขายสหรัฐ เอกชนสหรัฐ ตบเท้าพบจุรินทร์

 

+ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่าเตรียมนำเสนอ 3 มาตรการเสริมการใช้จ่าย เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

# รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่าเตรียมนำเสนอ 3 มาตรการเสริมการใช้จ่าย เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศในช่วงปลายปี วงเงิน 15,000 ล้านบาท เข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้เงินกระจายสู่ชุมชน หมุนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวทุกพื้นที่ โดยความชัดเจนจะเกิดขึ้นในวันที่ 23 ส.ค. เพราะต้องประกาศดำเนินมาตรการเสริมนี้ในช่วง 4 เดือนสุดท้ายของปี 

 

นักวิเคราะห์&กลยุทธ์ : สมบัติ เอกวรรณพัฒนา : [email protected]